Amphawa Diary 2

มาต่อกันตอนที่สอง
หลังจากที่มาถึงตลาดน้ำอัมพวากันแล้ว
ก็เริ่มเดินเล่นไปเรื่อย
ถ่ายรูปบ้าง แต่เน้นกินมากกว่า
ด้วยฝนฟ้าไม่เป็นใจ
ตกหนัก สลับเบา
แต่ก็ตกตลอดนะ ไม่มีหยุดเลย
ทำให้ไม่ค่อยได้ถ่ายรูปเท่าไหร่
ได้รูปแบบขำๆ เหมือนกล้องคอมแพค ฮ่า..ฮ่า
บางรูปไม่ได้มืด (จริง) ก็ process ให้มันมืดซะงั้น 😛
เอาไว้คราวหน้าไปแก้ตัว

ภาพที่เห็นตลาดน้ำอัมพวา คือใช่เลย
เหมือนที่เคยเห็นจากอินเทอร์เนท รวมกับจินตนาการ ว่าประมาณนี้

แมวดื้อใช้วิธี เดินลัดเลาะ ลอดใต้สะพานเข้าไป
ไม่ใช่เส้นทางเดินปกติ
เอิ้ก..เอิ้ก
เดินไปเริ่มทัวร์ ที่ป้ายถนน

เริ่มหิวแล้ว
นี่ก็ปาไปสี่โมงเย็น ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย
ขอประเดิมกับร้านนั่งสบายๆ ก่อนนะ
กับ หอยทอด ผัดไท และ ไข่ปลาหมึกทอด
ดังที่ tweet ผ่าน twitter ไป อิอิ

หลังจากนั้น เดินกลับมาที่สะพาน
เล็งพิกัดน่าสนใจก่อน ว่ากินอะไรอีกดี
ทั้งที่ซัดโฮกชุดแรกมาแล้ว

ว่าแล้วก็เลืิอกเส้นทางที่คนอยู่กันเยอะๆ
อาหารที่นี่ คล้ายกับตลาดน้ำที่อื่น
ผัดไท หอยทอด ส้มตำ หมูสะเต๊ะ
ก๋วยเตี๋ยวต่างๆ
แต่ที่ค่อนข้างพิเศษ ก็ดูเหมือนจะเป็นพวกอาหารตามสั่ง
ที่ล้วนแต่เอาอาหารทะเลสดๆ มาปรุง ให้นักชิม ได้ลิ้มลอง
อาทิเช่น ไข่เจียวหอยเชลล์ กุ้งอบวุ้นเส้น หรือปลาหมึกทอดกระเทียม
ราคาก็ถือว่าไม่แพงมาก ถ้าเทียบกับคุณภาพ ที่เรียกว่าสดจริงๆ
พวกอาหารตามสั่ง ก็จะอยู่ในร้านที่ปักหลักแน่นอน
แต่ถ้าอยากกินอาหารกินเล่น ก็แน่นอน ตามเรือได้เลย
ราคาอาหารโดยทั่วไป ก็ประมาณนี้

หากจะกินอาหารที่ขายบนเรือ หาที่นั่งยึดตลิ่งได้เลย
นั่งกันเป็นขั้นบันได
เดี๋ยวจะมีแม่ค้ามาตะโกนถามเอง ว่าจะเอาอะไร
เครื่องปรุง ขอคนข้างๆ เอา เพราะมันจะวนไปเรื่อยๆ

ก๋วยเตี๋ยวเรือ เย็นตาโฟ 10 บาทเท่านั้น

รูปข้างบนเห็นเรือลำนี้ลางๆ
ให้ดูกันแบบจะๆ
ปลาหมึกจ้า ปลาหมึก
ย่างกันบนเรืิอเลย
ตัวใหญ่ๆ สดๆ จิ้มกับน้ำจิ้มพริกแบบทะเล
สุดยอดมาก 

เรือหอยเชลล์ย่าง เข้าเทียบกับเรือขายกาแฟโบราณ

คนเยอะ เป็นประจำในวันหยุดสุดสัปดาห์แบบนี้
หลังจากเดินผ่านร้านน่าสนใจมาหลายร้าน
หลบผู้คนที่จับจ่ายซื้อหาของกิน และผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน
ก็มาถึงร้านนี้ แวะพักตากพัดลมเล็กน้อย อากาศเริ่มอบได้ที่ ทั้งที่ฝนตกแบบนี้

ร้านลูกชิ้น ที่แต่งร้านได้เก๋ไก๋
สั่งลูกชิ้นมาก่อนเลย

ตามด้วยลอดช่อง

บนโต๊ะที่เครื่องดนตรีเล็กๆ อย่างเช่น ตะโพน หรือระนาด
ให้เล่น จนหนวกหู ขณะรอแม่ค้ายกมาเสิร์ฟ

หลังจากที่ซัดลูกชิ้น ตามด้วยเบิ้ลลอดช่อง
ก็มาเดินกันต่อ
ร้าน “กำปั่น”
มีทั้งของคาว ของหวาน เครื่องดื่ม ที่น่าสนใจ
เห็นป้ายน้ำพริกลงเรือ ไอศครีมโฮมเมด และน้ำ “มะเน็ด” แล้ว คราวหน้าต้องมาลองที่นี่

ยืนตรง เคารพธงชาติ หกโมงเย็นพอดิบพอดี
ได้เวลาจากอัมพวา กลับเข้าสู่เมืองหลวงเสียที
รถตู้เที่ยวสุดท้าย ออกตอนทุ่มนึง
แม้ว่าจะเห็นป้ายบนรถสองแถว แจ้งว่า ปรับเวลาใหม่ จนถึงสองทุ่ม
แต่ก็ห่วงว่า อาจไม่มีรถ หรือนักท่องเที่ยว ที่ไม่ได้เอารถมา อาจกลับพร้อมๆ กัน
เลยเผื่อเวลาไว้เล็กน้อย

รูปนี้ตลกมาก คืออยู่ตรงทางเดิน
ไม่มีใครสนใจ พอยกกล้องถ่าย 2-3 ชอตแค่นั้น
ตากล้องไม่รู้มาจากไหน ถ่ายรูปกันใหญ่เลย
ไม่เห็นกันหรือไงฟร่ะ

เดินย้อนกลับมา
มีร้านขายของที่ระลึก
รับถ่ายรูป แล้วทำโปสการ์ดเลยทันที
ขอบคุณคู่รักหวานแหววที่อยู่ด้านใน (ติดมาด้วยนิดนึง)
ตู้ไปรษณีย์น่ารักๆ ที่มีโปสการ์ด blythe แปะอยู่ (ตามมาหลอกหลอนถึงที่นี่เลย)

เดินข้ามสะพานกลับมา
นักท่องเที่ยวก็ยังไม่บางตาเท่าไหร่เลย
ย่อรูปเล็กไปหน่อย เรือลำที่แม่ค้าใส่เสื้อสีเทา ขาย “ส้มตำทอด” ยังมีอยู่เต็มลำ สงสัยเพิ่งจะมา

ค่ำแล้ว.. แต่คนยังคึกคักกันอยู่เลย
มีเรือรอนักท่องเที่ยว พาไปทัวร์ทั้งหิ่งห้อยจริง และหิ่งห้อยเทียม

รูปสุดท้าย ก่อนจากตลาดน้ำอัมพวา
หากมีโอกาส คงได้มาอีกแน่ๆ

หลังจากเดินข้ามสะพานกลับมายัง ตำแหน่งที่กระโดดลงจากรถสองแถวแล้ว
รอไม่นาน ก็มีรถสองแถวผ่านมาพอดี
รถสองแถว พากลับมายังแม่กลองอย่างรวดเร็ว
ตอนขาไป นานมาก อาจเป็นเพราะฝนตกกระมัง
หกโมงครึ่ง เดินไปที่ท่ารถตู้
คราวนี้ไม่ยาก เพราะลงจากรถสองแถว ก็เจอท่ารถตู้เลย
จ่ายเงินเรียบร้อย
พี่ที่คิวรถตู้บอก ต้องรอรถ อีก 20 นาที ถึงจะมา
เลยมีเวลา yummy กับโรตี และก๋วยเตี๋ยวน้ำ หน้าคิวรถตู้กันต่อ
หกโมงสี่สิบห้า รถตู้คนนึงก็มาจอด
ด้วยความไว ก็ขึ้นก่อนเลย
เสียบหูฟัง ไอโฟน ตั้งท่าจะฟังเพลงแล้วหลับไปเลย
พี่คนขับ ก็เดินมาบอกว่า “พี่ขอนะครับ นี่เที่ยวสุดท้ายแล้ว ขอนั่งกันแถวละ 4 คนแล้วกัน”
จ๊ากก
เพิ่งจะทุ่มเดียว
คันสุดท้าย
ดีนะ.. ที่ไม่บ้าจี้ รอกลับตอนสองทุ่ม มีหวังได้นอนโฮมสเตย์แถวนี้แน่ๆ
แถวละ 4 คน ก็เอาฟร่ะ รถใหม่ ก็ไม่ได้คับแคบอะไร
จะจ่ายเท่าเดิม ก็ช่าง ขอให้ได้กลับก็แล้วกัน
และแล้ว อีกหนึ่งชั่วโมงถัดมา ก็มาถึงอนุสาวรีย์ชัย อย่างปลอดภัย
ไปแวะซื้อเสบียงที่พารากอน แล้วไปซัดโฮกที่บ้านหวานใจต่อ
ฮ่า..ฮ่า
สรุป ทริปนี้ ซัดโฮกเยอะมาก แต่ไม่ค่อยอยู่ท้อง
คือ.. ตอนกินมันอิ่มนะ แต่พอเดินๆ ไปสักพัก มันก็หิวอีก
กลับมายังซัดข้าวหมูแดงกับมาม่าได้ต่อ
อ้อ.. ขนมปังเบเกอรี่อีก
ชั่งน้ำหนักก่อนนอน
+2KG!!
– -“