Queen Park

สัปดาห์ที่แล้ว แมวดื้อไม่ค่อยสบาย
หวานใจ ออกไปถ่ายรูปกับพี่เสือตอนเช้า
เริ่มเบื่อสวนรถไฟกันแล้วมั้ง
เลยไปถ่ายรูปกันที่ สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ
พอดี manager online เขียนถึงสวนนี้พอดี
จิ๊กมาอีกเช่นเคย
เห็นมีพรรณไม้เยอะเหมือนกัน เอาไว้ไปฝึกถ่ายมาโครดีกว่า

“สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ” สวนของแม่ เพื่อคนรักต้นไม้


ภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา

       เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศของวันแม่ 12 สิงหาคมอย่างนี้ ฉันจึงเลือกมาเที่ยวยัง “สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ” สวนขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใกล้กับ ตลาดนัดสวนจตุจักร ที่ภาครัฐและเอกชน ได้ร่วมกันสมทบทุนสร้างถวาย เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถทรงมีพระชนมพรรษา 60 พรรษาในปี 2535 

       จากนั้นอีก 12 ปีต่อมา สวนแห่งนี้ก็ถูกทำให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น เนื่องจากมูลนิธิสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ได้จัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาขึ้นในพื้นที่ส่วนหนึ่งของสวน เพื่อสนองพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่ทรงสนพระทัยให้มีการอนุรักษ์พรรณไม้หอมต่างๆ ไม่ให้สูญพันธุ์ และให้เป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย และในโครงการนั้นเอง ก็ทำให้เกิดสิ่งที่น่าสนใจต่างๆ ภายในสวนมากมาย ที่ฉันจะพาไปชมกันวันนี้


ต้นไม้ร่มรื่นภายในอาคารพรรณไม้ไทยฯ

       ฉันก้าวเท้าเข้ามา ในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ ทางฝั่งประตูใกล้กับพิพิธภัณฑ์เด็ก เมื่อเข้ามาปุ๊บ ก็เริ่มเห็นสีสันสดใสของบรรดาดอกไม้ใบหญ้า ภายในสวนฯ ทางซ้ายมือของประตูทางเข้า มีอาคารสีขาวหลังใหญ่ตั้งอยู่กลางแมกไม้ ฉันจะเริ่มต้นชมสวนฯ จากอาคารนี้เป็นที่แรก เพราะนี่คือ “อาคารเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา” ที่จะทำให้เรารู้จักกับภาพกว้างๆของสวนฯ และรู้จักที่มาของโครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษาอีกด้วย

       เมื่อเดินเข้ามาภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ นั้น ก็จะเห็นพระบรมฉายาลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พร้อมกับตัวหนังสือซึ่งเป็นพระราชดำรัสของพระองค์ที่ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” ซึ่งแสดงให้เห็นความสนพระทัยของพระองค์เกี่ยวกับป่าไม้มาโดยตลอด


ทางเดินในสวนพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อผู้พิการทางสายตา

       เรื่องราวภายในอาคารเฉลิมพระเกียรติฯ นอกจากจะมีเรื่องเกี่ยวกับโครงการพระราชดำริของ ก็จะเป็นเรื่องราวของสมเด็จพระนางเจ้าฯ กับพรรณไม้ต่างๆ ได้แก่ พรรณไม้เฉลิมพระเกียรติ เช่น กุหลาบควีนสิริกิติ์ ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ พรรณไม้พระราชทานนาม เช่น ดุสิตา นิมมานนรดี มณีเทวา และพรรณไม้หอมที่โปรด เช่น กุหลาบมอญ นางแย้ม สายหยุด

       นอกจากนั้นก็ยังมีวงศ์ไม้เด่น 5 วงศ์ในด้านพฤกษศาสตร์ที่มี ในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์จากทั้งหมด 106 วงศ์ ได้แก่ วงศ์เข็ม ที่มีอยู่ด้วยกัน 52 ชนิด เช่น ดอนญ่าควีนสิริกิติ์ เข็มชะวา พุดน้ำบุษย์ ฯลฯ วงศ์กล้วย ซึ่งมี 3 ประเภทคือ กล้วยป่า กล้วยกินได้ และกล้วยประดับ รวมกันแล้วกว่า 68 ชนิด เช่น กล้วยดารารัศมี กล้วยร้อยหวี ฯลฯ


ด้านหน้าอาคารพรรณไม้ไทยฯ

       วงศ์ปาล์ม ที่มีปาล์มพันธุ์ไทย 57 ชนิด และปาล์มพันธุ์ต่างประเทศ 41 ชนิดด้วยกัน เช่น หมากแดง ตาลโตนด ช้างร้องไห้ ฯลฯ วงศ์ลั่นทม มี 57 ชนิด เช่น ลั่นทมลูกศร รำเพย ยี่โถ ฯลฯ และสุดท้ายคือวงศ์บัว มีสองวงศ์คือบัวหลวง และบัวสาย

       อ่านข้อมูล ในอาคารเฉลิมพระเกียรติฯดู แค่นี้ก็พอจะรู้แล้วว่า สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์นี้ ไม่ใช่เป็นเพียงสวนธรรมดาๆ ที่เอาไว้เดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจ แต่ถือได้ว่าเป็นสวนพฤกษศาสตร์ ที่รวมเอาพรรณไม้นานาพรรณ ไว้ให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษากัน


บัวดอกงามๆในลานบัว

       ออกจากอาคารเฉลิมพระเกียรติฯแล้ว เราข้ามมาดูกันอีกอาคารหนึ่งคือ “อาคารพรรณไม้ไทย เทิดไท้ บรมราชินีนาถ” ที่ประกอบด้วยอาคาร 3 หลังเชื่อมต่อกัน คืออาคารพรรณไม้ภาคกลาง และภาคตะวันตก อาคารพรรณไม้ภาคใต้ และภาคตะวันออก และอาคารพรรณไม้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มีตัวอย่างต้นไม้ จากแต่ละภูมิภาคมาปลูกไว้ภายใน และทำเป็นทางเดินในสวน ให้เดินชมต้นไม้เหล่านี้กันอย่างใกล้ชิด

       บริเวณด้านหน้าอาคารพรรณไม้ไทยฯ เป็นที่ตั้งของ “สวนพระมหากรุณาธิคุณ เพื่อผู้พิการทางสายตา” ซึ่งเป็นสวนสำหรับผู้พิการทางสายตาแห่งแรกของประเทศไทย ในบริเวณสวนแห่งนี้ ก็จะปลูกไม้ดอกกลิ่นหอมๆ เช่นกุหลาบกอใหญ่ เพื่อให้ผู้พิการทางสายตา ได้สัมผัสกับกลิ่นของดอกไม้ แทนการมองเห็น มีราวเหล็กไว้ให้จับเดินตลอดทาง


ชบาสีชมพูหวานในลานชบา

       อีกทั้งบนราวเหล็ก ก็ยังมีอักษรเบลล์เป็นบางช่วง เพื่อให้ผู้พิการทางสายตา ได้ทราบข้อมูลว่า ขณะนี้เขากำลังเดินอยู่ใกล้พรรณไม้อะไร มีลักษณะเป็นอย่างไร อีกทั้งบางช่วงของทางเดิน ก็จะมีเสียงผู้บรรยายดังขึ้น อธิบายถึงต้นไม้ที่อยู่บริเวณนั้นด้วย นับว่าเป็นแหล่งเรียนรู้อีกแห่งหนึ่ง ของผู้พิการทางสายตาได้ดีทีเดียว

       และบริเวณใกล้เคียงกันนั้นก็ยังมี “สวนไม้หอมน้อมเกล้าฯ” ที่รวบรวมพรรณไม้หอมประเภทต่างๆ ทั้งประเภทที่มีดอกหอม เปลือกไม้หอม เนื้อไม้หอม ใบหอม ผลหอม ยางหอม หอมไปหมดทั้งต้น ให้ได้รู้จักกัน และ “สวนพรรณไม้ อันเกี่ยวเนื่องกับ สถาบันพระมหากษัตริย์” เช่น พรรณไม้พระนาม พรรณไม้ที่โปรด และพรรณไม้บางชนิด ที่เกี่ยวเนื่องกับ โครงการพระราชดำริ รวมไปถึงพรรณไม้ที่ได้รับพระราชานุญาต ให้ตั้งชื่อตามพระนามาภิไธย ถ้าใครอยากเห็นมะม่วงมหาชนก ใบไม้สีทอง ก็มาหาความรู้กันได้ที่นี่


บรรยากาศภายในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์

       ทั้ง 5 สิ่งที่ว่ามาทั้งหมดนั้น ก็เป็นสิ่งที่จัดทำขึ้นในโครงการเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษานั่นเอง แต่ใช่ว่าสิ่งที่น่าสนใจ ภายในสวนจะหมดเพียงเท่านี้ เพราะยังมีพื้นที่อีกเกือบ 200 ไร่ ให้เดินชมต้นไม้กันอย่างจุใจ สมดังความตั้งใจที่จะสร้างสวนนี้ให้เป็น “ป่าเล็กในเมืองใหญ่” ที่มีระบบนิเวศและความหลากหลาย ที่สมบูรณ์คล้ายกับป่าธรรมชาติ

       ฉันเดินเลียบเลาะริมสระน้ำในสวนฯไปเรื่อยๆ มองจากระดับสายตา ก็จะเห็นเป็นสระน้ำธรรมดา แต่หากบินขึ้นไปบนฟ้า แล้วมองลงมาแล้วจะเห็นว่าสระน้ำนั้น เป็นรูปตัวอักษรไทย ส เสือ และตัวอักษรภาษาอังกฤษ S เกาะเกี่ยวกันอยู่ และบริเวณรอบๆ สระน้ำนั้น ก็มีต้นไม้หลากหลายชนิด ทั้งไม้ดอกไม้ใบให้เลือกชม เช่น สวนไม้มงคลพระราชทาน 76 จังหวัด ที่จำลองแผนที่ประเทศไทย และปลูกไม้มงคลพระราชทาน ประจำจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด ตามตำแหน่งของแต่ละจังหวัด ลานชบา ที่มีดอกชบาหลากหลายสี ออกดอกสวยๆแข่งกัน ลานอโศก ต้นไม้ที่ฉันมักเคยได้ยินชื่อ แต่ไม่เคยเห็นตัวจริง ลานบัว ที่มีดอกบัวงามๆ บานอยู่ในสระน้ำหลายต่อหลายดอก และสวนหิน ที่จัดวางหินขนาดต่างๆ ไว้อย่างน่าชม


สวนหินที่ตกแต่งไว้อย่างงดงาม

       แม้สิ่งที่น่าสนใจ ในสวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์จะมีอยู่มากมาย แต่หากใครจะไม่เดินชมให้ทั่ว ฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก เพราะเข้าใจว่าสวนแห่งนี้ช่างกว้างใหญ่ไพศาล แต่สำหรับคนที่รักต้นไม้ และกำลังศึกษาเกี่ยวกับพรรณไม้อยู่ละก็ แม้สวนจะกว้างแค่ไหน ขาจะเมื่อยล้าเพียงใด ก็ถือว่าคุ้มค่ากับการได้มาชมมากทีเดียว

 

       สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ตั้งอยู่ที่ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. 10900 เปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.30-18.30 น. ที่ตั้งของสวนฯ อยู่ในรั้วเดียวกับพิพิธภัณฑ์เด็ก และอยู่บริเวณด้านหลังสวนจตุจักร ติดกับสวนวชิรเบญจทัศ (สวนรถไฟ) หากมาจากทางถนนกำแพงเพชรสอง มุ่งหน้าถนนพหลโยธิน สวนฯ จะอยู่ทางซ้ายมือ มีที่จอดรถให้บริการ สามารถนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีหมอชิต หรือรถไฟใต้ดินมาขึ้นที่สถานีกำแพงเพชร แล้วเดินต่อมายังสวนฯ หรือหากเดินทางมาโดยรถประจำทาง ก็มีรถสาย 3, 8, 28, 29, 44, 52, 59, 69, 108, 134, 138, 145, 509, 510, 512, 134 ฯลฯ ผ่านบริเวณด้านหน้าสวนจตุจักร สอบถามรายละเอียดโทร.0-2272-4358 

Link: Manager Online