วันนี้ตื่นสาย
เนื่องจากเมื่อคืนไปท่องราตรีมา
ฮ่า..ฮ่า
ไปกินโจ๊กปรินท์ (บางรัก)
ร้านนี้อยู่ไม่ไกลจากแมวดื้อเท่าไหร่
นั่งรถไปแป้บเดียวก็ถึง
เปิดถึงดึกดื่น
ลูกค้าประจำค่อนข้างเยอะ เพราะเปิดมานานแล้ว
โจ๊กอุ่นๆ ย่อยง่ายๆ
เหมาะสำหรับการขาดอาหารมาทั้งวัน
กระเพาะจะได้ทำงานไม่หนักมาก
แม่ค้าเล่น blythe (นาตาชา มัวร์) ด้วย
แล้วก็ต่อด้วย McDonald ที่เปิด 24 ชั่วโมง
ฝั่งตรงข้าม
คืนนี้ คนไม่เยอะนัก
ตรงส่วนเก้าอี้โซฟาดับไฟไปแล้ว
แต่ก็ยังมีเก้าอี้เบาะนิ่มๆ ให้ได้เลือกนั่งสบายๆ
มีฝรั่งเข้ามาคุยเรื่องไอโฟนสักพัก เมื่อเห็นนั่งเล่นอยู่
กลัวว่าโจ๊กจะไม่อยูท้อง ก็เลยต่อด้วยเจ้านี่
กว่าจะได้นอนก็เช้าแล้ว
ตื่นสายมา ก็ออกไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. เสียหน่อย
จากนั้นบ่ายแก่ๆ ก็นัดหวานใจ ไปลองนั่งที่ร้านวาวีดู
วันก่อนอ่านผ่านตาในเว็บ สถานที่ดีทีเดียวเลย
ร้านวาวี เป็นร้านกาแฟเล็กๆ ที่อยู่ในซอยอารีย์สัมพันธ์
ถ้ายืนอยู่บนสถานี BTS อารีย์ ก็จะเห็นร้านชัดเจน
การเดินทางไม่ยากอะไร
ลงจากสถานี BTS อารีย์ ที่ทางออกที่ 3 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้าม la villa
พอลงจากบันไดปุ๊บ ก็จะเห็นตึก “อาคารปิยวรรณ”
ให้เดินในซอยเล็กๆ ด้านขวาของตึก ทะลุออกมาที่ซอยอารีย์สัมพันธ์
แล้วเลี้ยวซ้าย ก็จะเห็นป้ายร้ายวาวี
วันนี้ไม่ค่อยมีอารมณ์ถ่ายรูปหรือกินอะไร
เล่าให้ฟังผ่านๆ แล้วกัน
ร้านนี้ ก็ขายกาแฟเป็นหลัก
มีเบเกอรี่บ้างเล็กน้อย
ราคาก็เฉกเช่นร้านกาแฟทั่วไป
สามารถนำบิลที่สั่งมาแลก wifi internet account
ได้ฟรี 1 ชั่วโมง ต่อบิลราคา 45 บาท
ตรงนี้ ถือว่า อาจจะเสียเปรียบร้านอื่นอยู่สักหน่อย
เนื่องจาก ต้องมีการแลก นั่น โน่น นี่
ร้านกาแฟส่วนใหญ่ ปัจจุบัน หันมาให้บริการ free wifi กันแล้ว
แถมลอง connect ดู ความเร็ว ก็ไม่ค่อยจะดีนัก เล่น EDGE/GPRS ยังเร็วเสียกว่า
ลองสั่ง espresso มาลองดู
แก้วนี้ ราคา 90 บาท
หอมพอสมควร แต่ไม่ค่อยเข้มนัก
ถือว่าชาวกาแฟที่ชอบหน้าตา มากกว่ารสชาด น่าจะโอเค
ถัดมาจากเรื่องเครื่องดื่มและ wifi
ก็เป็นเรื่องสถานที่
ที่ต้องยอมรับว่า ร้านน่ารักมั่กๆ เหมาะแก่การนั่งชิล ชิล
แต่.. ก็ขอติ (อีก)
ว่าทางร้าน อาจจะจัดที่นั่ง เพื่อรองรับลูกค้าจำนวนมาก
ผลก็คือ โต๊ะ เก้าอี้ เรียงกัน แน่นไปหมด น่าอึดอัด
ที่นั่งภายในร้าน (ติดแอร์) แต่แอร์ไม่เย็น
อันนี้สำหรับแมวดื้อ ก็ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร
แต่หากเป็นพี่แมค หรือพี่เสือ อันนี้ก็คงเหงื่อท่วมทั้งตัวแน่ๆ 😛
ช่วงแดดร่ม ของวันเสาร์-อาทิตย์
ก็จะมีวงดนตรีมาเล่นให้ฟังกันสดๆ
บรรยากาศภายนอก ดูจะเป็นอีกทางเลือกนึงที่น่าสนใจ
เพื่อนๆ palmer ก็น่าจะจำ “platong” กันได้ดี
ก็มาเล่นเครื่องเป่าด้วย
หรือคุณภัทร จาก ischool.in.th ก็มาเล่นคีย์บอร์ดด้วย
ไปๆ มาๆ ก็รู้จักกันหมด ฮ่า..ฮ่า
ร้านนี้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์กลางๆ แล้วกัน
ถ้าไม่รู้จะไปไหน ก็ลองแวะเวียนกันไปได้
แต่ถ้าต้องการความสงบ เงียบๆ คนไม่พลุกพล่าน ก็เลือกช่วงเวลาที่คนน้อยๆ ดีกว่า
เนื่องจากยังไม่ได้กินอะไรเลยตั้งแต่เช้า
ก็ไม่อยากจะอัดกาแฟเข้าไปเยอะๆ ให้ท้องอืดซะเปล่าๆ
ก็เลยชักชวนหวานใจ กับ tvchampion ไปหาอะไรกินที่ฝั่งตรงข้าม (la villa)
จากวันศุกร์ที่หยิบเอาร้าน giant yakiniku มายั่ว
ก็เลยอยากกิน yakiniku กัน
พอดี เห็นร้าน yuu restaurant ก็เลยเดินเข้าไปเลย
เอาป้ายขึ้นไว้ก่อน
จำกันแม่นๆ
แมวดื้อขอลา ร้านนี้ไปเลย
เหอ..เหอ
yakiniku มันก็จะมีหน้าตาประมาณนี้
รูปนี้มาจากเว็บของร้านนะ
…
แต่
…
พอเอาเข้าจริงๆ
แทบจะทุกอย่างติดลบเลย
เริ่มจากโต๊ะนั่งก่อน
แมวดื้อก็ไม่ใช่จะตัวใหญ่สักเท่าไหร่
แต่พอนั่งไปแล้ว แทบขยับตัวไม่ได้
ที่นั่งแคบเกินไป
ไฟสีส้ม ส่องมาลงกลางโต๊ะ
ไม่รู้จะให้ดูอะไร สีมันหลอกตาไปหมด
อ่อ.. ออกตัวก่อน
ร้านนี้เค้าไม่ให้ถ่ายรูป
ก็เลยไม่มีรูป (มาประจาน :P)
มาถึงเมนู
เมนูของที่นี่ แทบจะเป็นการยัดเยียดคนกิน
แค่มีตัวเลือกไม่มากนัก
ok หากไม่เน้นที่ความหลากหลาย แต่ไปเน้นที่คุณภาพแทน
หลังจากลองสั่งทั้ง เนื้อสันนอก สันใน ไก่ หมู มาแล้ว
สรุป แทบจะผ่านแค่สันในเพียงอย่างเดียว
ย่างอย่างเร็ว ตัดเรื่องความแข็งของเนื้อไปได้เลย
บางชิ้น ยังแดงๆ ด้วยซ้ำ
แต่กินแล้วไม่ยิ้ม
ไม่เหมือนไปกินที่โพนยางคำ
อันนั้นละลายในปากเลย
เมื่อมีการเปรียบเทียบคุณภาพของอาหารแล้ว
ก็ไม่พลาดที่จะหยิบเรื่องราคามาคิด
ร้านนี้ เทียบจากคุณภาพแล้ว ราคาสูงไปสักหน่อย
จะด้วยค่าเช่า ทำเลกลางเมืองแบบนี้ (la villa)
หรือเทคโนโลยี ที่บอกว่า เตาย่างดูดควัน
ที่ยังไงก็มีกลิ่นติดตัวอยู่ดี
ดูไม่ค่อยสมราคานัก
หากเทียบกับรูป (แม้จะเป็นรูปโปรโมต เพราะยังไม่เคยไปลอง) ของร้าน giant yakiniku
ราคาอาจใกล้เคียงกัน แต่คุณภาพ วัดด้วยตาแล้วแตกต่างกันพอสมควรเลย
หากไม่พอใจเรื่องอาหาร แต่ได้บรรยากาศ หรือการบริการดีๆ ก็ยังพอให้อภัยได้บ้าง
แต่นี่.. ไม่เลย
ภายนอก พนักงานต้อนรับ นี่ ยิ้มแย้มแจ่มใส ให้ข้อมูลมากมาย
พอเข้าไปในร้านทึมๆ ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป
แทบไม่มีการให้ข้อมูลอะไร
กินอะไรก็เชิญเลือกกันไป
บอกให้แนะนำ ก็เลือกอันที่แพงสุด ก็รู้ว่าการตลาด.. อยากขายของ
ตังอ่ะ.. มีจ่าย แต่อยากอร่อยด้วย เข้าใจป่ะ
หลังจากทนๆ สั่งอาหารไปเสร็จ
ก็มาถึงเรื่องน้ำ
ที่ยัดเยียดน้ำชาแบบ refill (น้ำอัดลม ไม่มี refill)
ก็ ok ทำใจ กินน้ำชา
แต่
เคยเจอไหม ถ้ากินสักอึก พี่แกจะมาเติมทันที
มันอาจดูเป็นการบริการ แต่น่ารำคาญเกินไป
เค้าคุยกันอยู่ ก็จะมาถามอยู่นั่น เติมชาไหม เติมชาไหม
ถามครั้งเดียวก็ได้ เสียงดังขนาดนั้น ไม่ได้หูหนวก
ถ้าไม่ตอบ แสดงว่ายังไม่ต้องเติม ไม่ต้องมาเซ้าซี้ได้ไหม
เรื่องน้ำยังไม่พอ
มาต่อเรื่องเก็บโต๊ะ
เอ่อ.. ขอโทษเหอะ จะรีบไล่ไปไหน
ไม่นั่งนานหรอก ร้านแบบนี้
จานเปล่า (ที่ใส่เนื้อมา) ว่างแล้ว เก็บ.. ไม่ว่า
แต่นี่ ยังมีอาหารเหลือเต็มเลย แต่เก็บจาน ตะเกียบไปหมด
จะให้ใช้มือจกกินหรือไง
โกรธสุดๆ
ร้านอาหารข้างทาง ยังไม่ทำขนาดนี้เลย
นี่.. ออกจะเป็นร้านหรู ราคาอาหารก็ไม่ใช่ย่อย บริการแย่มาก
วันนี้มาแนว บ่น..บ่น..บ่น
ไปหล่ะ
รมมมมมมเสียยยยยยย
[…] Wawee Coffee […]