วันนี้รู้สึกทำงานอย่างเต็มที่
ทั้งงานเว็บ
งานคลินิก
ลุยเต็มที่
เต็มใจ
ทำแล้วสบายใจ
วันนี้มีเคสนึง
เป็นแมวฉี่ไม่ออก
เป็นมานานหลายวันแล้ว
เรียกว่าถ้ากินน้ำเข้าไปอีกนิดหน่อย
กระเพาะปัสสาวะก็คงแตกแน่ๆ
เคสแบบนี้เจอบ่อยมาก
กับแมวตัวผู้
กับเคสนี้
ตอนแรกคิดว่าจะรักษาแบบทั่วๆ ไป
แต่คิดไปคิดมา
ลองรักษาแบบเต็มๆ ไม่ต้องกั๊ก
คือทำเต็มที่
ใช้ยาดีที่สุด ทำดีที่สุด ถูกขั้นตอนที่สุด
ซึ่งมันก็จะมีค่าใช้จ่าย
ก็คุยกับเจ้าของตรงๆ
ว่าเราไม่ใช่เห็นแก่เงิน แต่บอกว่าเราจะทำอะไรบ้าง ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่
เจ้าของก็อึ้งๆ ไปเล็กน้อย
แต่ก็ยอมให้รักษา
สองชั่วโมงผ่านไป
กับการสวนปัสสาวะ ให้น้ำเกลือเข้าเส้น ฉีดยา เช็ดตัว
จากแมวที่อาการใกล้ตาย มดขึ้นเต็มตัว กลับมาขู่ ไม่ยอมให้จับ
อาการดีอย่างเห็นได้ชัด
นึกแล้วก็รู้สึกดีนะ
คือเราทำเต็มที่ ซึ่งบางที เราก็เห็นใจเจ้าของเหมือนกัน
กับค่าใช้จ่ายที่สูง
ทำแล้ว ถ้าดี มันก็ดีไป แต่ถ้าไม่ดีขึ้น เค้าจะรู้สึกยังไง
ผิดกับเจ้าของบางคน
ทั้งที่แมวยังกินได้ปกติ
แต่ตรวจพบว่าแมวเป็นเอดส์ เป็นลิวคีเมีย
ก็พาลจะ put to sleep ท่าเดียวเลย
นี่แหละน้า
Think Different
ส่วนเรื่องเว็บ
ตอนนี้วันๆ นึง จัดการตามนี้
TPUG
ThaiPSP
Thai iPhone Club
NaughtyCat blog
AFSthailand31
Fahthaweeporn
Baanfahresort
Baanluckfun
คิดๆ แล้วก็เยอะ แฮะ
แต่ต้องทำให้ได้สิ
จริงไหม
อันนี้ต้องแล้วแต่เจ้าของ ดีแล้วที่ถามเค้าก่อน
ดีแล้วที่รู้สึกดี
วันนี้รู้สึกไม่ดีแต่เช้า
เห็นลูกแมว มันรอด มุด ล้อรถกระบะ ออกมา (เดาว่าข้ามถนนมา) ลูกแมวเล้กมากๆเลย เหมือนมันรอดจากล้อนั้นมาได้น่ะ แต่..ไม่รู้คันต่อไปมันจะรอดไม๊ สงสารมันจัง
ดู หน้าตา ไร้เดียงสามากๆ
ขอไว้อาลัย
แง เพิ่งพบกะตัวเอง
มะคืนสังเกตเห็นแมวตัวผู้ของเราฉี่ไม่ออกเหมือนกันค่ะ
อาการคือมันจะเข้าไปนั่งในกระบะทรายนานมาก ทำท่าเหมือนจะฉี่ แล้วก็ออกไป สักพักก็เดินเข้ามาใหม่ ทำอย่างนี้อยู่หลายรอบมาก เราก็เลยเดินไปดูมันฉี่ใกล้ ๆ ก็เห็นว่าไม่มีฉี่ออกมาเลย จนแน่ใจว่ามันฉี่ไม่ออกจริง ๆ เลยพาไปหาหมอใกล้ ๆ บ้าน
หมอก็คลำท้องแล้วก็บีบกระเพาะปัสสาวะให้ แต่ก็ไม่มีฉี่ออกมา แล้วหมอก็บอกว่าคลำไปก็ไม่เจอว่ามีฉี่อยู่ในกระเพาะปัสสาวะ
สรุปว่า หมอบอกว่ามันอาจจะเครียดหรือเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้ยากินมา 3 ชนิด แล้วก็ให้ดูอาการ แต่ทีนี้เราร้อนใจว่า แล้วต้องรอกี่วันกันถึงจะรู้ว่ามันเป็นอะไรกันแน่ เพราะถึงตอนเช้ามันก็ยังฉี่ไม่ออกอยู่ดี นี่ก็ให้กินยาไป 2 มื้อแล้ว แง สงสารมันมาก ๆ
รบกวนคุณหมอช่วยแนะนำขั้นตอนต่อไปให้ด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่า
เเมวที่บ้านก็เป็นมาสองสามวันเเล้วฉี่ไม่ออก ขัดๆ อยากรบกวนให้ช่วยด้วยฮะ ไงติดต่อกลับด่วนเลยนะฮะ 0851103214 ขอบคุณฮะ
แนะนำคุณเถียนช่วยพาแมวไปพบสัตวแพทย์ด่วนเลยนะครับ ตามปกติแล้ว หากปัสสาวะไม่ออกแค่วันเดียว ตัวกระเพาะปัสสาวะก็จะเป่งได้ครับ ผลที่ตามมาก็คือตัวผนังกระเพาะปัสสาวะจะบางลง และมีเลือดออกในกระเพาะปัสสาวะ เลือดที่ว่านี้ยิ่งเป็นตัวการทำให้ท่อปัสสาวะอุดตันด้วยครับ
สิ่งแรกที่ควรทำก่อนเลย คือการพยายามนำปัสสาวะออกให้ได้ก่อนครับ ควบคู่กับการรักษาตามอาการอื่นๆ พออาการดีขึ้นมาแล้ว ค่อยตรวจวินิจฉัย หาสาเหตุกันต่อไปครับ ว่าเกิดเนื่องจาก มีการอุดตันของน้ำเชื้อ, มีการติดเชื้อ หรือเรื่องนิ่วครับ
โรงพยาบาลสัตว์ที่เปิด 24 ชั่วโมงก็มีหลายที่นะครับ อย่างโรงพยาบาลสัตว์ตามสถาบันการศึกษา เช่น โรงพยาบาลสัตว์เล็ก คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (02-218-9752) หรือ โรงพยาบาลสัตว์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน (02-942-8756-9) รวมไปจนถึงโรงพยาบาลสัตว์เอกชนอื่นๆ ครับ
😛 เจอปัญหาแบบนี้เหมือนกันค่ะ น้องเหมียวที่บ้านเป็นแมวตัวผู้(ชื่อน้องจ้อย)ตอนแรกก็มีอาการฉี่ไม่ออกเดินเข้าส้วมของเค้าบ่อยๆนั่งเบ่งทีประมาณ3-5นาทีค่ะวันนึงเข้าส้วมบ่อยมากๆเกือบตลอดเวลาด้วยซ้ำเราก็เลยเดินไปดูก็เห็นว่าไม่มีฉี่ออกมาเลยและน้องจ้อยมีอาการท้องบวมกับจู๋บวมตามมาจากนั้นเห็นท่าไม่ดีสงสารมันมากแม่ก็เลยพาไปหาหมอที่คลีนิคสัตว์ใกล้บ้านพอไปถึงมือหมอแม่เล่าว่า หมอก็คลำที่ท้องของน้องจ้อยเพื่อหาก้อนนิ่วแล้วก็บีบอะไรไม่แน่ใจลักษณะเป็นเหมือนไขมันออกมาจากจู๋ของน้องจ้อยค่อนข้างเยอะเหมือนกันแล้วหมอก็ใส่ท่อสวนเข้าไปในกระเพาะปัสวะของน้องจ้อยแล้วเย็บติดคาไว้เพื่อให้ฉี่ไหลออกมาเพราะน้องจ้อยฉี่เองไม่ได้แม่บอกว่าตอนที่หมอเย็บท่อนั้นมันเจ็บมากมันร้องดังมากค่ะ(น่าสงสารมาก)จากนั้นหมอก็ให้ยามากินอิกเป็นแบบเม็ดค่ะป้อนยาลำบากมากเพราะน้องจ้อยไม่ยอมกลืนเลยและก็ให้อาหารละลายนิ่วมาด้วย ค่าใช้จ่ายก็หมดไปเยอะมากๆประมาณ3000ค่ะ อิกประมาณอาทิตย์นึงหมอนัดไปตัดไหมเอาท่อออกค่ะพอไปถึงคลีนิคหมอก็ทำการสวนล้างกระเพาะปัสวะดูดเอาน้ำปัสวะออกจนหมดแล้วให้กลับมาบ้านอาการก็ค่อยๆดีขึ้นเริ่มฉี่ได้แต่ออกไม่เยอะค่ะ แต่น่าเศร้า เรื่องไม่จบแค่นั้นน่ะสิคะอิกประมาณ10วันน้องจ้อยก็มีอาการเหมือนเดิมคือฉี่ไม่ออกอิกเราก็คิด เฮ้อ อิกแล้วหรอทำไมไม่หายเนี่ยสงสารมันกลัวมันตายค่ะไปที่คลีนิคเดิมหมอก็รักษาขั้นตอนเดิมอิกคราวนี้หมอบอกน้องจ้อยไม่ได้เป็นนิ่วเพราะคลำที่ท้องไม่พบก้อนนิ่วแต่หมอบอกว่าท่อปัสวะตีบตันเนื่องมาจากการทำหมัน เราก็เอ๊ะม้นเกี่ยวกันด้วยหรอหมอบอกว่ารักษาไม่หายผ่าตัดก็ไม่หาย เราก็รู้สึกแย่มากๆเลยค่ะไม่อยากเสียเค้าไปเลยตอนนี้ก็เลยเอาเค้ากลับมาที่บ้านแต่ก็ยังใส่ท่ออยู่อิก7วันไปตัดไหมเหมือนเดิม ที่พูดมาทั้งหมดอยากให้ช่วยแนะนำหน่อยค่ะว่าจะไปรักษาที่ รพ. ไหนดีที่รักษาโรคแบบนี้หายน่ะค่ะเอาที่ราคาไม่แพงนะคะเพราะที่บ้านฐานะไม่ค่อยดีค่ะ ถือว่าช่วยสัตว์โลกตาดำๆนะคะ ส่งข้อมูลมาทางเมลล์ก็ได้ค่ะ jj.ktc@hotmail.com (ตอนนี้กลุ้มใจมากๆค่ะ)ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
สำหรับกรณีของน้องจ้อยนั้น หากมองในขั้นตอนการรักษา ก็ถือว่าค่อนข้างเป็นไปตามตำราแล้วนะครับ ปัญหาการที่ปัสสาวะไม่ออก วิธีการแก้ไขก็คือการสอดท่อ (แล้วเย็บเข้ากับผิวหนัง) เพื่อให้ระบายเอาปัสสาวะออกมา ซึ่งหากไม่ทำเช่นนี้ ของเสีย (ปัสสาวะ) จะขังอยู่ในร่างกาย กระเพาะปัสสาวะจะเป่ง (อาจแตกได้ในที่สุด) หรือหากเป็นปัญหาเรื้อรัง ก็อาจทำให้มีของเสียอยู่ในร่างกาย ทำให้ไตวายตามมาได้ครับ ขั้นตอนตรงนี้ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคุณหมอเองครับ ว่าจะพิจารณาวางยาซึม/สลบหรือไม่ การวางยาข้อดีก็คือแมวไม่เจ็บ แต่ก็ต้องดูสภาพของแมวด้วยว่าสามารถวางยาได้หรือไม่ครับ หากมีความเสี่ยงในการวางยา (อาจวางยาไปแล้วไม่ฟื้น) ก็คงจำเป็นจะต้องดำเนินตามขั้นตอนแบบไม่วางยาครับ
ในส่วนของยาเม็ด ผมเข้าใจว่าคุณหมอน่าจะให้ “ยาขยายท่อทางเดินปัสสาวะ” เพื่อให้ปัสสาวะได้สะดวกยิ่งขึ้น ร่วมกับ “ยาปฏิชีวนะ” เพื่อรักษาการติดเชื้อ อันเกิดจากการที่คาท่อสวนปัสสาวะทิ้งไว้ครับ ยาทั้งสองตัวนี้ หากเป็นไปได้ ก็ควรพยายามป้อนให้ได้ตามที่คุณหมอระบุไว้ครับ หากป้อนลำบากจริงๆ อาจต้องยอมพาไปให้คุณหมอฉีดยาแทน ดีกว่าการที่จะไม่ได้รับยา ซึ่งจะทำให้อาการกลับมากขึ้นครับ
สำหรับการตรวจนิ่วด้วยการคลำผ่านทางหน้าท้อง อันนี้ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยสักเท่าไหร่ครับ วิธีการตรวจนิ่วนั้นควรจะตรวจจากปัสสาวะดีที่สุดครับ หากนิ่วไม่ได้มีขนาดใหญ่ (จนสามารถคลำได้) แต่เป็นตะกอนเล็กๆ แบบนี้จะมีโอกาสผิดพลาดค่อนข้างสูงครับ (คือจริงๆ อาจเป็นนิ่ว แต่คลำตรวจไม่พบครับ) และหากตรวจพบว่าเป็นนิ่ว ก็ต้องคุยกันอีกยาวเลยครับ เพราะเจ้าของจะต้องเข้าใจถึงสาเหตุ จึงจะสามารถวางแนวทางการรักษาได้ถูกต้องครับ
ปัจจัยที่เพิ่มความเสี่ยงของโรคระบบทางเดินปัสสาวะส่วนล่างในแมวก็มีอยู่หลักๆ 3 ประการครับ
1.อาหาร
ระดับแร่ธาตุบางชนิดที่สูงเกินไปในอาหาร จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลึกนิ่วในปัสสาวะ เช่น แมกนีเซียม และฟอสฟอรัส เป็นส่วนประกอบสำคัญใน “นิ่วสตรูไวท์” ซึ่งเป็นนิ่วชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด ดังนั้นสิ่งสำคัญ คือ การควบคุมระดับของแร่ธาตุเหล่านี้ในอาหารแมวให้มีระดับต่ำ
อาหารแมวมีอิทธิพลในการก่อให้เกิดความเป็นกรดในปัสสาวะ นิ่วชนิดสตรูไวท์มักจะก่อตัวในปัสสาวะที่มีสภาวะเป็นด่าง และนิ่วชนิดอื่นๆ เช่น “นิ่วแคลเซียมออกซาเลต” มักจะก่อตัวในปัสสาวะที่เป็นกรด ดังนั้นการให้อาหารที่ทำให้ปัสสาวะมีความเป็นกรด-ด่าง ที่เหมาะสมจะช่วยป้องกันการเกิดนิ่ว
สรุปปัจจัยในข้อนี้ครับ ให้เข้าใจง่ายๆ นิ่วมีทั้งแบบในสภาวะเป็นกรด และเป็นด่าง ควรให้อาหารที่เหมาะสมกับนิ่วชนิดนั้นๆ ครับ ถ้าให้ไม่ถูกต้อง ก็ยังเป็นอยู่แบบนั้นครับ
2.สภาพแวดล้อมภายในบ้าน
การขาดออกกำลังกาย การถูกกักขัง หรือแม้แต่ถาดปัสสาวะสกปรก ก็จะทำให้แมวปัสสาวะน้อยลงครับ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการก่อตัวของนิ่วได้ครับ หรือในกรณีที่ชามน้ำมีขนาดเล็กเกินไป มีน้ำไม่เต็ม น้ำไม่สะอาด หรืออยู่ใกล้บริเวณที่มีเสียงดัง จะทำให้แมวกินน้ำน้อยลง ปัสสาวะก็จะน้อยลงตามครับ พอปัสสาวะน้อยลง ก็จะข้นครับ พอปัสสาวะข้นร่วมกับแบคทีเรีย ก็อาจไปอุดตันท่อปัสสาวะได้ครับ (กรณีแบบนี้ไม่ใช่นิ่วนะครับ)
3.สภาพร่างกาย
แมวที่มีน้ำหนักเกิน หรือเป็นโรคอ้วน จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างครับ แมวบางตัวอ้วนมาก ไม่ชอบจะออกกำลังกาย เวลากินข้าวยังแทบจะนอน เวลาปวดปัสสาวะ แทนที่จะไปทำธุระ กลับอั้นไว้แบบนั้น ทิ้งไว้นานๆ ก็เป็นโรคทางเดินปัสาวะได้ง่ายครับ
จะเห็นได้ว่าแนวทางการรักษานั้น อยู่ที่ความเข้าใจที่ตรงกัน ระหว่างเจ้าของและคุณหมอที่ดูแลอยู่ครับ หาสาเหตุและรักษาไปด้วยกัน จึงจะได้ผลการรักษาที่ดีที่สุดครับ เรื่องค่าใช้จ่าย ผมเข้าใจว่า ส่วนหนึ่งอยู่ที่อาหารในการรักษาครับ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสำหรับสลายนิ่วก็ดี อาหารสำหรับควบคุม (การเกิดนิ่วใหม่) ก็ดี ล้วนแต่เป็นอาหารที่ต้องสั่งนำเข้ามาแทบทั้งสิ้นครับ แต่ผมแนะนำให้ลองปรึกษากับคุณหมอดูว่า มีทางเลือกอื่นไหม เช่นการให้อาหารปรุงเอง แบบที่ควบคุมแร่ธาตุ (แต่เจ้าของอาจยุ่งยากในการควบคุม/คำนวณสารอาหารต่างๆ) น่าจะพอช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายได้ครับ
ป.ล. แถมท้ายกับข้อมูลที่ว่า “ท่อปัสสาวะตีบตันเกิดเนื่องจากการทำหมัน” อันนี้ไม่น่าจะถูกต้องครับ การผ่าตัดทำหมันแมวตัวผู้ ตามปกติแล้วคุณหมอจะผ่าตรงถุงอัณฑะเลยครับ ซึ่งจะแค่เอาลูกอัณฑะออกไป ไม่ได้ยุ่งกับท่อทางเดินปัสสาวะแต่อย่างใด จากประสบการณ์การทำงานมา ไม่ว่าแมวนั้นจะทำหมันหรือไม่ ก็มีความเสี่ยงในการเป็นโรคทางเดินปัสสาวะส่วนล่างได้พอๆ กันครับ
เอ่อ…สวัสดีคะ ตอนนี้น้องแมว”หลง” ที่บ้านก้อเป็นอาการเดียวกับน้องจ้อยเปี๊ยบเลยคะ ก้อต้องขอบคุณน้องจ้อยที่เป็นต้นเรื่องและคุณหมอแมว(ดื้อ)ที่ให้ความรู้ด้วยนะคะ ซึ่งตอนนี้หนูก้ออยากจะขอคำแนะนำจากหมอหน่อยนะคะ
ตอนนี้แมว”หลง” เพศผู้ น้ำหนัก 5 กิโลกรัม (หมอบอกว่าอ้วน อยากให้ลด แต่ลดยากจังเลย) อายุ 4 ปี ได้ทำการสวนปัสสาวะมา 4 รอบแล้ว (ขณะนี้ยังใส่ท่ออยู่) และหมอก้อวินิจฉัยว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง หมดค่ารักษาไปเป็นหมื่นแล้ว ในรอบ 4-5 เดือนเองคะ กลุ้มใจมากเลย ฐานะที่บ้านก้อไม่ได้สูงมากมาย หนูจึงหาข้อมูลวิธีการรักษาให้หายขาด จะได้ไม่ทรมานทั้งแมวและคน ตอนนี้ก้อพบเว็บหนึ่ง น่าสนใจ จากโรงพยาบาลสัตวแพทย์ 4 โพลีคลีนิก จึงอยากถามหมอหน่อยคะ ว่าเป็นไปได้ไหมคะ ถ้าจะรักษาโดยทำการแปลงเพศ เพื่อจะได้ขยายท่อปัสสาวะให้ใหญ่ขึ้น แล้วจะรักษาได้หายขาดเลย และค่ารักษาอยู่ที่เท่าใดคะ ขอความอนุเคราะห์ข้อมูลด้วยนะคะ ผ่านเมลล์ bhudbhad@hotmail.com ก้อได้คะ ขอขอบพระคุณมากๆนะคะ
สวัสดีครับ
ในกรณีของน้องแมว “หลง” นั้น ตามที่คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเรื้อรัง คำถามคงต้องย้อนกลับไปที่ “สาเหตุ” ครับ ว่าทำไมถึงเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
=========
การผ่าตัดแปลงเพศ อันนั้นสามารถทำได้ครับ ซึ่งคงต้องบอกก่อนว่า เป็นการรักษาที่ปลายเหตุมากกว่าครับ การผ่าตัดดังกล่าวอาจมองได้หลายแง่
หากมองถึง “การขยายท่อ” คำนี้อาจจะงงๆ นิดนึงครับ เพราะเราไม่ได้ขยายท่อทางเดินปัสสาวะจริงๆ ยกตัวอย่างเปรียบเทียบท่อทางเดินปัสสาวะกับหลอดกาแฟครับ หากหลอดกาแฟมันตีบ สิ่งที่เราทำได้ก็คือบีบหรือเป่าลมเข้าไปให้มันคืนรูปเหมือนเดิม แต่ไม่สามารถทำให้หลอดกาแฟมีรูใหญ่ขึ้นครับ
ดังนั้นคำว่า “ขยายท่อ” ในที่นี้ อาจมีความหมายที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงสักเท่าไหร่ครับ
คราวนี้ ผมขออธิบายถึงการผ่าตัดแปลงเพศนะครับ
การผ่าตัดแปลงเพศคือการที่เราทำให้ท่อทางเดินปัสสาวะ “สั้นลง”
ลองนึกภาพตามนะครับ ปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะ ต้องผ่านท่อทางเดินปัสสาวะขนาดยาวที่ทอดไปตามอวัยวะเพศผู้ แล้วค่อยปล่อยออกมา
คราวนี้ลองนึกภาพอีกแบบครับ ปัสสาวะจากกระเพาะปัสสาวะ ผ่านท่อทางเดินปัสสาวะขนาดสั้น แล้วปล่อยออกมา (ไม่มีท่อทางเดินปัสสาวะตรงอวัยวะเพศ)
เห็นไหมครับ ปัสสาวะเคลื่อนที่ “สั้นลง” แต่ท่อยังขนาดเท่าเดิม
การที่ “สั้นลง” มันดียังไง อยากแนะนำให้ลองทดสอบแบบนี้ครับ ลองเอาหลอดกาแฟมา 2 หลอด อันนึงตัดให้เหลือ 1/4 หรือ 1/3 จากนั้นลองดูดน้ำอัดลมดูครับ แล้วดูว่าอันไหนต้องออกแรงมากกว่า
คำตอบอยู่ตรงนี้ครับ การที่ท่อทางเดินปัสสาวะสั้นลง ทำให้ “โอกาส” การเกิดตะกอนน้อยกว่า ปัสสาวะเดินทางแค่ช่วงสั้นๆ ก็ออกนอกร่างกายไปเลย แถมแรงดันยังดีอีกด้วยครับ พอปัสสาวะไหลดี ตัวกระเพาะปัสสาวะก็จะดีตามไปด้วยครับ
=========
หวังว่าคำตอบในเรื่องการผ่าตัดแปลงเพศพอจะตอบข้อสงสัยได้บ้างนะครับ ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายนั้นคงอยู่ที่แต่ละโรงพยาบาลครับ จริงๆ แล้ว โรงพยาบาลสัตว์เอกชน หรือโรงพยาบาลสัตว์ที่เป็นสถาบันการศึกษา อย่าง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, มหาวิทยาลัยมหิดล หรือที่อื่นๆ ก็ผ่าตัดกันได้ครับ ซึ่งผมแนะนำให้ลองสอบถามค่าใช้จ่ายของแต่ละโรงพยาบาลมาเปรียบเทียบกันดูครับ
=========
สำหรับกรณีนี้ผมมองว่า การผ่าตัดแปลงเพศนั้น อาจไม่ได้เป็นข้อสรุปสุดท้ายของการรักษาครับ ถึงแม้ว่าจะผ่าตัดไปแล้ว สรีระหรือโครงสร้างคล้ายกับแมวเพศเมีย แต่อย่าลืมว่า โดยแท้จริงแล้ว แมวเพศเมียก็มีโอกาสที่จะเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบเช่นเดียว (เพียงแต่ว่าโอกาสอาจจะน้อยกว่าแมวเพศผู้แค่นั้น)
ประเด็นที่ผมสนใจก็คือ หากผ่าตัดไปแล้ว แล้วเกิดเป็นปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบขึ้นมาอีก เราจะทำการรักษาอย่างไรต่อไปครับ เพราะว่าเรายังไม่ทราบถึงสาเหตุเลย จึงทำให้การวินิจฉัย การรักษา รวมไปถึงการพยากรณ์โรค ไม่สามารถทำได้สมบูรณ์ครับ (คือไม่สามารถตอบได้เต็มปากว่า หาย หรือไม่หาย หรือหายแล้วมีโอกาสกลับมาเป็นใหม่ได้อีกหรือไม่)
ลองหาสาเหตุแล้วแก้ตั้งแต่จุดเริ่มต้นเลยน่าจะเป็นทางออกที่ดีกว่าครับ
– ถ้ากระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากมีก้อน (หรือตะกอน) นิ่ว ในกระเพาะปัสสาวะ ก็ทำการผ่าตัดก้อนนิ่ว หรือสลายนิ่วนั้นเสีย
– ถ้ากระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากการติดเชื้อ ก็ให้ยาปฏิชีวนะรักษาการติดเชื้อ (ทางที่ดีน่าจะต้องทำการเพาะเชื้อ ตรวจสอบว่าเป็นเชื้อชนิดใดด้วย เพื่อที่จะได้ให้ยารักษาได้ตรงที่สุดครับ)
– ถ้ากระเพาะปัสสาวะอักเสบ เป็นปัญหาสืบเนื่องมาจากไต ก็คงต้องย้อนกลับไปจัดการที่ต้นเหตุครับ
– ถ้ากระเพาะปัสสาวะอักเสบ เนื่องจากการอุดตันของท่อทางเดินปัสสาวะ (พอปัสสาวะออกไม่ได้ ผนังกระเพาะปัสสาวะเลยบาง แล้วอักเสบตามมา) ก็ให้ดูว่าท่อทางเดินปัสสาวะอุดตันด้วยอะไร หากเป็นก้อนปลั๊กของน้ำอสุจิ ก็อาจพิจารณาทำหมันเสีย หากเป็นตะกอนนิ่ว ก็อาจต้องสลายนิ่วในท่อทางเดินปัสสาวะ หรือหากอุดตันจากก้อนแบคทีเรีย ก็ต้องให้ยาปฏิชีวนะไปตามสาเหตุ
หรือถ้าหากกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยไม่มีการติดเชื้อ ไม่มีตะกอน (หรือก้อน) นิ่ว และไม่มีการอุดตันจากสาเหตุใดๆ ก็ตาม ก็อาจต้องพิจารณาถึง “พฤติกรรม” ของน้องแมว “หลง” ครับ
– กินน้ำน้อยหรือไม่ (ทำให้ปัสสาวะเข้มข้น) ซึ่งอาจปรับอาหารเป็นอาหารเปียกที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบมากกว่าอาหารแห้ง จะพอช่วยได้บ้าง
– สุขา สำหรับทำธุระของน้องแมว เหมาะสมหรือไม่ ตามธรรมชาติแล้วแมวค่อนข้างรักความสะอาด ดังนั้นหากกระบะทรายสกปรก หรือมีกลิ่น ก็อาจจะไม่ทำธุระเลย พอไม่ทำธุระ ก็จะส่งผลให้ปัสสาวะในกระเพาะเข้มข้นเช่นเดียวกัน -> เข้มข้นมาก -> ออกไม่ได้ -> กระเพาะปัสสาวะอักเสบ
– พฤติกรรม “ขี้เกียจ” สำหรับน้องแมวที่มีน้ำหนักตัวเยอะๆ ก็อาจจะคิดว่ารอได้ เก็บเอาไว้ค่อยทำธุระทีเดียว ซึ่งก็จะส่งผลให้ปัสสาวะเข้มข้นเช่นเดียวกัน แก้ไขด้วยการพยายามเล่นกับเค้า ให้ออกกำลังกาย ก็น่าจะพอช่วยได้ครับ
– พฤติกรรม “การเลีย” เนื่องด้วยน้องแมวเป็นสัตว์ที่ทำความสะอาด (เลียตัวเอง) อยู่เสมอๆ ซึ่งแมวตัวผู้บางตัว ชอบเลียตรงอวัยะเพศ (ทำให้มีการติดเชื้อเข้าไป) สาเหตุอาจมาจากมีหยดปัสสาวะค้างอยู่ อันเป็นผลมาจากระบบประสาทที่สั่งงานบริเวณปลายอวัยวะ หรืออื่นๆ
ตรงนี้ก็อาจต้องได้รับความร่วมือจากเจ้าของ และสัตวแพทย์ที่ดูแลช่วยกันหาสาเหตุที่เป็นไปได้ทั้งหมดมาประมวลข้อมูล ถึงจะสามารถตั้งแนวทางการรักษาที่มีประสิทธิภาพ ทั้งยังจะสามารถพยากรณ์ถึงการกลับมาเป็นใหม่ได้อีกด้วยครับ
ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณคุณหมอแมว (ดื้อ) มากเลยนะคะ ที่ให้ความรู้และข้อมูลกระจ่างทุกข้อเลยคะ 😆 ทำให้หนูได้พยายามมองหาสาเหตุ และพยายามแก้ไขให้ถูกจุดมากกว่าไปลากแปลงเพศคะ (อันเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุอย่างที่หมอบอกคะ)
ตอนนี้หนูก้อพอเข้าใจบ้างแล้ว ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร จากคำแนะนำของหมอแมว (ดื้อ) ต้องขอออกตัวนิดหนึ่งคะว่า ปกติที่บ้านไม่ได้คิดจะเลี้ยงแมว แต่คุณย่าไปรับแมวที่เดินหลงมาที่เพื่อนบ้าน (ตามชื่อของแมว) ก้อเลยเลี้ยงมันมาจนทุกวันนี้ และส่วนตัวหนูไม่ค่อยได้อยู่บ้านเท่าไรนะคะ เวลาว่างๆก้อจะคอยสังเกตคะ จะพบว่าเจ้าหลงมักมีวิถึชีวิตวนเวียนระหว่างกินแล้วก้อนอน ไม่ยอมออกนอกบ้าน (เพราะบ้านติดถนนใหญ่ เจ้าหลงกลัวเสียงดังคะ) และไม่ค่อยมีคนไปเล่นกับมันบ่อยนัก เพราะต่างไปทำงานกันหมด น้ำหนักเลยพุ่งพรวดถึง 5 กก.
ก้อจะเห็นว่าสภาพแวดล้อมในบ้านค่อนข้างมีส่วนอย่างมากในพฤติกรรมของแมว ดังนั้นตอนนี้ก้อกำลังคิดวิธีแก้ไขกันอยู่ แต่อย่างที่บอกคะ ไม่ค่อยมีใครติดบ้านจริงๆ อาจจะไม่ได้ผลดีเท่าไรนัก และเจ้าหลงเองดูเหมือนจะรู้ทันไงไม่รู้อ่ะคะ ไม่ค่อยยอมออกแรงเลย หนูเอาเชือกหย่อนๆ แกล้งมันให้กระโดด มันก้องับๆ แล้วก้อเฉย นอนหมอบไปเลย 😮 (จะทำไงดีคะเนี่ยยย) นอกจากนี้ยังปริมาณข้าวลง แต่เพิ่มความถี่จาก 2 มื้อ เป็น 3 มื้อ เพื่อให้ได้เดินบ้าง และต้องพยายามลดจาก 5 กก.ให้เหลือ 4 กก. ตามคำแนะนำของหมอคะ (ขณะนี้ลดไป 2 ขีดเองคะ)
สุดท้ายนี้ ก้อขอขอบพระคุณคุณหมอมากจริงๆนะคะ
ปล. ตอนนี้เจ้าหลงได้ถอดท่อแล้วคะ อยู่ในช่วงป้อนยาต่อเนื่อง และคุมอาหารคะ
ขอรบกวนหน่อนะคะคุณหมอตอนนี้น้องกาฟิวส์มีอาการแบบที่น้องๆเค้าเป็นกันแต่น้องกาฟิวหาหมอแล้วก้อไม่หายเค้ามีสิทธเป็นfipใหมคะแล้วเค้าจะตายไหมคะตอนนี้จะพาไปหาหมออีกรอบหนึ่งแล้วถ้าหมอให้ต่อท่ออีกจะทำดีไหมคะตอนนีที่บ้านสงสารเค้ามากๆเพราะท้องเค้าบวมเป็นก้อนเลยคะช่วยอธิบายโรคfipให้ด้วยนะคะเพื่อจะได้ไปคุยกับหมอที่รักษาถูกขอบคูณมากนะคะ
ต้องขออภัยที่ตอบคำถามของน้องกาฟิวส์ช้านะครับ
กับคำตอบ ก็คงต้องย้อนกลับไปในคำตอบที่ผมตอบเอาไว้ข้างบนครับ เราควรต้องหาสาเหตุว่าเป็นที่ปัญหาใดกันแน่ครับ อาจเป็นปัญหาที่สรีระของน้องกาฟิวส์เอง, การติดเชื้อ หรือพฤติกรรมการกินอาหาร/การขับถ่าย หากเรายังไม่สามารถแก้สาเหตุได้ ปัญหาก็จะยังมีต่อเนื่องครับ
การสอดท่อสวนปัสสาวะนั้น ต้องยอมรับอย่างหนึ่งครับ ว่าต้องเจ็บแน่ๆ (ในกรณีไม่วางยาซึม) และการสอดท่อสวนปัสสาวะเข้าไป อาจจะทำให้ผนังของท่อปัสสาวะเสียหายได้ ดังจะเห็นว่าหลังจากสอดท่อเข้าไปแล้ว จะมีเลือดสดๆ ออกมาก่อน อย่างไรก็ตาม ความเสียหายที่เกิดขึ้น เมื่อเทียบกับการที่มีของเสียสะสมอยู่ในร่างกาย หรือหากร้ายแรงของเสียเข้าสู่กระแสเลือดแล้วส่งผลให้ไตวาย ก็คงต้องพิจารณาพยายามนำของเสียออกก่อนเป็นลำดับแรกครับ
สำหรับกรณีของน้องกาฟิวส์ ไม่แน่ใจว่า “ท้องเค้าบวมเป็นก้อน” คืออะไรครับ เห็นต่อเนื่องกับโรคช่องท้องอักเสบ Feline Infectious Peritonitis (FIP) หากมองแค่ในส่วนของปัญหาระบบทางเดินปัสสาวะ หากน้องแมวปัสสาวะไม่ออกเพียงหนึ่งวัน ก็อาจจะเห็น “กระเพาะปัสสาวะ” เป็นก้อนจากภายนอกได้เลยครับ ยิ่งน้องแมวตัวเล็กๆ ผอมๆ ยิ่งเห็นได้ชัด แบบนี้.. หากนำปัสสาวะออกมาแล้ว ก้อนที่เห็นก็จะยุบไปทันทีครับ
สำหรับ FIP นั้นเป็น “โรคติดเชื้อไวรัส” อีกโรคนึง เรียกว่าโรคใหญ่เลยก็ว่าได้ครับ มีความซับซ้อนในเรื่องการติดต่อ อาการของโรค พยาธิสภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้น รวมถึงการวินิจฉัยและการพยากรณ์โรคครับ อาการที่พบได้สำหรับ FIP ก็คือการถ่ายเหลว เบื่ออาหาร ตัวเหลือง (ดีซ่าน) ไปจนถึงการที่มีของเหลวคั่งอยู่ในช่องท้อง/ช่องอกครับ
ความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดก็คือตำแหน่งของของเหลวครับ ในกรณีที่ฉี่ไม่ออก (ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่ไต กระเพาะปัสสาวะ หรือท่อทางเดินปัสสาวะ) ของเหลวที่ว่าคือของเสีย (ปัสสาวะ) จะคั่งอยู่ในระบบนี้ทั้งหมด ส่วนใหญ่จะอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ เป็นลักษณะก้อนกลมบริเวณขาหนีบ ไม่หนีไปไหน แต่ในส่วนของ FIP นั้นของเหลวที่เกิดขึ้น จะอยู่ในช่องท้อง (หรือช่องอก) ทั้งหมด ดังนั้นมันจะอยู่ตรงช่องว่าง ไม่เฉพาะแค่ตรงบริเวณขาหนีบเท่านั้นครับ และเท่าที่ลองค้นข้อมูลดู ก็ไม่พบรายงานว่าแมวที่ติดเชื้อ FIP จะมีอาการปัสสาวะไม่ออกนะครับ แต่ก็มีความเป็นไปได้ หากแมวมีเชื้อ FIP อยู่ในร่างกายอยู่แล้ว เรียกว่าเป็นพาหะ (carrier) แต่ว่าไม่แสดงอาการ เมื่อมีภาวะฉี่ไม่ออก ทำให้ส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานเกิดปัญหา ก็อาจทำให้แสดงอาการของ FIP ได้ครับ
หากไม่สบายใจ ก็ลองคุยกับคุณหมอเรื่องการทดสอบ FIP ดูก็ได้ครับ แต่โดยส่วนตัว FIP นั้นน่าจะมีอาการอื่นๆ นอกจากการปัสสาวะไม่ออกครับ
😡 คือว่าแมวของผมชื่อน้อง เลม่อน นะครับ เป็นแมวเพศเมียนะครับก๊เห็นน้องเลม่อนฉี่ไม่ออกมา2-3วันแล้วครับแต่เค้าก๊ยังเล่นเชือกกับผมอยู่ แต่ว่าพอเค้าจะเข้าส่วมของเค้าสักครั้งจะเข้าประมาณ4-5ครั้งเลยครับ แต่ละครั้งไม่มีฉี่ออกมาเลยน่าสงสารมากแล้วพอเค้าฉี่ไม่ออกก๊จะเดินมาหาแล้วก๊ร้องเสียงเบาๆครับผมสงสารจนน้ำตาแทบไหลครับตอนนั้นผมใจคอไม่ค่อยดีเลยครับแต่พอเค้านอนก๊เอาขาเหมือนมาหนีบไม่ให้ฉี่ปวดฉี่อะครับแต่ผมบอกแม่ผมแล้วเค้าบอกว่า”จะพาไปให้มันตายหรอไงแมวมันปรับสะภาพตัวเองได้”ผมไม่แน่ใจนะครับว่าน้องเลม่อนจะปรับสะภาพได้หรือป่าวผมจึงถามกับพี่ผมว่าจะไปเองหรือป่าว
ผมก๊เงียบๆ นั้นผมขอถามหน่อยนะครับว่าจะไปโรงพยาบาลสัตว์ที่ใหนได้มั่งครับเอาแบบราคาไม่สูงเกินไปแล้วก๊หายนะครับขอบคุณที่อ่านนะครับ ท่ามีใครรู้ว่าโรงพยาบาลใหนที่ทำให้แล้วหายก๊บอกให้ผมทีนะครับ japasskorn@hotmail.com ขอบคุณครับ
สำหรับคำถามของคุณ “คนรักแมวครับ” อันนี้ผมเชื่อว่าไม่มีสัตวแพทย์คนใดที่กล้ารับรองคำตอบครับ
“จะไปโรงพยาบาลสัตว์ที่ใหนได้มั่งครับเอาแบบราคาไม่สูงเกินไปแล้วก๊หายนะครับ”
เพราะการตีความของคำว่า “หาย” สำหรับผู้เลี้ยงและของสัตวแพทย์เองไม่เหมือนกันครับ ในส่วนของผู้เลี้ยง “อาจ” ต้องการคำว่า “หายจากอาการป่วย… และไม่กลับมาเป็นอีก” ในขณะที่สัตวแพทย์เองก็ไม่สามารถรับประกันได้ว่าจะ “ไม่กลับมาเป็นอีก” ครับ เนื่องจากมีปัจจัยต่างๆ มากมายดังที่ได้เคยคุยกันไว้ในคอมเม้นท์ด้านบนๆ กันแล้ว ลำพังแค่การรักษาโรคที่ดำเนินไปไกลแล้ว เช่นการที่ปัสสาวะไม่ออก จนทำให้ไตวาย ก็เป็นเรื่องที่ต้องรักษาและคุยทำความเข้าใจกับผู้เลี้ยงอย่างมาก ยังไม่รวมถึงระยะยาว ที่จะสามารถให้ความมั่นใจแก่ผู้เลี้ยงว่าจะไม่กลับมาเป็นซ้ำอีกด้วยครับ
อนึ่ง.. การเข้ารับการรักษานั้น โดยทั่วไปแล้วผู้เลี้ยงสามารถ “ปรึกษาขอคำแนะนำจากคุณหมอ” ได้ก่อนครับ ก่อนที่จะลงมือทำการรักษา ซึ่งนั่นผู้เลั้ยงจึงสามารถสอบถามถึงค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นได้ “ก่อน” การรักษาครับ หากไม่สะดวกก็สามารถนำตัวเลือกอื่นๆ (คลินิกหรือโรงพยาบาลสัตว์อื่นๆ) มาเปรียบเทียบกันด้วยครับ
== ขออนุญาตแนะนำและรณรงค์การเขียนภาษาไทยอย่างถูกต้องครับ ==
ก๊ => ก็
ท่า => ถ้า
สะภาพ => สภาพ
ใหน => ไหน