วันนี้ขอเขียนถึงวิชาชีพสักหน่อย
เดี๋ยวจะหาว่าไม่ได้ทำงานเลย
ฮ่า..ฮ่า
เคสที่หยิบมาวันนี้ ถือว่าเป็นเคสไม่ยาก
แต่ภาพอาจไม่ชวนมองสักเท่าไหร่
เนื่องจากเขียนบล๊อคถึงเรื่องอาหารด้วย
ก็เลยเอารูปจริง ซ่อนไว้ข้างในก็แล้วกัน
หากอยากดูก็คลิ้กข้างในเอนทรีได้เลย
รูปแบบผ่านการเซนเซอร์แล้วจะได้ประมาณนี้
อิอิ
คุยกันแบบชาวบ้าน
เชอร์รี่อาย ก็คือตาเป็นลูกเชอร์รี่
ฮ่า..ฮ่า
มาดูกายวิภาคกันนิดนึง
หากลองมองที่ตาของสุนัขก็จะเห็นเยื่อบางๆ ตรงหัวตา
บางตัวก็จะเห็นเยอะเป็นแผ่นมาบังตรงหัวตา
บางตัวก็นิดเดียว แทบมองไม่เห็น
เราเรียกกันว่า “หนังตาชั้นที่ 3” (third eyelid)
มีหนังตาบน หนังตาล่าง แล้วก็มีหนังตาชั้นที่ 3 อีกอัน
คราวนี้ ใต้หนังตาชั้นที่ 3 ที่ว่า
จะมีต่อมที่เรียกว่า Gland of third eyelid
เจ้าต่อมที่ว่านี้ทำหน้าที่ในการสร้างน้ำตา
หากมีการติดเชื้อ หรือความผิดปกติของหนังตาชั้นที่ 3
หรือการระคายเคืองตาต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานๆ
ก็อาจทำให้เจ้าต่อมที่ว่านี้อักเสบ บวม แดง แล้วก็โผล่ขึ้นมาให้เราเห็น
เชอร์รี่อายนี้ อาจเป็นข้างเดียว หรือเป็นทั้งสองข้างก็ได้
บางครั้งอาจเป็นแค่ข้างเดียว
หลังจากนั้น 2-3 เดือน ก็อาจพบในอีกข้างได้เหมือนกัน
วิธีการรักษา
ใช้วิธีการผ่าตัด
ตัดเอาต่อมที่ว่านี้ทิ้งไปเลย
โดยมีข้อพิจารณาในการผ่าตัดอยู่บ้าง
ถ้าตัดต่อมออกไม่หมด ตัวต่อมส่วนที่เหลือก็อาจกลายเป็นเชอร์รี่อายได้อีก
แต่ถ้าตัดต่อมจนหมด บางครั้งอาจทำให้ตาแห้ง
เจ้าของก็ต้องดูแลโดยการหยอดน้ำตาเทียมช่วย
ซึ่งก็ไม่ได้เสมอไป ต้องวินิจฉัยตรวจวัดระดับน้ำตากันต่อไป
เคสนี้เจ้าของเริ่มเห็นเชอร์รี่อายมาได้ประมาณ 2 สัปดาห์
ใช้ยาหยอดตาลดการอักเสบบ้างแล้ว
แต่สุนัขเกาตาอย่างต่อเนื่อง
อ้าว…ปิดไว้แล้วเอาออกทำไม..เห็นเลย 😮
แป่ว….อ่านผ่าน Feed เห็นรูปล่างหมดเลย น่าสงสารน้องหมาจริงๆ
ถ้าผ่าแล้วน้ำตาน้องก็ไม่ไหลเลยใช่ไหมครับ ต้องหยอดตลอดเวลาเลยหรือเปล่า….
เรื่อง “ตาแห้ง” ไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นเสมอไป เพราะว่าต่อมน้ำตาที่เป็นต่อมหลักในการสร้างน้ำตาก็ยังอยู่ เพียงแค่่ว่า หากหลังจากตัดต่อมหนังตาชั้นที่สามออกไป แล้วปรากฏว่าร่างกายสร้างน้ำตาน้อยจนอาจจะเป็นอันตรายต่อลูกตา ก็อาจต้องหยอดน้ำตาเทียมช่วย
^^
[…] เมื่อปีที่แล้ว แมวดื้อเคยพูดถึง Cherry Eye ที่มักจะพบในได้สุนัขกันไปแล้ว […]