ก่อนอ่าน..เปิดเพลงก่อนนะ
วันนี้ถึงแม้จะเป็นวันสิ้นปี วันที่เป็นวันหยุดของหลายคน
แต่สำหรับแมวดื้อ มีหลายอย่างที่ต้องทำ
ยังคงทำงานเฉกเช่นปกติ ดังทุกวัน เพราะมีเคสนัดต่อเนื่อง
หลังเที่ยง เคสนัด (น่าจะ) มากันครบแล้ว
ก็เลยปิดร้าน พาด๊องแด๊งไปวัดคลองเตยใน
วัดเล็กๆ แถวคลองเตย ที่รับฌาปนกิจ, สวดบังสกุล, ลอยอังคาร ฯลฯ
แมวดื้อเลือกที่จะเผาแล้วเก็บกระดูกไว้ที่วัด แทนที่จะนำไปลอยอังคารที่แม่น้ำ
เพราะไม่คิดว่าด๊องแด๊งจะชอบน้ำสักเท่าไหร่
ใช้เวลาร่ำลาไม่นานนัก เพราะคิดว่าด๊องแด๊งน่าจะไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า
เราควรจะต้องดีใจ ไม่ใช่มาเสียใจ
ถ้าทำบุญมาร่วมกัน คงได้พบกันอีกแน่นอน
หลับให้สบายนะ เด็กน้อย
หลังจากกลับมาที่ร้าน
ก็เศร้า..เศร้า
ติตี้ก็ส่งข้อความมาเป็นระยะ
ส่งรูปมาให้ดู ยิ่งคิดถึงไปกันใหญ่
บอสตัดสินใจปิดร้านตอนเย็น เพราะไม่มีเคส แถมถนนก็เงียบมาก
พรุ่งนี้วันปีใหม่ ก็หยุดก็แล้วกัน เพราะเคสน้อย
แมวดื้อก็คิดแพลนอย่างรวดเร็ว
คำนวณคร่าวๆ หากออกจากกทม.ไม่ดึกมากนัก
น่าจะไปเซอร์ไพรส์ติตี้ได้ทันเวลาข้ามปี
ติตี้ชวนแมวดื้อไปฉลองปีใหม่กับครอบครัวติตี้ที่ปราณฯ หลายวันแล้ว
แต่ว่าแมวดื้อต้องทำงาน
ติตี้ก็เศร้า..เศร้าตามไป
รีบทำความสะอาดออฟฟิศ เก็บของเรียบร้อย
แพคกล้องและแมคบุ๊คลงเป้ พร้อมอู๊คขนาดพกพา
จะว่าไปแล้วแมวดื้อใช้เป้เสียเป็นส่วนใหญ่ มีกล้องและแมคบุ๊คเป็นอุปกรณ์หลัก อุปกรณ์อื่นๆ เรียกว่าเป็นอุปกรณ์เสริม
คราวนี้ก็เช่นเดียวกัน เสื้อผ้าเป็นอุปกรณ์เสริม ฮ่าๆ
นั่งรถไปอนุสาวรีย์ชัยฯ ยังชิลได้อีก แม้ไม่รู้ว่าจะมีที่นั่งหรือเปล่า
เพราะโทรเช็คว่ามีรถตู้ไปปราณฯ ไหมแค่นั้น ไม่ได้ถามรายละเอียดอย่างอื่น
กลัวว่าช่วงเทศกาลปีใหม่แบบนี้ รถอาจไม่มี หรือไม่ก็ผู้โดยสารเต็ม
พอไปถึงก็โล่งใจ มีรถแน่นอน แต่ต้องรอเวลานิดหน่อย
เด็กที่คิวบอกให้ไปทานข้าวก่อนเพราะว่าต้องนั่งรถนาน ให้ฝากของไว้
แหม… ของแมวดื้อก็มีแค่กล้อง เลนส์ แมคบุ๊ค แค่นี้เอง
อย่าเสี่ยงดีกว่า ถ้าทำตก หรือหาย มีหวัง..เรื่องยาว
หลังจากจ่ายเงินค่ารถ 180 บาท ก็นั่งรอบนรถอีกพักนึง
ก็มีผู้โดยสารร่วมทางขึ้นมานั่งเป็นเพื่อน
จากนั้นพอได้เวลา ก็ล้อหมุนออกเดินทาง
โดยมีผู้โดยสารทั้งสิ้น 4 คน!!
ตามสไตล์แมวดื้อ ชอบดูพฤติกรรมผู้คนต่างๆ
ความหรรษาจึงบังเกิด
เมื่อคู่รัก (ช-ช) หลบไปนั่งแถวหลังสุดของรถ
ซื้อของกินมาทานบนรถ แต่วันนี้พอให้อภัย
เนื่องจากรถโล่ง และเป็นช่วงเทศกาลแห่งความสุข
อย่าเหวี่ยงให้มันมาก
พอได้ที่นั่งแล้ว คู่รักก็กระหนุงกระหนิงกันไปตามประสา
หญิงวัยทำงาน ดูจะเชี่ยวชาญเส้นทางเป็นพิเศษ นั่งด้านหน้า
พร้อมโยนสัมภาระ ของฝาก อะไรเต็มไปหมดไว้ด้านหลัง
แมวดื้อก็นั่งตัวลีบๆ อยู่หลังคนขับ
สิ่งที่พยายามบอกตัวเอง อย่างแรกคือ “อย่าหลับ”
เพราะไม่รู้เส้นทาง ไม่รู้ระยะทาง ไม่รู้ระยะเวลา
ไม่รู้ว่าต้องลงตรงไหน รถตู้จะไปปลายทางที่ไหน
นั่นคือประเด็นแรก!!
ประเด็นถัดมา ต้องส่ง whatsapp หาติตี้บ้าง
อย่าเงียบหายไป (จะโดนงอน)
และที่สำคัญ “ห้ามให้รู้ตัวว่ากำลังจะไปเซอร์ไพรส์”!!
ด้วยอากาศเย็นๆ ความกังวล ความหิว ความเหนื่อย
ปนเปกัน ทำให้แมวดื้อหลับลึกอย่างรวดเร็ว
สะดุ้งตื่นมาตอนคู่รักด้านหลังกรนดังมาก
รีบคว้าไอโฟนดูว่าติตี้ส่งอะไรมาหรือเปล่า
พร้อมกับส่งข้อความหาคุณน้องลูกพรุน
หากกลายเป็นบุคคลสูญหาย จะได้มีเบาะแสมาตาม
เอิ้ก..เอิ้ก
ช่วงเวลาเดินทาง แมวดื้อชอบที่จะฟังเพลงของ Depapepe
มันทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉง เสียงดนตรีที่ใส ก้องกังวล
เมโลดี้ติดหู ฟิงเกอร์สไตล์โน้ตไม่บ้าพลังจนเกินไป ฟังได้เรื่อยๆ
เมื่อกี้หลับไปสักพัก ตื่นมาก็ลุ้นกันต่อ
นั่งมาได้อีกไม่นาน รถตู้ก็แวะจอดเติมน้ำมัน
พี่คนขับไปนั่งทานก๋วยเตี๋ยว ปล่อยให้ผู้โดยสารเดินเล่นยืดเส้นยืดสาย
แมวดื้อเดินๆ ช้อปหาขนมรองท้องในร้านสะดวกภายในปั๊มซื้อนิดหน่อย
ตอนนี้เริ่มเย็นๆ แล้ว มีลมหนาวพัดมาให้ได้รู้สึก
ตอนออกจากกทม.ร้อนซะไม่มี ไหนคนกรุงว่าหนาวกัน
ได้โอรีโอสีเหลืองมานิดหน่อย
ช่วงนี้แมวดื้อติดใจโอรีโอสีเหลือง (Golden) ที่จะมีทั้งรสครีมและรสชอคโกแลต
ชอบทั้งสองรสเลย ไม่ค่อยชอบโอรีโอแบบออริจินัลนะ
กินแล้วฟันดำ!!
ในรูปคืออันที่แมวดื้อซื้อใน lotus express เมื่อหลายวันก่อน
ตอนแพคของลงเป้ คิดว่าจะใส่ไว้บนสุด เพราะกลัวจะแหลกเป็นผง
แต่ท้ายที่สุด ก็ลืมมันไว้สักที่ในออฟฟิศนั่นแหละ
เอาไว้กลับไปค่อยไปหา ว่าลืมวางไว้ตรงไหน
แมวดื้อแอบแกะห่อโอรีโอสีเหลืองอย่างบรรจง
กลัวผู้โดยสารคนอื่นจะตื่น
(เอ๊ะ… เพิ่งตื่นลงไปเดินเล่นกัน ไหงพอขึ้นรถได้ เสียงกรนมาอีกแล้วฟร่ะ)
ร้านสะดวกซื้อที่นี่มีแต่ห่อเล็ก นั่นแปลว่า ห่อนึงมีอยู่แค่ไม่กี่ชิ้น
ต้องแกะกี่ห่อเนี่ย
อารมณ์เหมือนเด็กนักเรียนแอบแกะห่อลูกอมในชั้นเรียน
ไม่ได้กลัวอาจารย์ดุ แต่กลัวเพื่อนจะขอต่างหาก!!
หลังจากนั้น ความตื่นเต้นก็มาเยือน เมื่อคุณผู้หญิงที่นั่งข้างหน้าลงกลางทาง
หน้าบ้านตัวเอง ราวกับรถส่วนตัวก็ไม่ปาน
ขนของสัมภาระลงจากรถตู้ได้ ก็มีชายฉกรรจ์มาแบกของเข้าบ้านไป
ตอนนี้ก็เหลืออีก 4 ชีวิตเดินทางกันต่อ
ใช้เวลาอีกไม่นาน จึงถึงจุดหมายปลายทางเส้นทางรถตู้
ซึ่งแมวดื้อก็ไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน!!
เมื่อถึงที่หมาย คู่รักหลังรถก้าวลงจากรถตู้ไปแล้ว
พี่คนขับหันมาถามว่าลงตรงไหน
แมวดื้อก็ไม่รู้จะตอบที่ไหนดี
อ้อมแอ้มบอกไปว่า จะไปรีสอร์ท
ซึ่งพอบอกชื่อไป พี่คนขับก็ไม่รู้จัก
เอาล่ะสิ… งานเข้า
แมวดื้อก็นึกว่า พอบอกชื่อปุ๊บ เป็นชื่อที่ใครก็รู้จัก.. อะไรประมาณนี้
แต่ความพยายามยังไม่จบสิ้น
จะโทรหาติตี้ สารภาพว่ามาหา ตอนนี้อยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ มารับหน่อย ก็ไม่ใช่ที่
ติตี้มาเที่ยวกับครอบครัว น่าจะใช้เวลากับครอบครัว
ดีกว่าทุกคนต้องมากังวลกับแมวดื้อ
เลยใช้ไอโฟนเปิดเว็บของรีสอร์ท
อย่างน้อยพื้นที่ตรงนี้ก็ยังมีเนทใช้แหละ (ขอบคุณน้องอุ่นใจ)
พี่คนขับเลื่อนรถไปจอดข้างทาง เพราะเมื่อกี้คู่รักลงกันเกือบทางถนนเลย
และแล้ว สิ่งที่ชาวไอโฟนบอกว่า “ไม่เป็นไร” ก็ทำให้อยากจะกรี๊ด
เพราะเว็บรีสอร์ทดันเป็นแฟลช
โอ้ว….. มายกอดดดดด
แต่แมวดื้อก็เตรียมความพร้อมมาแล้ว ด้วยการเปิดแมคบุ๊ค
(รู้สึกโล่งใจ..ที่แบกมาด้วย)
หมายมั่นว่า เปิดมาปุ๊บ มันจะมี cache โผล่ขึ้นมาเลย
แหม..ก็เปิดเพจดูแผนที่ออกจะบ่อย มันก็ควรจะเก็บแคชไว้สิ
แต่พลาดซะแล้ว… เปิดมาตรงแฟลชมันไม่ได้เก็บแคชไว้
..เอิ้ก..
เอ้า…โชว์ geek หน่อย
Tether เนทจากไอโฟนไปแมคบุ๊ค
โหลดแฟลชด้วยความเร็วต่ำ จนพี่คนขับชะโงกหน้ามาดู
ผ่านไปหลายนาที ก็ไม่มีวี่แววว่าไฟล์มันจะ “แฟลช” ขึ้นมาเลย
แมวดื้อเลยตัดสินใจโทรตามเบอร์บนเพจแทน
..มีเบอร์ออฟฟิศที่กทม… คงไม่มีประโยชน์ที่จะโทร..
..มีเบอร์ออฟฟิศที่ปราณฯ.. ค่ำป่านนี้แล้ว คงไม่มีใครรับ..
..มีเบอร์มือถือ.. เอาฟร่ะ.. น่าจะเบอร์นี้แหละ ที่รีสอร์ทเลย..
….
….
..ไม่มีใครรับ..
..เอาล่ะสิ..
..กลับลำ.. ลองโทรเข้าออฟฟิศที่ปราณฯ ดู..
..มีคนรับ.. เสียงอารมณ์หงุดหงิดอยู่..
..ถามไปด้วยน้ำเสียงปกติ..
..เจอคำถามกลับมาว่า “สาขาไหน”..
..เฮ้ย… รีสอร์ทนี้มีหลายสาขาเหรอ มาผิดจังหวัดหรือเปล่าเนี่ยตรู..
..นึกถึงโรงแรม/รีสอร์ทบางเครือที่ชื่อเดียวกัน แต่มีชื่อจังหวัด/อำเภอต่อท้าย..
..เอาไงดีเนี่ย..
เลยตัดสินใจเดาไปว่า “สาขาปราณบุรี”
ปลายสายก็ให้เบอร์มา บอกว่าโทรที่เบอร์นี้ (ไม่ใช่เบอร์ในเว็บ)
วางจากสายนี้ โทรไปยังเบอร์ที่ให้มา
….
….
ไม่มีใครรับ
….
….
ตัดสินใจโทรกลับหาที่ออฟฟิศอีกครั้ง
สอบถามเส้นทาง ว่าจะไปยังไงดี
โดยให้คุณพี่คนขับเป็นคนคุย
หลายนาทีผ่านไป
ทำให้รู้ว่า รีสอร์ทห่างจากจุดปลายทางรถตู้ “หลายสิบกิโล”!!
แมวดื้อเลยลองถามพี่คนขับว่า พอจะไปส่งได้ไหม เดี๋ยวจ่ายเงินให้
พี่คนขับบอกว่า งั้นเดี๋ยวโทรไปถามก่อน
[[แอบฟัง]]
โทรไปหาเจ้าของคิวรถตู้ บอกว่าจะไปส่งผู้โดยสารต่อ
เข้าใจว่า อาจมีปัญหาเรื่องเวลาเอารถตู้เข้าคิว และเรื่องน้ำมันรถ
ได้รับการอนุมัติ (พร้อมเสียงให้คิดเงินค่าล่วงเวลา ค่ารถเพิ่มเติม)
สายที่สอง.. โทรหาภรรยา บอกว่าไปส่งผู้โดยสาร บอกว่ากลับดึกหน่อย
(ต้องขออภัยคุณภรรยาพี่คนขับมา ณ โอกาสนี้ด้วย ที่ทำให้พี่คนขับกลับดึก และยืนยันว่าไม่ได้ไปกับกิ๊กแน่นอน)
ขณะที่รถตู้เริ่มไปต่อ
แมวดื้อก็โหลดแผนที่ (แฟลช) ได้สำเร็จ
ซึ่งก็มีสองเส้นทางแสดงไว้อีก
จะไปทางไหนดีล่ะเนี่ย
แมวดื้อท่องชื่อบนแผนที่แล้วเก็บของ
เริ่มหวั่นๆ แล้วเหมือนกัน หยิบ gadget มาแทบทุกอย่าง
เกิดพี่คนขับกลับลำ แปลงร่างเป็นพี่โจระ.. ก็หนาวได้เหมือนกัน
อีกอย่าง.. จะได้ช่วยพี่คนขับดูป้ายรีสอร์ทด้วย
จนในที่สุดพี่คนขับก็เหลือบไปเห็นป้ายชื่อรีสอร์ท ป้ายไม้เล็กๆ อยู่บนต้นไม้
อย่างน้อยก็ใจชื้นขึ้นมาบ้าง
ป้ายที่ว่านี้อยู่ทางด้านขวา แมวดื้อก็เลยนึกว่าอยู่ทางด้านขวา
พยายามมองทางด้านขวาไปเรื่อยๆ
พอถึงทางแยก จู่ๆ พี่คนขับก็เหยียบเบรคสุดตัว
เพราะว่าเหลือบไปเห็นป้ายทางเข้ารีสอร์ททางซ้ายมือ!!
จากนั้นเส้นทางสองเลนกว้างๆ ที่รถซิ่งสวนกันได้สบายๆ
ก็เหลือเพียงสองเลนที่ต้องค่อยๆ ขับ ระวังๆ กัน
เส้นทางคดเคี้ยว โค้งไปโค้งมา แต่ไม่เจอทางแยกให้เราต้องกังวลมากนัก
จนเหลือถนนลาดยางแคบๆ ที่น่าจะเรียกว่าเหลือเลนเดียวซะมากกว่า
เส้นทางตรงนี้ค่อนข้างอันตรายมาก
โดยเฉพาะหลังพระอาทิตย์ตกดิน
เพราะเป็นโค้งหักศอก หักเสียหลายศอกเลย
แถมมีต้นไม้อยู่พับใน หักศอกไป ถ้ามีรถสวนมาก็มองไม่เห็น
สุดท้ายปลายทางเป็นถนนคอนกรีดอย่างดี
พี่คนขับรถตู้ จู่ๆ ก็นึกออกขึ้นมาได้
“พี่เคยเข้ามาตรงนี้.. ถนนนี้มันลงทะเล”
..เอื้อก..
เอาไงดีเนี่ย
และแล้วก็มาถึงป้ายทางเข้ารีสอร์ท
พี่คนขับบอกว่า พี่ส่งแค่นี้ก็แล้วกัน
ขับตรงไปก็ไม่ได้ มันเป็นทะเลแล้ว
เลี้ยวเข้าซอยเล็กๆ ของรีสอร์ทก็ไม่ไหว เพราะเป็นทราย
ตรงนี้ ไม่มีไฟสักดวง แมวดื้อพยายามโทรเข้าเบอร์รีสอร์ท แต่ก็ไม่มีใครรับ
ก็ยังคงไม่แน่ใจว่าใช่หรือเปล่า
แต่ว่ามาถึงหน้าป้ายแล้ว ใช่ไม่ใช่ก็ต้องลองล่ะ
ถ้าไม่ใช่ก็นอนมันชายหาดแถวนี้ แล้วตอนเช้าค่อยว่ากันใหม่
ยกเป้ สัมภาระลงจากรถ
พี่คนขับคิดค่ามาส่ง 120 บาท
อารมณ์นี้ แมวดื้อคิดว่า ถ้าหากเกิดลงตรงปลายทาง ตรงที่คู่รักลง
แล้วหาทางมาเอง ป่านนี้คงยังหารถอยู่ แถมไม่รู้เส้นทางอีก
แมวดื้อเลยให้เพิ่มไปเป็น 300 บาท
จากนั้นหยิบไอโฟนน้อยๆ เปิดแอพไฟฉาย เดินส่องที่พื้นแล้วเดินดุ่มๆ เข้าไป
โชคดีที่คืนนี้ท้องฟ้าเปิด พระจันทร์ส่องสว่าง เห็นดาวเต็มไปหมด
อากาศดีๆ ริมชายทะเล เพิ่มความรู้สึกดี..ดี
เดินมาได้สัก 300 เมตร
เส้นทางก็แยกเป็นสองทาง
เอาล่ะสิ!!
ซ้าย.. น่าจะลงทะเล เพราะได้ยินเสียงคลื่นซัดจากทางนี้
แต่ก็ยังมองไม่เห็นชายหาดนะ มีแต่ต้นไม้เต็มไปหมด
ขวา..ตรงไปไหนก็ไม่รู้ เห็นเป็นทางเลี้ยว แล้วก็มองไม่เห็นว่าไปไหน
ตรงหน้า.. มีแสงไฟส้มๆ หลอดนึง
แมวดื้อก็พยายามมองว่ามันเป็นรีสอร์ท
แต่ก็ไม่พบสิ่งปลูกสร้างใดๆ ให้รู้ว่าเป็นที่พัก
แมวดื้อตัดสินใจไม่ซ้าย ไม่ขวา
เดินตรงไปข้างหน้า ฝ่าดงหญ้าไปยังแหล่งกำเนิดหลอดไฟนั่น
พบบ้านไม้ เล็กๆ หน้าบ้านเปิดไฟหลอดส้มๆ ไว้ดวงเดียว
เห็นไฟฟลูออเรสเซนต์สลัวๆ จากสักแห่งภายในบ้าน
ปกติ ในยามวิกาลเช่นนี้ ไม่ควรรบกวนใครๆ
ดีไม่ดี เจ้าของบ้านอาจนึกว่าเราเป็นผู้ร้าย
เลยยืนไกลๆ จากตัวบ้าน ณ ตำแหน่งที่คิดว่าหากมีคนอยู่ในบ้าน น่าจะมองเห็นได้ชัด
ตะโกนถามไปว่ารีสอร์ทอยู่ทางไหน
สักอึดใจ ก็มีไฟส่องสว่างขึ้นในบ้าน
แต่ก็ยังไม่มีใครออกมา
มีเสียงตะโกนกลับออกมา เป็นเสียงผู้หญิงว่า “เดินตามไฟตรงไปข้างหน้า”
แมวดื้อขอบคุณ แล้วรีบเดินออกจากพื้นที่ เพราะไม่อยากรบกวนไปมากกว่านี้
หลังจากเดินออกจากพงหญ้าแล้ว
แมวดื้อก็พยายามเพ่งหา “ไฟ” ตามที่ได้ยินมาสักครู่
ก็ไม่พบแสงสว่างอะไรเลย
มีเพียงเงามืดของต้นไม้อยู่ตรงหน้า
แต่ก็ยังยืนยันที่จะเดินตรงไปข้างหน้า ตามคำบอก
ฉับพลัน ติตี้ก็ส่ง whatsapp มาบอกว่าจะเข้าห้องแล้วนะ
คือเมื่อวานนี้ ติตี้บอกว่า ตอนอยู่ริมทะเลมีสัญญาณ มีเนท
แต่พอเข้าห้องพักกลับไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีเนท
นั่นแปลว่า หากติตี้เข้าห้องพักไปแล้ว แมวดื้อจะติดต่อไม่ได้
แพลนที่คิดว่าตอนแรก คือติตี้เข้าห้องพักไปแล้ว
แล้วแมวดื้อไปถึง จะถามที่รีเซฟชั่นว่าพักห้องไหน
เพราะรู้ว่าจองในชื่อติตี้
แล้วจะไปเซอร์ไพรส์ถึงหน้าห้องเลย
แต่ด้วยความที่ติดต่อโทรไปที่เบอร์รีสอร์ทไม่ได้
ดึกป่านนี้แล้ว อาจไม่มีใครอยู่
หากแมวดื้อไปถึงแล้วไม่มีใครอยู่
จะถามใคร
จะไปเคาะประตูทุกห้อง?
เลยคิดแผนใหม่!!
รีบโทรกลับหาติตี้ทันที
ถามว่าเป็นยังไงบ้าง special new year dinner ดีไหม
บลา บลา บลา
ติตี้ก็พูดขึ้นมาว่า ถ้าแมวดื้อมาด้วยกันก็คงดี
แมวดื้อก็เลยบอกว่า งั้นอย่าเพิ่งเข้าห้องพัก เดี๋ยวว่ายน้ำไปหา
ติตี้ก็งงๆ แต่ก็เออออ คุยไปเรื่อยๆ ยังคงไม่กลับห้องพัก
จังหวะนั้น แมวดื้อก็รีบจ้ำ ก้าวเท้าไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
แม้ว่ายังไม่เห็นวี่แวว ว่ารีสอร์ทจะอยู่แถวนี้เลย ^^”
แมวดื้อพูดย้ำถึงเรื่องจะว่ายน้ำไปหา
ติตี้ก็ยังหัวเราะขำๆ อยู่
แมวดื้อบอกว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน ให้เดินลงมารับที่ทะเล
เดี๋ยวขึ้นจากน้ำไปหา
ติตี้ ก็ยังไม่เอะใจ แต่ก็เดินมาตรงชายหาดหน้ารีสอร์ท
ตอนนี้แมวดื้อหาทางเดินทะลุมาเจอชายหาดได้แล้ว
เดาว่า ถ้าเดินริมหาดไปเรื่อยๆ ตามทิศทางนี้ จะได้เจอติตี้แน่ๆ
และแล้ว แมวดื้อก็เห็นป้ายรีสอร์ท ซ่อนอยู่หลังพุ่มไม้ใหญ่
หลังพุ่มไม้นี้ มีไฟของรีสอร์ทส่องสว่างอยู่
ไม่น่าเชื่อว่าพุ่มไม้ ที่ไม่ได้รกมาก แต่สามารถปิดกั้นแสงไฟเหล่านั้นได้
แมวดื้อค่อยๆ เดินไปอย่างช้าๆ
ติตี้หันมาเห็น รีบเดินเข้ามาหา
แมวดื้อแอบเห็นน้ำตาซึมๆ จากติตี้
ติตี้เอาแต่พูดว่า “มาได้ยังไง” ตลอดเวลา
แมวดื้อดึงติตี้มากอดเบาๆ แล้วบอกว่า
“เพราะคิดถึง..จึงมาหา”
อารมณ์นั้นตกใจมากๆค่ะ อย่าว่าแต่คลำทางมาเอง ถึงจะขับรถมาในเวลาที่มีแสงสว่างยังไม่รู้ว่าจะหาเจอรึเปล่า รักที่รักที่สุด