วันนี้ชวนหวานใจ น้องลูกพรุน กับท่านแม่ไปเกาะสีชังกัน
ท่านแม่ยังไม่เคยไป
พอเอ่ยปากชวน ก็ตอบตกลงทันที
ปีที่แล้วแมวดื้อกับหวานใจ ไปถึงก็ตอนบ่ายแล้ว
มีเวลาอยู่บนเกาะไม่มากนัก
คราวนี้แมวดื้อก็เลยนัดสมาชิกกันตั้งแต่ 7 โมงเลย
จะได้มีเวลาอยู่บนเกาะนานนิดนึง
ด้วยความที่เคยไปมาแล้ว
แมวดื้อก็เลยติดต่อกับพี่ใหญ่ (ขับสกายแลป) เอาไว้ล่วงหน้า
พอถึงเกาะสีชัง พี่ใหญ่ก็มารับทันที
สถานที่แรก ที่สกายแลปวนรอบเกาะจะแวะหย่อนพวกเราไว้
ก็คือ “ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่” @ 13.168605, 100.805848
ปีนี้ใครๆ ก็กลัว (ปี) เสือกัน ก็เลยมีคนมาไหว้เจ้าพ่อเขาใหญ่กันเยอะเลย
โดยที่พี่ใหญ่เล่าให้พวกเราฟังว่า วันที่ 31 ธันวาคม กับ วันที่ 1 มกราคม มีนักท่องเที่ยวเยอะเลย
(โชคดีจริงๆ เพราะตอนแรก แมวดื้อคุยกับน้องลูกพรุน ว่าอาจจะไปวันที่ 31 ธันวาคมกัน)
เนื่องจากท่านแม่บ่นว่าเวลาไปเที่ยวกัน
ถ่ายรูปท่านแม่ก็เยอะ
แต่ไม่เคยได้ดู
ก็เลยต้องทยอยทำรูปให้ท่านแม่ได้ดูก่อน
(ลัดคิวเลยนะนี่)
แมวดื้อขอแบ่งเป็นส่วนๆ ตามสถานที่เลยแล้วกันนะ
หลังจากเดินขึ้นมายังศาลฯ
สมาชิกแต่ละคนก็เกิดอาการแฮ่ก
ล้างหน้าล้างตา กินปลาหมึกกันเล็กน้อย
ก็ไปไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์กัน
ที่นี่ก็จะคล้ายศาลเจ้าหลายๆ ที่
ที่จะไหว้และปักธูปตามจุดต่างๆ เป็นลำดับ
เมื่อครั้งที่ไปฉะเชิงเทรา ก็เดินหาจุดกันเยอะมาก
ที่นี่ก็เช่นเดียวกัน แต่จะไม่เยอะมาก
เรียกว่าพอให้น้ำตาไหล (จากควันธูป) ได้
วิวจากบริเวณศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
หลังจากนั้น
แมวดื้อก็วางแผนจะขึ้นเขาไปด้านบน
(ทางขึ้นอยู่ข้างๆ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่)
ซึ่งจะมีรอยพระพุทธบาทจำลองอยู่
ท่านแม่เกิดอยากทดสอบกำลัง ว่าจะปีนเขาไหวไหม
(ท่านแม่เป็นโรคหัวใจ)
ก็เลยลุยกันเลย
ทางขึ้นจะเป็นแบบนี้
หวานใจขึ้นมาได้นิดเดียว ก็ถอยทัพ
เพราะว่าไม่ถูกกับแดดแรงๆ กับต้องออกกำลังเยอะๆ แบบเดินขึ้นเขา
ผ่านมา 3 โค้ง
ท่านแม่ก็เข้าพงหญ้า โพสให้ถ่ายรูปซะเลย
(ไม่มีหน้าตรง มองกล้อง แบบถ่ายรูปติดบัตรแน่นอน ท่านแม่รับประกัน)
แค่นั้นยังไม่พอ
ยังปีนต้นไม้เล่นซะอีก
(แม่ใครเนี่ย!!)
มีต้นไม้ ดอกไม้ แมลง ให้ถ่ายรูปกันตามทางเรื่อยไป
เหนื่อยก็พักก่อน
(ท่านแม่นั่งคุยโทรศัพท์ตรงนี้นานมาก)
ผลัดกันยิงไปมากับน้องลูกพรุน
พอวางโทรศัพท์ ท่านแม่ก็เข้าดงว่านหางจรเข้
โพสให้ถ่ายรูปทันที
(ขนาดห้ามแล้วนะนี่ ยังเข้าไปอีก – ออกมาคันเลย)
มุมจากยอดเขา ที่ปีนขึ้นมา
ถึงแม้แดดจะร้อน แต่ก็พอมีลมบ้าง
มีจุดพักร่มไม้เป็นระยะ
บรรยากาศใช้ได้เลย
นั่งพักเหนื่อย ชมวิวกันพักใหญ่
จนพี่ใหญ่ กับหวานใจโทรมาตามกันแล้ว
ยังไม่ลงจากเขาสักที
ท่านแม่เตรียมหมวก พร้อมจะเดินลงเขา
ถ่ายรูปไม่มีหน้ามืด ท่านแม่เปิดปีกหมวกให้พร้อม
ตากล้องไม่ต้องทำอะไรเลย
หุหุ
ขาขึ้น เดินบ้าง พักบ้าง ถ่ายรูปบ้าง เป็นระยะ
ขาลง น่าจะง่ายกว่า
แต่ดูทางแล้วชันเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
ท่านแม่เดินนำเลย
ก่อนหันมาให้ถ่ายรูป
แสดงท่าทางว่ายังไหวอยู่
แค่นี้สบายมาก
ขนาดอุ้มหมี 2 ตัว ด้วยนะนี่
(ท่านแม่บอกว่ากระเป๋าใบนี้ เกือบ 20 ปีแล้ว ล้ำเทรนด์มั่กๆ ตอนนี้กำลังฮิตเลย)
เดินลงมาด้านล่าง
ก็รีบแจกจ่ายยาให้หวานใจ
เดี๋ยวจะ heat stroke เสียก่อน
พอถึงตีนเขา
ช่วงรอพี่ใหญ่ ก็มีเวลาหาขนมกินกันเล็กน้อย
สารพัดปลาหมึก
สับปะรดลูกเล็ก กำลังน่ารัก
ที่เห็นเสียบไม้อยู่ เป็นไส้กรอกทอด
สีแดงสด กลิ่นหอมมากเลย
แม้จะรู้ว่าเป็นแป้ง (มากกว่าเนื้อ) ก็ยังอยาก
หากพี่ใหญ่มาช้ากว่านี้ คงได้ลิ้มลองเป็นแน่แท้
ปิดท้ายด้วยรูปนี้ ที่ท่านแม่รีเควสอยากได้ป้าย
จริงๆ น้องลูกพรุนเป็นคนถ่าย
แต่แมวดื้อแอบ snap มา
ให้รู้บ้าง.. ว่าแถวนี้ (แม่) ใครคุม
– โปรดติดตามตอนต่อไป –
เหอๆ.. เหมือนจะโดน.. อิอิ..