เดวา บาย หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล

ตอนนี้อะไรๆ ก็แพง
หาของกินแต่ละที ก็คิดอยู่นั่นแหละ ว่าจะอิ่มหรือเปล่า (ฮา)
คือแพงแน่ๆ หรือซื้อมา มันได้น้อยแน่ๆ (เมื่อคิดกับเม็ดเงินที่จ่ายไป)
ความซวยมันก็มาตกอยู่ที่พยาธิในท้อง
ว่าจะหิวเป็นซอมบี้แค่ไหน
ยิ่งเดี๋ยวนี้แมวดื้อชอบอยู่ดึกๆ
ท้องเจ้ากรรม มันก็เริ่มจะร้องตอนเที่ยงคืน
ประหนึ่งเป็นน้องซิน
รีบผละจากเจ้าชาย กลับไปกินปลาร้าที่บ้าน
(อาหารที่วัง คงไม่อร่อย :P)

วันนี้ได้ฟังข่าว
แว่วมาอีกว่า ค่าโดยสารรถประจำทาง จะปรับขึ้นอีกระลอก
รถโดยสารประจำทาง ครีมแดง ปรับขึ้นอีก 1.50 ไปเป็น 8.50 บาท
รถร่วมบริการ ขยับไปเป็น 10 บาท
รถโดยสารปรับอากาศประจำทาง ขยับเริ่มต้นไปที่ 15 บาท
จากเดิม 14-28 บาท จะกลายเป็น 15-27 บาท
โหดมาก!!
แต่ก็ดี ต่อไป คนเมืองจะได้พูดคุยกันมากขึ้น
ยืนรอแท๊กซี่หน้าห้าง จะกลับบ้าน ก็ลองคุยกับคนข้างๆ เผื่อไปทางเดียวกัน ช่วยกันหาร
ไปคนเดียวเปลืองตัง ยืนรถเมล์ก็แพง (ไม่ได้นั่ง ที่จะยืนก็แทบไม่มี)
ขับรถไปจอดลานจอดรถแล้วต่อ BTS/MRT ค่าจอดก็แพง ขับรถไปเองก็พอๆ กัน
แนะนำว่าให้ปั่นจักรยานกันแทน laugh
ยานพาหนะที่ราคาไม่แพง ไปได้ไกลเท่าที่ต้องการ (ที่แรงจะมี)
ถ้าคันเล็กหน่อย ก็แบกขึ้น BTS/MRT ได้
หรือจะแบกขึ้นออฟฟิศก็พอไหว
กลับมาบ้าน นอนหลับสบาย (สลบ)
ไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจ (เพราะออกกำลังกายตลอด)
แค่ระวังมะเร็งปอด แค่นั้น อิอิ

วันนี้ออกทะเลไปอีกแล้ว 😛
ไปเจอร้านนี้จาก manager online เจ้าเก่า
ตังก็ไม่ใช่จะมีเหลือมากมาย แต่เห็นแล้วก็อยากกินอ่ะ
ขอเข้าไปกินก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ กับ ต้มยำปลาแซลมอน
แล้วกลับไปกินมาม่า 2 อาทิตย์เลย
ก๊ากกกก


บรรยากาศด้านบนของร้าน “เดวาฯ” ตกแต่งแนวโมเดิร์นชวนนั่ง

       ในความรู้สึกของ “ผู้จัดการตระเวนกิน”ถึงแม้จะได้ลิ้มรสอาหารมาก็มากมาย และก็หลากหลายนานาชาติ แต่ยังไง้..ยังไง เราก็ขอยกให้ “อาหารไทย” เป็นที่หนึ่งในดวงใจ เพราะนอกจากอาหารไทยจะมีรสชาติถูกปากถูกใจคนไทยแล้ว อาหารไทยยังมีความครบเครื่องในเรื่องของรสชาติ ไม่ว่าจะเปรี้ยว หวาน เค็ม มัน และเผ็ด ที่ต่อให้กินบ่อยแค่ไหนก็ไม่รู้จักคำว่าเบื่อ!! เลยสักนิด


บรรยากาศร้านด้านล่างมีโต๊ะนั่งสบายๆ และมีมุมสอนการทำอาหารไทยด้วย

       และในมื้อนี้ “ผู้จัดการตระเวนกิน” ก็อยากจะชวนมิตรรักนักกินที่พิสมัยอาหารไทย ไปตระเวนกินอาหารไทยเลิศรสกันที่ร้าน “เดวา บาย หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล” เป็นร้านอาหารไทยน้องใหม่ที่ตั้งอยู่ภายในซอยสุขุมวิท 39 โดยเป็นร้านของหม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล ผู้ซึ่งมีประสบการณ์ทางด้านการทำอาหารมากว่า 30 ปี


หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล เชิญชวนลิ้มรสอาหารไทย

       “เดวาฯ” เป็นร้านอาหารไทยที่มีความน่าสนใจตรงที่ ทางร้านนำเสนออาหารไทยแบบสไตล์โมเดิร์น คือหม่อมหลวงขวัญทิพย์ ได้คิดค้นดัดแปลง และสร้างสรรค์เมนูอาหารไทยขึ้นมาใหม่ โดยได้หยิบเอาวัตถุดิบต่างเชื้อชาติ มาปรับและปรุงแต่งให้เข้ากันกับอาหารไทย รวมถึงมีการผสมผสานอาหารไทยหลายอย่าง มารวมกันเข้าเป็นเมนูอาหารไทยจานใหม่ขึ้นมา ที่ยังคงรสชาติของอาหารไทยแท้ๆ และบวกกับใส่ความโมเดิร์นให้กับอาหาร ด้วยการตกแต่งหน้าตาของอาหารให้ดูสวยงามและชวนกิน


ส้มตำแอปเปิ้ลเขียวกับปูนิ่ม

       เมนูอาหารไทยของทางร้านเดวาฯ นั้นมีมากมาย แถมยังแบ่งเป็นอาหารกลางวัน อาหารค่ำ ที่มีเมนูแตกต่างกันไป และยังมีขนาดของอาหารให้เลือกกินกันได้ตามจำนวนคน คือถ้ามากันน้อยคนก็เลือกสั่งไซส์เล็ก แต่ถ้ามากันหลายคนก็เลือกสั่งไซส์ใหญ่ ซึ่งเมนูอาหารจานเด่นที่หากมาแล้วไม่ควรพลาดสั่งมาลิ้มรสก็มีอยู่หลายเมนูด้วยกัน อย่างเมนูแรกที่อยากแนะนำเป็นเมนู ส้มตำแอปเปิ้ลเขียวกับปูนิ่ม (195 บาท++) ที่แปลกเก๋ไก๋ ตรงที่จะใช้แอปเปิ้ลเขียวที่มีความหอม ออกเปรี้ยวอมหวานมาแทนเส้นมะละกอ และคลุกเคล้ามากับเครื่องส้มตำครบสูตร และพิเศษตรงที่มีปูนิ่มคลุกแป้งทอดสูตรเด็ดมาให้กินคู่กัน กับส้มตำแอปเปิ้ลที่ออกรสกลมกล่อมลิ้น


เส้นหมี่ส้มตำไก่ทอด

       ต่อมาเป็นเมนูมิกซ์แอนด์แมทช์ อย่างเส้นหมี่ส้มตำไก่ทอด (175 บาท++) ที่จะมีเส้นหมี่ขาวลวกโรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว มาให้กินคู่กับส้มตำไทย ไก่คลุกแป้งทอดกรอบ และมาพร้อมกับน้ำจิ้มสูตรเด็ด กินเส้นหมี่นุ่มๆ คู่กับส้มตำรสดีออกเปรี้ยว เค็ม หวาน และกินแนมด้วยไก่ทอดจิ้มน้ำจิ้มรสเด็ดที่ถูกปากขอบอกว่าต้องลอง


ก๋วยเตี่ยวเนื้อสับ

       จากนั้นมาที่เมนูเส้นๆ ก๋วยเตี๋ยวเนื้อสับ (110 บาท++) เป็นก๋วยเตี่ยวเส้นใหญ่ผัดจนหอม และมีเนื้อสับปรุงรสตามสูตรเด็ดของทางร้านราดหน้ามาบนเส้นใหญ่ ใส่ผักไฮโดรโพนิกส์ และมีไข่แดงดิบตอกใส่มาด้วย เวลากินต้องคลุกไข่แดงให้เข้ากับเส้นและเนื้อสับ จากนั้นก็ส่งเข้าปากลิ้มรสชาติเส้นใหญ่เหนียวนุ่มเข้ากันกับเนื้อสับเคี้ยวหนุบหนับปากรสดี


ข้าวมันสะเต๊ะปลา

       และถ้าอยากกินเมนูข้าว ต้องเลือกสั่งเมนูนี้ ข้าวมันสะเต๊ะปลา (195 บาท++) เป็นเมนูข้าวมัน ที่มาพร้อมกับอาจาดรสเด็ด และสะเต๊ะปลากะพงชิ้นโต ลิ้มรสชาติแล้วต้องบอกว่าข้าวมันหอมมันกะทิ ข้าวเป็นเม็ดเคี้ยวนุ่มปาก กลมกลึงรสชาติเข้ากันกับสะเต๊ะปลากะพงเนื้อนุ่มรสกลมกล่อมลิ้น


ต้มข่าปลาแซลมอน

       เมนูสุดท้ายที่ขอแนะนำคือ ต้มข่าปลาแซลมอน (175 บาท++) ที่เหมาะแก่การสั่งมาซดน้ำให้คล่องคอ เพราะจะได้ลิ้มรสชาติของต้มข่าแบบไทยๆ ที่ออกรสเข้มข้นกลมกล่อม และเข้ากันกับเนื้อปลาแซลมอนหวานสด เคี้ยวนุ่มปาก

       แต่ถ้าหากใครคิดว่าเมนูเด็ดเหล่านี้อาจจะยังไม่อิ่มพอใจ ก็ยังมีเมนูอื่นที่ชวนลิ้มลองอีก อาทิ หอยแมลงภู่ยำตะไคร้(S 55 บาท++ L 120 บาท++) พล่าปลาแซลมอน (S 55 บาท++ L 120 บาท++) โรตีแกงเนื้อ/ไก่พริกขี้หนู (120 บาท++) ก๋วยเตี๋ยวราดหน้าสเต็กริบอาย ( 275 บาท++) และถ้าอยากกินข้าวแช่สูตรชาววัง ที่นี่ก็มีให้ลิ้มรส (ชุดละ 250 บาท++ มีถึง 31 พ.ค.นี้เท่านั้น) และยังมีเมนูอาหารไทยอีกมากมายที่ชวนให้สั่งมานั่งกินในท่ามกลางบรรยากาศร้านที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเรากำลังนั่งกินข้าวอยู่ที่บ้าน ที่ตกแต่งดูลงตัวในสไตล์โมเดิร์นชวนนั่งสบายๆ ซึ่งมีถึง 2 ชั้นให้เลือกนั่งได้ตามใจ มีส่วนของชั้นบนที่จะมีโซนห้องแอร์ด้านในที่มีไวน์บาร์บริการ และมีส่วนโอเพ่นแอร์เปิดกว้างรับลมเย็นๆ ด้านนอก ส่วนด้านล่างมีโต๊ะนั่งมุมสบาย และมีมุม Cooking Class ที่หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เอาไว้เปิดสอนทำอาหารด้วยตัวเอง ให้แก่ผู้ที่สนใจและรักการทำอาหารไทยทุกคน

ชื่อร้าน : เดวา บาย หม่อมหลวงขวัญทิพย์ เทวกุล

ประเภทอาหาร : อาหารไทย

เมนูจานเด่น : ส้มตำแอปเปิ้ลเขียวกับปูนิ่ม, เส้นหมี่ส้มตำไก่ทอด, ก๋วยเตี่ยวเนื้อสับ, ข้าวมันสะเต๊ะปลา, ต้มข่าปลาแซลมอน

บรรยากาศร้าน : กว้างขวางนั่งสบายในห้องแอร์ มี 2 ชั้น และมีส่วนโอเพ่นแอร์ด้วย

ที่ตั้ง และการเดินทาง : ตั้งอยู่ที่ 32/1 ซ.สุขุมวิท 39 (พร้อมพงษ์) เขตวัฒนา กทม. การเดินทางนั่งรถไฟฟ้ามาลงที่สถานีพร้อมพงษ์ แล้วลงทางฝั่งซ.สุขุมวิท 39ให้ ตรงเข้ามาในซ.สุขุมวิท 39 ประมาณ 400 ม. จะเห็นตึกเดอะแมนเน่อร์ทางขวามือ ซึ่งร้านเดวาฯ จะตั้งอยู่ภายในตึกนั้น มีป้ายร้านให้เห็นชัดเจน

สถานที่จอดรถ : มีที่จอดรถด้านในร้าน

บัตรเครดิต : รับบัตรเครดิต

เวลาเปิด-ปิด : เปิดทุกวัน เวลา 11.00-23.00 น.

เบอร์โทรศัพท์ : ถ้ามากินแนะนำว่าโทร.มาจองโต๊ะก่อนจะดี และทางร้านรับจัดงานเลี้ยงด้วย โทร. 0-2662-5427

Link: Manager Online