ไปลองมาแล้ว: HYPE

เมื่อวานนี้ ต้องไปเตร็ดเตร่อยู่แถวพารากอน
เลยตัดสินใจไปลองร้าน HYPE
ที่เพิ่งจะลงไปเมื่อวานศุกร์
ทริปทันใจอีกแล้ว
^____^

ร้านนี้ อาจเรียกได้ว่าเป็นร้านอาหารแบบหลากสไตล์
คือมีทั้งอาหารไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น
ตัวอาหารอาจไม่ได้เป็นแบบฟิวชันมากนัก
คือยังคงเป็นแบบเดิมๆ
แต่ด้วยความที่มีเมนูให้เลือกหลากหลาย
แต่ละอัน ก็เลือกสรรชื่อมาให้ดูน่าสนใจ
หวานใจกับแมวดื้อ
ลองชิมลางกันกับอาหารพื้นๆ
เริ่มจาก

Lacto Icy และ Crunchycrunchy
(ขออภัย แอบชิมก่อนถ่ายรูป :P)
Lacto Icy (65 บาท) เป็น smootie ที่นำเอานมเปรี้ยวไปปั่น
พนักงานบอกว่าเป็นบีทาเกน
(ตอนแรกบอกว่าเป็นยาคูลย์)
เปรี้ยวหวาน รสชาดกำลังดี
Crunchycrunchy (65 บาท) เป็นช็อคโกแลตปั่นรวมกับกาแฟ ปนกับโอริโอ
รสชาดเข้มข้น เวลากินแล้วได้เคี้ยวกรุปกรับเล็กน้อย 

หลังจากได้เครื่องดื่มแล้ว
ก็มาถึงจานหลักกันบ้าง

ข้าวหน้าหมูผัดกิมจิเกาหลี 

ข้าวหน้าหมูผัดกิมจิเกาหลี (85 บาท) เอาหมูมาผัดกับกิมจิ แล้วราดข้าว
หวานใจ บอกว่า น่าจะผัดไปกับข้าวเลย
แต่แมวดื้อคิดว่า ถ้าผัดไปกับข้าว
ข้าวแบบนี้ มันจะค่อนข้างเละ ทิ้งไปนานๆ คงไม่น่ากินเท่าไหร่
เสิร์ฟพร้อมซุปมิโซะร้อนๆ

ขณะที่รอจานหลักของแมวดื้อ
ก็มีของว่างมาแทรก

Cani Cream โคโรเกะเนื้อปู 

โคโรเกะ เป็นอาหารทานเล่นของญี่ปุ่น ที่เรียกได้ว่าไม่เคยสั่งตามร้านอาหารญี่ปุ่นเลย
ฮ่า..ฮ่า
อาจเพราะ ตอนอยู่ในร้านเหล่านั้น เป็นโรคปลาดิบขึ้นสมองอยู่ตลอด

การทำโคโรเกะนั้นน่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย
เริ่มจากการนำมันฝรั่งไปต้ม ต่อด้วยนำไปบด แล้วพักไว้ก่อน
จากนั้นทำไส้ ซึ่งอาจจะใช้หมูสับ ผัดกับเนย ใส่หอมใหญ่ ปรุงรสด้วยโชยุหรือวิปครีม
ก็แล้วแต่สูตรใครสูตรมัน
จากนั้นนำมันฝรั่งที่บดไว้มาปั้น ใส่ไส้เข้าไป ปั้นเป็นก้อนกลมๆ
ชุบไข่ แล้วกลิ้งบนเกล็ดขนมปังอีกครั้ง
จากนั้นก็นำไปทอดในน้ำมัน
เสิร์ฟกับทงคัทซึซอส หรือมายองเนส ก็ตามสะดวก
ความอร่อย เลยขึ้นอยู่กับหลายๆ ส่วน
ไม่ว่าจะเป็นความหนาของมันฝรั่ง
รสชาดของไส้
รวมถึงความกรอบ และความร้อนขณะกิน (ควรกินตอนร้อนๆ)
ส่วนซอสจิ้ม ก็ช่วยขัดรสชาดมันๆ สำหรับคนไม่ชอบได้เป็นอย่างดี

สำหรับ Cani Cream โคโรเกะเนื้อปู (65 บาท) ของที่นี่
ปั้นมาลูกใหญ่ เนื้อมันไม่แตก เมื่อกัดหรือหั่น
เนื้อปูละเอียด แต่ตัวไส้ยังรสชาดไม่เข้ากันนัก
เสิร์ฟพร้อมมายองเนส ทำให้คนที่ไม่ชอบรสชาดแบบนี้ อย่างหวานใจ
เลี่ยนได้พอสมควร
ส่วนแมวดื้อ ชอบรสชาดแบบนี้อยู่แล้ว เสร็จโจร!!

Jap chae 

อาหารจานนี้ เล่นเอางงไปได้เหมือนกัน
ในเมนูเขียนเอาไว้ว่าผัดวุ้นเส้นเกาหลี ก็เลยลองสั่งมากิน
Jap chae (85 บาท) กลับมาเปิดเนทหาชื่อนี้ภายหลัง
ได้ใจความว่า jap chae คือ Korean Stir Fried Glass Noodles with Vegetables
แหม.. พอบอกเป็นอาหารเกาหลี ดูจะไฮโซขึ้นมาทันที
หวานใจกินไปคำแรก
บอกว่า…
เหมือนผัดวุ้นเส้นที่แม่ทำให้กินที่บ้านเลย
ก๊าากกกก
ตรงมั่กๆ ค่ะหวานใจ
เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้หลายครั้งแล้ว
มีครั้งนึงไปกินก๋วยจั๊บ แล้วหวานใจก็พูด (ซะดังเลย)
ว่า “ไม่อร่อยเลย”
เกือบไม่ได้ออกจากร้านแล้วไหมนั่น
-_-”
Jap chae (พาลจะอ่านเป็น “จับฉ่าย” อยู่ร่ำไป :P)
รสชาดธรรมดามาก วุ้นเส้นไม่ดึ๋งๆ เท่าไหร่ เห็ดหั่นชิ้นเล็กไปนิดส์นุง
กินแล้วรู้สึกเป็นซากเห็ดมากกว่า
จากข้างบนมา จานนี้ถือว่า “ไม่ผ่าน” คราวหน้าไม่ควรสั่ง

และแล้วก็มาถึงจานหลักของแมวดื้อสักที

ข้าวหน้าไข่ 

ข้าวหน้าไข่ (65 บาท) ชื่ออาจจะเป็นเมนูสิ้นคิด
แต่ขอโทษ ไม่ธรรมดา.. อย่างที่คิด
ไข่เจียวหนานุ่ม เหลืองอร่าม ห่อปกปิดข้าวไว้ทั้งหมด
มีกุ้ง ปลาหมึก ผัดกับข้าวโพดอ่อน แครอท ปรุงเข้ากันดี
โรยหน้าด้วยสาหร่ายและต้นหอม
ใส่น้ำซุปเข้มข้น รสชาดจัดจ้าน ให้ซดคล่องคอ

อ่ิมกันได้ที่
กำลังจะเช็คบิล
ตาก็ไปสะดุดกับโบรชัวร์ขนมหวาน/ไอศครีม
และแล้วก็สั่งเจ้านี่ไปเลย
หวานใจงงๆ เล็กน้อย

แต่น..แตน..แต้น
ทายถูกกันไหมว่าคืออะไร

เฉลย
มันคือ kamikaze ice cream
งงกันหล่ะสิ
Kamikaze ice cream (ลูกละ 40 บาท) เป็นหนึ่งในไอศครีมของที่ร้าน
ซึ่งจะมีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสมอยู่
มี asahi beer ice cream กับ red bull ice cream ด้วยนะ
ใครชอบกระทิงแดง ลองสั่งมาชิมดู
น่าจะมีไฮเนเก้นไอครีมบ้างนะ ฮ่า..ฮ่า

สรุปมื้อนี้ ค่าเสียหาย 470 บาท หารแล้วก็ตกคนละ 235 บาท
ถือว่าไม่แพงมาก กับปริมาณที่ค่อนข้างเยอะ
ตอนแรกเห็นไม่เยอะ แต่พอกินจริงๆ เยอะเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน
พนักงานเอาใจใส่ลูกค้าดีทีเดียว ทั้งพนักงานต้อนรับ พนักงานรับออร์เดอร์
รวมถึงพนักงานทำความสะอาด
หวานใจไปสำรวจชั้นสองของที่ร้าน บอกว่ากว้างขวางดี ห้องน้ำหรูใช้ได้เลย
ร้านอยู่ในสยามสแควร์แบบนี้ หากเพิ่มเติมเรื่องรสชาดของอาหาร ให้ดียิ่งขึ้น
น่าจะอยู่ได้อีกนานทีเดียว