อีกไม่นานแมวดื้อก็จะกลับมาเป็นชาวเกาะอีกครั้ง
เราเรียกพื้นที่ที่ตั้งอยู่ในโซนโชคชัย 4 ลาดพร้าววังหิน ลาดปลาเค้า เสนานิคม ว่าเป็น “เกาะ”
คือสามารถออกไปได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนลาดพร้าว รัชดา พหลโยธิน
เกษตร-นวมินทร์ เลียบด่วนรามอินทรา
มีซอยเล็ก ซอยน้อยเต็มไปหมด
ประกอบกับเป็นพื้นที่ลุ่ม จะฤดูฝน หรือฤดูไหน ฝนจริง ฝนปลอม
ถ้าน้ำมา พลันได้เตรียมตัวพายเรือได้เลย

ด้วยความที่แมวดื้อไปอยู่ในเมืองมานานเป็นสิบกว่าปี
พอจะกลับมาอยู่เกาะ ก็ต้องสอดส่องหาร้านอาหารต่างๆ ก่อนเลย
ตามสโลแกน “แมวดื้อ หัวหน้าแก๊งปากมัน”

วันนี้เห็นร้านเป็ด (พะโล้) ร้านนี้คนนั่งกันแน่นดี
ก็เลยขอลิ้มลองดูสักหน่อย
ร้านนี้เคยตั้งอยู่ที่หัวมุมตลาดสด สะพาน 2
ตอนนี้ร้านอยู่ที่ถนนลาดพร้าววังหิน ระหว่างซอยลาดพร้าววังหิน 47-49
ร้านเปิด 06.00 – 17.00 น.
จอดรถริมถนนได้เลย
ทางร้านรับทำข้าวกล่องด้วย ท่านใดสนใจติดต่อผ่าน facebook หรือเบอร์ที่ลงไว้ใน facebook ได้เลย

Facebook page : www.facebook.com

วันนี้แมวดื้อประเดิมด้วย

ข้าวหน้าเป็ด
ข้าวสวยอุ่น นิ่มกำลังดี กับเป็ดเนื้อแน่น เคี้ยวกรุบกรอบ
น้ำซอสออกหวานเล็กน้อย เด็กทานได้ ผู้ใหญ่ทานดี

บะหมี่เป็ด
เมนูนี้แมวดื้อแอบพลาด เพราะเห็นติตี้สั่งเส้นบะหมี่ แมวดื้อก็เลยตาม
แต่สรุปกันสองคนว่า เส้นบะหมี่ไม่ผ่าน
ส่วนน้ำซุป กับเนื้อเป็ด ใช้ได้เลย
ยิ่งมีพริกคั่วน้ำมันเป็นเครื่องปรุงมาให้ด้วย อร่อยใช้ได้เลย
(แต่อย่าเผลอใส่เยอะนะ พริกของร้านนี้เผ็ดทีเดียว)

เอาไว้โอกาสหน้าแมวดื้อจะลอง “เมนูปลอดภัย” ดูบ้าง ว่ารสชาติจะเป็นยังไง
สำหรับร้านนี้ ถ้าไม่ติดที่ช่วงกลางวันร้อนมากกก โดยรวมก็น่าจะเป็นลูกค้ากันได้ยาวๆ

:idea::idea:


Saturday petdoC
สัปดาห์นี้เรามาต่อกันกับ “อาหารสด” ที่น้องเหมียวสามารถทานได้
สำหรับคำว่าอาหารสดของแมวดื้อนั้นหมายถึงอาหารที่คนเราทานกันโดยทั่วไป
ไม่ได้หมายถึงอาหารดิบนะ
เวลาแมวดื้อถามผู้เลี้ยงว่าให้อาหารน้องเหมียวด้วยอะไร ก็จะมีสองตัวเลือกให้เลือก
คือ “อาหารสำเร็จรูป” กับ “อาหารสด”
ซึ่งข้อมูลพื้นฐานแบบนี้ หลายครั้งช่วยในการวินิจฉัยได้มากเลยทีเดียว
สัปดาห์นี้แมวดื้อหยิบเอาบทความจากเว็บไซต์ www.pawnation.com มาแปลและเรียบเรียงอีกครั้ง

อาหารหลายอย่างในบทความนี้ มีทั้งข้อดีและไม่ดีในตัวเอง
บางครั้งอาจไม่สามารถยึดถือได้สมบูรณ์ 100% แต่คงต้องหมั่นสังเกตดูน้องเหมียวของเราอย่างใกล้ชิดด้วย
ซึ่งแมวดื้อจะแทรกข้อมูลไปด้วยเลย

Fish

สำหรับคนไทยที่ถูกฝังหัวมาตั้งแต่เด็กๆ ว่าแมวต้องคู่กับปลา
หรืออาจจะเติมเข้าไปเป็นปลาทูก็ตามแต่
ในบทความจาก pawnation นั้น พูดถึง canned fish หรือปลากระป๋องเป็นหลัก
แมวดื้อเดาเอาว่าในต่างประเทศนั้นนิยมซื้อปลากระป๋องมาทาน
มากกว่าจะซื้อปลาสดมาปรุงทำอาหารกันเป็นเรื่องเป็นราว
ซึ่งในบทความบอกว่าสามารถให้น้องเหมียวได้ แต่ไม่ควรจะให้เยอะ
เพราะอาจทำให้น้องเหมียวได้รับสารตะกั่วและแมกนีเซียมมากเกินไป
สำหรับปลานั้น โดยทั่วไปแมวดื้อมักจะแนะนำผู้เลี้ยงว่าสามารถให้ได้
และถ้าเลือกได้ แนะนำเป็นปลาน้ำจืดจะดีกว่าปลาทะเล เช่น ปลาทู
เพราะโซเดียม (เกลือ) ที่มากเกินไป ในระยะยาว (เช่นการให้ปลาทูน้องเหมียวทุกมื้อ ทุกวัน)
อาจส่งผลให้น้องเหมียวป่วยเป็นไตวายได้ ซึ่งจะมีปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย ไม่ใช่แค่การกินปลาทูแต่เพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้การให้ปลาแก่น้องเหมียว ก็ควรปรุงทำให้สุก เพื่อลดการติดพยาธิ
และควรแกะก้างออกให้เรียบร้อย
เคสรักษาที่แมวดื้อเคยพบเจอ ก็คือก้างปลาติดคอน้องเหมียว
ใครว่าน้องเหมียวกินปลา (ทั้งตัว) แล้วค้างไม่ติดคอ แมวดื้อขอเถียงเลย
เคยประสบการดึงก้างออกจากคอน้องเหมียว (ตามด้วยการรักษาช่องปากช่องคออีกยืดยาว)
ถ้ารักน้องเหมียวจริง แกะก้างให้ด้วยนะ

Cheese

ชีสถือเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับแมว แต่ก็ยังคงแนะนำการให้ชีสแก่น้องเหมียวในปริมาณน้อยๆ
และควรให้แบบเป็นครั้งคราว ไม่ควรจะให้ชีสแก่น้องเหมียวทุกวัน
อันนี้แมวดื้อมองข้อพิจารณาจะไปในทิศทางเดียวกันกับเรื่องนมนะ
คือหากน้องเหมียวทานนมแล้วท้องอืด ท้องเสีย ก็อาจจะหลีกเลี่ยงการให้ชีสไป
ถ้าทานนมแล้วขับถ่ายปกติ ไม่มีปัญหาเรื่องท้องอืดหรือท้องเสีย ก็อาจจะให้ชีสได้
(แต่ก็ไม่ควรจะให้ทุกวันอยู่ดี)
อีกทางเลือกหนึ่งที่ในบทความแนะนำไว้ก็คือการเลือกใช้ low-lactose cheeses
อันนี้แมวดื้อไม่แน่ใจว่าในบ้านเราจะหาซื้อสะดวกหรือเปล่า
หากหาซื้อได้ แล้วน้องเหมียวมีปัญหากับนมหรือชีสปกติ
อาจทดลองให้ชีสชนิดนี้ในปริมาณน้อยมากๆ แล้วเฝ้าติดตามอาการดู

Broccoli

ตามธรรมชาติแล้วน้องเหมียวต้องการสารอาหารจำพวกโปรตีนเป็นหลัก
ผู้เลี้ยงหลายคนเข้าใจผิด คิดว่าน้องเหมียวต้องกินข้าว เลยพยายามคลุกข้าวเข้ากับปลา
บ่อยครั้งที่น้องเหมียวกลายเป็นโรคอ้วน อันเนื่องมาจากคาร์โบไฮเดรตเกินความต้องการของร่างกาย
แต่ถึงแม้น้องเหมียวจะต้องการโปรตีนเป็นหลัก แต่สารอาหารอื่นๆ ก็จำเป็นไม่แพ้กัน
ผู้เลี้ยงหลายคนอาจประสบว่าน้องเหมียวไปแทะๆ งั่มๆ ต้นไม้ที่ปลูกเอาไว้
บางบ้านไม่มีต้นไม้ น้องเหมียวก็จัดการงั่มๆ ไม้กวาดแทน
อันนี้ผู้เลี้ยงควรจะให้ความใส่ใจในพฤติกรรมดังกล่าว
หลายครั้งพฤติกรรมนี้เป็นการบ่งบอกว่าน้องเหมียวอาจเริ่มมีปัญหาในระบบทางเดินอาหารเข้าแล้ว
ตามสัญชาตญาณของสิ่งมีชีวิตเพื่อความอยู่รอด เราอาจจะพบ ไก่กินหิน เก้งกวางกินดินโป่ง
น้องหมาน้องแมวที่เล็มต้นไม้ใบหญ้าต่างๆ
หากไม่นับเรื่องของ “การเล่น” สิ่งหนึ่งที่อาจต้องคำนึงถึงก็คือ “ภาวะการขาดสารอาหารบางอย่าง”
คนเราเรียนกันมาตั้งแต่เล็กๆ ว่าให้ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่
วิตามินและเกลือแร่ จากผักและผลไม้ เป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นต่อร่างกาย
สำหรับน้องเหมียวก็เช่นเดียวกัน ถึงแม้ร่างกายน้องเหมียวจะต้องการโปรตีนเป็นหลัก แต่ก็ต้องการวิตามินและเกลือแร่เช่นเดียวกัน
หากเห็นน้องเหมียวไปงั่มๆ ต้นไม้ แล้วสงสัยว่าน้องเหมียวอาจจะขาดวิตามินและเกลือแร่
อาจจะให้ผักแก่น้องเหมียวได้ โดยในบทความนี้แนะนำบร็อคเคอลี่ ทานได้

Spinach

ผักขมก็เป็นผักอีกชนิดหนึ่งที่ให้แก่น้องเหมียวได้
ซึ่งน้องเหมียวแต่ละตัวก็มีความชอบไม่เหมือนกัน
บางตัวชอบกรอบๆ แข็งๆ แบบบร็อคเคอลี่ แต่บางตัวก็ชอบแบบเป็นใบๆ มากกว่า
ผักขมเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะช่วยเสริมวิตามินและเกลือแร่แล้ว
ผักขมยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ ลดอาการท้องอืดแน่นท้องได้อีกด้วย
ซึ่งก็ยังคงหลักการ “การให้แต่ปริมาณน้อยๆ ” อยู่เช่นเคย
นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ไม่ควรให้ผักขมแก่น้องเหมียวที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคไตหรือระบบทางเดินปัสสาวะ
เนื่องจาก calcium oxalate ที่อยู่ในผักขม อาจโน้มนำให้เกิดนิ่วตามมาได้

Melon

ไหนๆ มาเรื่องผักแล้ว ก็ต่อด้วยผลไม้เลยแล้วกัน
แตงไทย แตงโม แคนตาลูป
สามารถให้แก่น้องเหมียวได้ ซึ่งจะช่วยในระบบขับถ่าย และเสริมวิตามิน
อย่างไรก็ตามก็ต้องไม่ลืมว่าน้องเหมียวเป็นสัตว์กินเนื้อ ดังนั้นผลไม้ก็ควรจะให้ในปริมาณน้อยๆ เช่นเดียวกัน
ปัญหาของผลไม้ อาจจะไม่ใช่เรื่องสารอาหาร แต่อาจเป็นปัญหาเรื่องระบบการย่อย
ขนาดคนเรา ทานผลไม้ไปมากๆ ยังท้องเสียเลย

Bananas

กล้วยเป็นผลไม้อีกชนิดหนึ่งที่สามารถให้แก่น้องเหมียวได้
ปกติเวลาแมวดื้อทานกล้วยหอม ก็มักจะมีสมาชิกเหมียวๆ แวะเวียนกันมาขอชิมกันเป็นประจำ
เมนูที่บทความนี้แนะนำก็คือกล้วยแช่เย็น ซึ่งแมวดื้อเห็นด้วยนะ
จากประสบการณ์ หากเป็นกล้วยที่อยู่อุณหภูมิห้อง น้องเหมียวจะไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่
ยิ่งเป็นกล้วยที่สุกสักนิด เนื้อเริ่มนิ่มๆ เละๆ น้องเหมียวไม่เอาเลย
แต่ถ้ากล้วยแช่เย็น เย็นๆ ต้องเคี้ยวนิดนึง น้องเหมียวจะชื่นชอบมาก

Egg

ไข่ มักจะเป็นอาหารที่เรามองว่ามีคุณค่ามากมาย อุดมไปด้วยโปรตีน เหมาะสำหรับน้องเหมียว
สำหรับคำแนะนำเกี่ยวกับการให้ไข่แก่น้องเหมียว นั้นได้แก่
ไม่แนะนำให้ไข่ดิบแก่น้องเหมียว นอกจากจะย่อยยากแล้ว อาจมีเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับไข่ได้
หากต้องการปรุงอาหารไข่ ควรเลือกทำเมนูที่ไม่ใช้น้ำมัน เนย ซึ่งอาจเป็นไข่ต้ม ไข่คน เป็นต้น

Lean Dali Meats

อันนี้ของโปรดแมวดื้อเลย แมวดื้อชอบทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็น แฮม โบโลน่า
อันนี้จะว่าไปก็ถือการถนอมอาหารอย่างนึง แต่ถึงแม้ว่าจะเป็นโปรตีน ก็ไม่ควรจะให้น้องเหมียวบ่อยๆ
อาจจะให้นานๆ ครั้ง เป็นขนม หรือรางวัล แค่นั้น
(ในคนก็ยังไม่แนะนำให้ทานเป็นประจำเลย)

Beef

อันนี้บางบ้านไม่ทานเนื้อ ตัวเลือกนี้ก็ตกไป
แต่บทความนี้ก็บอกว่าน้องเหมียวนั้นสามารถทานเนื้อได้นะ
ตราบใดที่ให้ในปริมาณน้อยๆ และหลีกเลี่ยงส่วนที่มีไขมัน
เน้นย้ำอีกครั้งว่าไม่ควรจะให้ “เนื้อดิบ” (ไม่ว่าจะเป็นเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว หรือเนื้อปลา)

Canned food

อาหารกระป๋อง ในที่นี้ ถูกแยกออกจากปลากระป๋องในข้อแรกนะ
ผู้เลี้ยงหลายคนอาจตั้งข้อสังเกตว่า ก็ในเมื่อน้องเหมียวต้องการโปรตีนเป็นหลัก
ดังนั้นเราก็มองหาอาหารกระป๋อง (ของคน) ที่เน้นเนื้อสัตว์เลยจะดีไหม
คำตอบก็คือไม่ควร เพราะนอกจากสารตะกั่วและแมกนีเซียมจากอาหารกระป๋องโดยทั่วไปแล้ว
ยังต้องระวังส่วนประกอบต่างๆ ของอาหารอีกหลายชนิด เช่น กระเทียม หัวหอม ที่ไม่เหมาะแก่น้องเหมียวอีกด้วย
ได้ไม่คุ้มเสียนะ แมวดื้อคิดว่าจริงๆ ถ้าถึงขั้นอยากจะซื้ออาหารกระป๋องให้น้องเหมียวแล้ว เลือกเป็นอาหารกระป๋องของเขาเลยจะดีกว่านะ
หรือใครจะคิดว่า ก็ซื้อมาทานเองแล้วน้องเหมียวทานด้วย
ลองเปลี่ยนเป็นซื้ออาหารกระป๋องของน้องเหมียวมาแทน แล้วเราขอชิมบ้าง
อันนี้ก็ตัวใครตัวมันนะ

Credit Photos & Article : www.pawnation.com


Yummy fridaY
เย็นวันนี้แมวดื้อชวนน้องลูกพรุนมาคุยงาน
ตอนกลางวันแมวดื้อก็ยุ่งๆ อยู่ทั้งวัน
พอตกเย็นก็หิวโซ นั่งรถไปลงที่ทาวน์อินทาวน์
น้องลูกพรุนก็เสนอ 3 ตัวเลือก โชคดีติ่มซำ, เจียงลูกชิ้นปลา และ อบอร่อย
ซึ่งแมวดื้อก็นึกถึงกุ้งอบวุ้นเส้นขึ้นมา และแน่นอนว่าต้องเลือกเข้าร้านอบอร่อยทันที

แมวดื้อไม่แน่ใจว่ารู้จักร้านนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่หลายครั้งที่มีการนัดญาติๆ มาทานอาหารกันแบบครอบครัวใหญ่ ก็มักจะมาที่ร้านนี้
อาจเป็นเพราะรสชาติอาหารที่ดีประกอบกับราคาที่พอคบหาได้
แมวดื้อชอบสั่งกุ้งอบวุ้นเส้น และมักจะกินแต่วุ้นเส้น ส่วนกุ้งแจกจ่ายให้เพื่อนร่วมโต๊ะ
เอิ้ก…เอิ้ก
จนหลายครั้ง ถูกแซวว่าเดี๋ยวซื้อวุ้นเส้นที่ตลาดเป็นกิโลมาทำให้ทานดีกว่าไหม
โดยเฉพาะเมื่อคราวที่ไปนั่งร้านอาหารขึ้นชื่อแห่งหนึ่ง ที่เมนูกุ้งอบวุ้นเส้นราคา 2800 บาท
และด้วยความที่แมวดื้อไม่ทันสังเกตราคาในเมนู ก็เลยสั่งเบิ้ลมา
สรุปวันนีั้นแมวดื้อกินวุ้นเส้นในราคาห้าพันกว่าบาท

:shock::shock:

อบอร่อย ณ ปัจจุบันเปิด
จันทร์ – เสาร์
16.00 – 23.00 น.
ส่วนวันอาทิตย์ พิเศษเปิดเร็วหน่อย
11.30 – 23.00 น.
มีโต๊ะนั่งกว่า 80 โต๊ะ
แต่มักจะเต็มจนลูกค้าต้องรอ วิธีการที่แนะนำก็คือโทรจองล่วงหน้า
(รับบริการจองล่วงหน้า 1 วัน)
Tel : 02-559-0628, 089-015-5656

เนื่องจากวันนี้มาคุยงาน ก็เลยสั่งแบบพอประมาณ คือกินไปคุยไป
(เน้นคุยมากกว่า)


หอยเชลล์เผาอบเนย
Grilled Scallops with Butter


กุ้งอบวุ้นเส้น
Steam Prawns with glass noodles

จริงๆ มีปลากระพงทอดน้ำปลา
Deep Fried SeaBass with Fish Sauce (Mango Spisy Salad)
อีกหนึ่งเมนู แต่ว่าไม่ได้ถ่ายรูปไว้
มื้อนี้ก็แค่ตึงๆ ไม่ได้อิ่มอะไรมากมาย เพราะคุยเสียเป็นส่วนใหญ่
นั่งจนร้านปิดไฟไล่จนเหลือโต๊ะสุดท้าย เลยต้องเป็นนางซินกลับบ้านตอนเที่ยงคืน
เอาไว้จะหาโอกาสไปซัดโฮกเต็มๆ สักครั้ง

Official Site: www.obaroi.com


วันนี้แมวดื้อก็เปิดเว็บดูไอเดียตกแต่งบ้านไปเรื่อยเปื่อย
มาสะดุดที่นาฬิกาแบบนี้

แมวดื้อเองทำงาน (เกือบ) ทุกวัน บางครั้งก็เกิดอาการหลงลืม “วัน” บ่อยๆ
คือจำได้ว่าวันที่เท่าไหร่ แต่จำไม่ได้ว่าเป็นวันอะไรในสัปดาห์
สำหรับคนที่ทำงาน 5 วัน/สัปดาห์ อาจจะมีวันจันทร์ที่น่าง่วง กับวันศุกร์อันแสนสุข
แต่สำหรับแมวดื้อมันก็คือวันทำงานทุกวันเหมือนกัน
หลายครั้งที่นัดลูกค้าบอก “สัปดาห์หน้า” คือปากพูดไปแล้ว แต่สมองยังคิดไม่ทันว่าสัปดาห์หน้าคือวันไหน
(ก็วันนี้ยังไม่รู้เลยว่าเป็นวันอะไร)
เอิ้ก…เอิ้ก
แมวดื้อถึงต้องวางปฏิทินเอาไว้ที่เคาเตอร์ 2-3 อัน
สำหรับดูย้อนไปว่าลูกค้ามาวันไหน หรือเพื่อจะได้รู้ว่าถ้านัดลูกค้าอีก 3 เดือนข้างหน้า จะเป็นวันอะไร
(บางครั้งนัดลูกค้าไปตรงวันหยุดของออฟฟิศ ก็จะโดนบ่นนะ)

:o:o

นาฬิกาแบบในรูปก็ดูออกแนว geek สักเล็กน้อย แม้ว่าการดูวันล่วงหน้าอีก 3 เดือน ก็ยังคงต้องใช้ปฏิทินอยู่ดี
แต่ก็ช่วยย้ำเตือนได้เป็นอย่างดี
ซึ่งอีกทางเลือกนึงก็คือใส่นาฬิกาข้อมือ แต่ว่างานของแมวดื้อมันออกจะต้องเลอะเทอะอยู่สักนิด
บางทีก็เสียดายนาฬิกาดีๆ อยู่เหมือนกัน (ไม่กล้าใส่)
แต่ก็พยายามใส่ให้ติดข้อมือล่ะ ของมันสำหรับใช้งานเนอะ ไม่ได้ซื้อมาตั้งโชว์นี่นา

:x:x


Wednesday boX
หนังเรื่องนี้แมวดื้อเล็งๆ ไว้ตั้งแต่ตอนเข้าโรงภาพยนตร์
แต่ก็ไม่มีโอกาสได้ดู จนลาโรงไปเรียบร้อย
ล่าสุดทั้ง DVD / Bluray ออกมาแล้ว แมวดื้อก็ไม่พลาดที่จะหามาดูโดยพลัน

เนื้อเรื่องถึงแม้จะเป็นแนว hunter ที่ออกมาจนหลายคนเอียน
แต่ก็ไม่ได้เป็นแวมไพร์เสียทีเดียวนะ เรื่องนี้จริงๆ เป็นแม่มดเสียมากกว่า
สองตัวเอก (พี่น้องกัน) เกิดจับผลัดจับผลูไปเป็นนักล่าแม่มดซะงั้น
เรื่องนี้แท้จริงต้นกำเนิดมาจากนิทานของเยอรมัน
แต่ถึงกระนั้นบทก็ไม่ได้ถูกเขียนมาจากนิทานแบบเป๊ะๆ แต่ใส่ความปัจจุบันให้รู้สึกสนุกไปกับตัวละคร
เรื่องนี้แทบไม่ต้องสร้างสิ่งชวนเชื่อให้จินตนาการ เพราะคนดูแทบทุกคนก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องปราบแม่มดด้วยการเผาไฟ
ส่วนวิธีการอื่นๆ อันนี้เป็นส่วนประกอบปลีกย่อย ที่ทำให้ฉากแอคชั่นดูน่าสนใจ สะใจ
สำหรับตัวละคร Jeremy Renner ที่เพิ่งโด่งดังจากบท Clint Barton / Hawkeye ใน The Avengers
กระตุ้นให้หลายคนอยากดูหนังเรื่องนี้ ซึ่งต้องขอบอกว่าความเท่ยังอยู่เต็มเปี่ยมในหนังเรื่องนี้
สำหรับนางเอกสาวหวานอย่าง Gemma Arterton จาก UK คนนี้
เคยฝากผลงานด้วยบท Tamina นางเอกจากเรื่อง Prince of Persia: The Sands of Time มาแล้ว
คาแรกเตอร์ในเรื่องนี้ อาจไม่หนีจากเดิมสักเท่าไหร่ แต่ก็แฝงความเซ็กซี่ไว้ในเรื่องพอสมควร
สิ่งที่แมวดื้อชอบที่สุดของหนังเรื่องนี้ก็คงเป็นเรื่องฉากสถานที่ถ่ายทำ ทั้งเมือง หรือ ป่า ดูสวยจริงๆ
เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ทำงานไปด้วย ดูไปด้วยได้ชิลๆ

:exercise::exercise:


More Posts


Phonetic clipboard
June 4, 2013

Phonetic clipboard

BeamApp
June 4, 2013

BeamApp

Miniki
June 3, 2013

Miniki

Honey Toast at iBerry
June 2, 2013

Honey Toast at iBerry