Trip: Mae Hong Son – Pai – Chiang Mai (D4)

..มาหล่ะ..
ถึงเวลามาบ่นแล้ว entry นี้บ่นล้วนๆ ใครไม่อยากฟัง ข้ามไปดูรูปอย่างเดียวได้เลย อิอิ

 เริ่มจากเมื่อวาน
นั่งรถตู้จากปายมาถึงเชียงใหม่
พอถึงสถานีขนส่งก็เอาสัมภาระลง
จัดแจงให้น้องลูกพรุนกับหวานใจไปซื้อตั๋วกลับกทม.ก่อน
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถเมล์เพื่อไปยังประตูท่าแพ

-อารมณ์เสีย-

กับหวานใจ ที่คุยกับน้องที่ guesthouse ไม่รู้เรื่อง
เรื่องสถานที่ guesthouse
คือคนที่เชียงใหม่ ต่างคนก็ต่างเรียกกันไปไง
“suriwong center”
คนนึงบอกถนนโน้น คนนึงบอกถนนนี้
หวานใจก็ไม่รู้ น้องที่ guesthouse ก็ไม่รู้
สรุป เดินไปเดินมาอยู่นาน
พอมาถึง

* Been & Gone … Guesthouse (ฝรั่งเพียบ) ราคา 650-1250 บาท เคเบิ้ลทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น (มีจักรยานเสือภูเขาให้ทุกห้อง??) ฟรีอินเตอร์เนท ใกล้ Starbuck และ Black Canyon … ไนท์บาซ่าร์ และ ถนนคนเดิน ตรงประตูท่าแพ โทร. 053-207-067-8
* โทรถามแล้ว [ห้องละ 600 บาท] นอนได้ 3 คน (ห้องแอร์ ห้องน้ำ ทีวี เคเบิ้ล อินเตอร์เนต)

เป็นอะไรซะอีกกว่า guesthouse อีก
มีทีวี เครื่องทำน้ำอุ่น
แอร์ไม่ค่อยเย็น มีพัดลมตั้งโต๊ะ (ประมาณว่าแอร์ไม่เย็น ใช้ไอ้นี่แล้วกัน)
ห้องน้ำไม่ล้าง ไม่มีสบู่ ไม่มีผ้าเช็ดตัว
กระจกฝ้าในห้องน้ำแตก ตึกข้างๆ มองเห็นในห้องน้ำได้อย่างสบาย
ตู้เก็บเสื้อผ้ามีไม้แขวนเสื้อ 2 อัน
กระจกด้านบนผนังแตกเช่นเดียวกัน เอาไม้ ผ้า กระดาษแปะไว้ เหมือนกันมันปลิวซะแค่นั้น
สรุป.. ไม่ขอแนะนำเป็นอย่างยิ่ง ใครอย่าได้เผลอเข้าไปเชียวนะ
Wi-Fi ไม่ต้องถาม เพราะไม่มี
มีร้านข้างๆ เนท ADSL 512Mb ชั่วโมงละ 30 บาท ขูดกันเห็นๆ
ใช้ Edge เล่นแทนยังสบายใจกว่า

หลังจากเห็นสภาพห้องน้ำกับสภาพตัวเองตอนนั้นแล้ว
คิดว่า.. เอาฟร่ะ ยังไงก็ต้องอาบน้ำแล้ว เน่าได้ที่
เลยเดินไปร้าน boot หาโฟมล้างหน้า แชมพู มีดโกนหนวด ฯลฯ
กลับมา ล้างห้องน้ำก่อนเลย เพราะดูท่า น้องลูกพรุนกับหวานใจ คงไม่จัดการเป็นแน่
อาบน้ำ สระผม ล้างหน้า (หลายรอบ) โกนหนวด
ออกมา..สดชื่นขึ้น แอร์เริ่มเย็น หวานใจกับน้องลูกพรุนโดนเคเบิ้ลทีวีดูดเข้าไปอย่างไม่ยากเย็น
หลังจากรอทั้งสองคนอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว
น้องลูกพรุนบ่นว่า สงสัยจะเริ่มไม่สบาย
สรุปว่าทริปนี้อาจจะยกเลิก “ไก่ทอดเที่ยงคืน” ไป
เพราะอาจต้องรอนาน น่าจะหิวกันซะก่อน
รีบหาอะไรกินแล้วกลับมากินยาแล้วนอนเร็วก็แล้วกัน

จุดหมายของพวกเราก็คือ night bazarr
แมวดื้อไม่ได้มาเชียงใหม่เป็นสิบปีแล้วเห็นจะได้
ที่มาก็เพียงผ่านไปปาย (ปีที่แล้ว) ไม่ได้มาพักหรือมาเที่ยวเลย
night bazarr แปลกตาไป
นักท่องเที่ยวเยอะมาก ฝรั่งเพียบ
มองไปสองฝั่งถนน ก็เจอแต่ fast food
เอ่อ.. มันก็เหมือนกทม. หรือ พัทยา
อารมณ์แตกต่างจาก 2 วันก่อนโดยสิ้นเชิง
แมวดื้อเริ่มรมณ์บ่จอย ถามพี่รปภ. ได้ความว่ามีอาหารตามสั่งในตลาด
พวกเราเลยเดินเข้าไปในตลาด
อาหารตามสั่ง จานเดียว มีให้เลือกไม่กี่ร้าน
แมวดื้อสั่งผัดไท
กินแล้วก็เฮ่อ.. ถอนหายใจ
ข้าวไข่เจียวที่ปางอุ๋ง แม้ว่ารอนาน (มาก) ยังอร่อยกว่าเลย
จากนั้นก็ปล่อยให้หวานใจเดินดูสินค้าพื้นบ้าน
แมวดื้อว่ามันก็เหมือนๆ ที่เคยเดินตาม JJ หรือสวนลุมไนท์นะ
ดีหน่อยก็ตรงมีสตอร์เบอรี่สด รสชาด ok เลย
กับ pancake เมืองไทย ที่ฝรั่งชอบกันมาก
pancake – roti – rotee แล้วแต่ร้าน
แมวดื้อยืนอยู่ตรงสี่แยกไนท์บาร์ซาร์ เห็นมีอยู่ไม่ต่ำกว่า 5 ร้าน

จากนั้นก็เดินกลับที่พัก
ระหว่างทางแวะ 7-11 ซื้อขนมมากิน (เหมือนไม่อิ่ม) หุ..หุ

มาถึงที่พัก
ทุกคนก็อัพยากันเต็มที่
ซุกใต้ผ้านวม แล้วก็โดนเคเบิ้ลทีวีดูดไป
ไม่รู้ใครปิดทีวี
เอิ้ก..เอิ้ก

เช้าวันนี้
แมวดื้อตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตั้งแต่เช้า
แต่นึกได้ว่าอยู่เชียงใหม่ ไม่รู้จะไปไหนดี
ก็เลยนอนอุตุ ไปจนสาย
ดูแก๊งเรานอนสบายกัน
11 โมง จึงจะขุดตัวเองไปอาบน้ำ เก็บของ
เช็คเอ้าท์ แล้วก็คิดกันว่าจะไปไหนดี
แมวดื้อ… no idea
แค่เห็นสภาพไนท์บาร์ซาร์เมื่อคืนแล้ว ชักไม่อยากไปไหนแล้ว

หวานใจชวนไปร้านอาหารเช้าที่เดินผ่านกันเมื่อคืน
ร้าน JJ Breakfast
อยู่ใกล้กับ starbuck – boot ประตูท่าแพ ที่พวกเราอยู่
ร้านนี้เปิดตั้งแต่เช้า จนถึงบ่ายแก่ๆ
ขายอาหารเช้าตลอด
ร้านนี้เปิดมาหลายสิบปีแล้ว
เจ้าของร้านออกมารับออร์เดอร์เอง
บริการใช้ได้
อาหารก็ ok ไม่แพงนัก
แมวดื้อสั่งชุดอาหารเช้า
ถ่ายด้วยไอโฟน

สรุปพวกเรารวบอาหารเช้า – เที่ยงไว้ด้วยกัน
13.00 น. พร้อมออกเดินทาง
หวานใจกางแผนที่ บอกว่าจะไปที่ Gallery
พวกเราเดินลัดเลาะเมืองไปตามแผนที่
อากาศร้อนได้ที่ กับ เส้นทางที่ไม่คุ้นเคย
พอมาถึง Gallery แมวดื้อหยิบกล้องมาถ่ายรูปสุดท้ายของทริป แล้วก็ไม่ได้ถ่ายอีกเลย

จากนั้น พวกเราก็เดินไปตลาดวโรรส ซึ่งของฝาก
ตามที่ท่านแม่สั่งน้องลูกพรุนมา
ต้องซื้อร้านนี้เท่านั้น
เอา.. ร้านนี้..ก็..ร้านนี้
หลังจากได้ของฝากกันมาคนละถุงใหญ่ๆ
หวานใจก็เรียกรถสองแถว พาพวกเราไป iberry
iberry ที่นี่ ก็ดูน่ารักดี
แต่ไงหล่ะ แมวดื้อแค่อยากมาเที่ยว ไม่อยากติดภาพอะไรที่เป็นเมืองหลวง
ที่ร้านนี้ ทั้งนักท่องเที่ยว ทั้งนักศึกษา มช. นั่งกันเต็มไปหมด
ไม่ต่างจาก iberry ใน siam paragon
ความอยากในการถ่ายรูปเลยหมดไปโดยปริยาย
แต่ก็ดี ได้มีโอกาสใช้บัตร iberry ครั้งแรก ตั้งแต่สมัครสมาชิกมา ฮ่า..ฮ่า
หลังจากนั้นก็ไปยังเป้าหมายสุดท้าย
ถนนคนเดิน
ซึ่งบอกได้เลยว่า
“ไม่ประทับใจ” อย่างแรง
คนเยอะ
อากาศร้อน
สถานที่กว้างเกินไป มีทางแยกเต็มไปหมด
ถ้าจะเดินทุกเส้นต้องเดินไปแล้วย้อนกลับมา
สินค้าเหมือนๆ กันหมด
วัดที่อยู่บนถนนดังกล่าว ปล่อยให้ร้านค้าเข้าไปขาย
บางอย่างไม่เหมาะที่จะนำไปขาย “ในวัด”
ทั้งถนน เต็มไปด้วย “เทปกาว” ที่ผู้ขายมาแปะไว้กันคนเตะสายไฟ
แต่ไม่มีท่าทีว่าพอเก็บร้านแล้วจะเอาออกให้เรียบร้อย
ถนนบางเส้น เป็นแหล่งหาเงิน
ทั้งคนพิการทางสายตา ทางหู
หรือคนปกติ ที่หาเงินเรียน หรือนักท่องเที่ยวหาเงินกลับบ้าน (ไม่รู้จริงหรือเปล่า)
พ่อค้าแม่ค้า ที่ดูไม่เป็นมิตรอยู่เต็มไปหมด
ตากล้อง ขายรูป ที่เขียนป้ายด่าคนคอมเม้นท์
ไม่ว่าเค้าจะติ หรือจะชม ก็แขวะเค้าไปหมด
ถ้าคิดแค่แบบนั้น ก็ไม่ต้องเอามาอวด เอามาขายหรอก เก็บไว้ดูคนเดียวจะดีกว่า
อาหารเหมือนจะเยอะ
แต่ต้องเลือกร้านสักนิด
บางร้าน แพคใส่กล่องพลาสติกมา
ดูท่าทางทำมาตั้งแต่เช้า
มันก็อาจจะไม่สด หรือใครธาตุไม่แข็งแรงก็อาจจะเกิดอาการได้
สรุป
ไปครั้งเดียวพอ

จากนั้นก็กลับไปเอาสัมภาระ แล้วก็ไปยังสถานีขนส่งกลับกทม.

 

ปิดท้าย Trip นี้
ชอบบรรยากาศธรรมชาติสุดๆ
ไว้มีโอกาสคงไปอีก
ขออยู่แม่ฮ่องสอน – ปางอุ๋ง – ปาย นานๆ
จริงๆ แม่ฮ่องสอนมีที่เที่ยวอีกเยอะมาก
ที่ปางอุ๋งก็มีกิจกรรมกับสถานที่ ที่ยังไม่ได้แวะไปอีก แต่เล็งไว้แล้ว
ที่ปายก็ขอไปแบบพักชิลๆ ไม่ต้องเร่งเหมือนทริปนี้

หน้าสุดท้ายของอัลบั้มการเดินทาง

มีรูป panorama ที่ถ่ายหลาย shot แล้วเอามารวมกันด้วย
แปะไว้ให้ดูกัน
“ปางอุ๋ง… ในความทรงจำ 2008”