สามชุกตลาดร้อยปี ตอนที่ 2

มาต่อกับเที่ยวสามชุกตลาดร้อยปี ตอนที่ 2
อยู่ที่บ้านขุนจำนงจีนารักษ์ค่อนข้างนาน
จนหวานใจโทรตาม ว่าไปบ้านโค้กกันแล้ว
หลังจากออกจากบ้านขุนจำนงค์แล้วก็เจอร้านนี้


แต่ด้วยความที่เพิ่งกินมา
แม้ว่าอยากกิน (มาก) แต่อยากถ่ายรูปมากกว่า ก็เลยไม่ได้ลอง
ตอนหลังหวานใจบอกว่า ร้านนี้อร่อยมาก
เสียดายไม่ได้เดินกลับมาชิม
ไว้คราวหน้านะ

เดินไปสักหน่อย ก็มีลานการแสดงของนักเรียน
เดินแวะเข้าไปชมเล็กน้อย


คุณป้าที่บ้านนี้เห็นสะพานกล้อง ชะเง้อมองภายในบ้าน
เลยบอกให้เดินขึ้นไปถ่ายรูปข้างบนได้
ใจดีสุดๆ บอกขึ้นไปเลย ไม่ต้องถอดรองเท้าก็ได้
ที่จริงก็อยากขึ้นนะ
แต่เห็นหน้าต่างบานนี้


บอกตรงๆ ว่า “ขนลุก”
คือยืนอยู่ทางด้านล่าง
ตำแหน่งที่ยืนมองขึ้นไปย้อนแสง
อยู่ๆ เมฆก็บังซะอย่างนั้น
เลยตัดสินใจไม่ขึ้นดีกว่า แหะ..แหะ

เดินต่อไปอีกหน่อยก็เจอ “บ้านโค้ก”
แต่ด้วยรูปที่ถ่ายมา อาจไม่เข้ากับความเก่าของตลาดสามชุก
ขอไม่ลงใน set นี้แล้วกัน
ฝั่งตรงข้ามของบ้านโค้ก มีร้านไอติมโบราณอยู่


ถ้าหวานใจอยู่ข้างนอกก็คงแบ่งกันคนละครึ่งแล้ว
ไอติมก้อนใหญ่มาก
น่ากินทุกรสเลย
<<หวานใจพาลูกสาวไปถ่ายรูปอยู่ในบ้านโค้ก>>

เห็นจำนวนคนแล้ว
แมวดื้อกับน้องลูกพรุนเลยเดินต่อไปอีกห้อง
เจอโรงแรมนี้


น่าเสียดายมากๆ
เพราะดูรูปจากตากล้องที่ไปถ่ายกัน
ตัวโรงแรมปิดอยู่ คือมันยังคงเป็นโรงแรม เพียงแต่ไม่ได้เปิดบริการเท่านั้น
ปัจจุบันด้านล่างของโรงแรม กลายเป็นร้านกาแฟไปแล้ว
แต่ก็ยังมีข้าวของวางอยู่เต็มไปหมด


โต๊ะ ตู้ นาฬิกา ทีวี รวมถึงเตียงไม้ ยังคงวางอยู่
คาดว่าจะเป็นมุมของเจ้าของ หรือผู้ดูแลโรงแรม
จากรูป จะเห็นว่ามีกระจกบานใหญ่ติดอยู่กับฝาเลย


ปฏิทิน และเทอร์โมมิเตอร์


โต๊ะโบราณ ที่แบ่งช่องใส่เศษสตางค์ (เหรียญ) และแบงค์
เงินจะลงไปยังช่อง แยกชั้นกัน


โรงแรมนี้มี 2 ชั้นเท่านั้น
ด้านบน มีห้องอยู่ 3 ห้อง
ทำให้ประหลาดใจว่า โรงแรมสมัยก่อน มีห้องแค่นี้เองหรือ?
มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำอยู่ชั้น 2
แต่มีลานนอกห้อง กว้างเหมือนกัน
จึงเดาว่า อาจจะนอนข้างนอก (ห้อง) กันด้วย
อาจเป็นผู้มีเงิน หรือเจ้านาย นอนในห้อง
แล้วบ่าว หรือชาวบ้านธรรมดา นอนด้านนอกกระมัง

หลังจากนั้นก็ทะลุออกจากซอยนี้ไป
เจอร้านของเล่นเต็มไปหมด


รู้จักกันไหมเอ่ย


จำได้ว่าสมัยก่อนเป็นอภิญญา หรือเนาวรัตน์นี่นา
ปัจจุบันกลายเป็นอั้มไปแล้ว ฮ่า..ฮ่า

หลังจากเดินๆ กะไว้ว่าเดินให้ทั่วก่อน แล้วค่อยเดินกลับมาซื้อ “เรือป๊อกๆ”
ที่เป็นเรือที่เราต้องจุดเทียน พอน้ำในท่อโดนความร้อน เรือก็แล่นไปได้
ชอบมาก ตอนน้ำท่วมกทม. ปี 2526 ยังได้เล่นอยู่เลย 😛
ตาก็เหลือบไปเห็นบ้านนี้ขายของเก่า
ซึ่งไม่รู้ว่าเก่าจริง หรือทำให้เก่า


วิทยุ หลากหลายยี่ห้อ ทั้งฟิลิป ซันโย และโซนี่


ดูการออกแบบผลิตภัณฑ์ของโซนี่สมัยก่อน
ทำให้เข้าใจว่า ทำไมปัจจุบันมันยังดังอยู่
มันออกแบบสวยจริงๆ


จะถ่ายเตารีด กลับออกมาแนว abstract แทน ฮ่า..ฮ่า


เครื่องใช้ สุดคลาสสิค

จบตอนที่สอง
สามชุกตลาดร้อยปี ผ่านไปครึ่งตลาดแล้ว