Groove My Dog Unplugged Concert

ในที่สุดก็มาถึงงานคอนเสิร์ตนี้สักที
Federbrau Presents
Groove My Dog Unplugged Concert
คอนเสิร์ตจัดที่ Thunder Dome เมืองทองธานี
ก็ทำงานปกติ
กว่าจะได้เจอหวานใจก็หกโมงแล้ว
ต้องรีบไป เพราะต้องไปรับบัตรหน้างานด้วย
นั่งรถเมล์ไป
เหอเหอ
รู้ว่ารีบยังนั่งรถเมล์ไป แถมรถไปวนที่ปากเกร็ดอีก
เสียเวลาไปนานเหมือนกัน
แถมลงจากรถต้องเดินเข้าไปอีก
ซึ่งไกลมาก
แมวดื้อกับหวานใจก็ซื้อของกันมา
ต้องแบกของวิ่งไปธันเดอร์โดม
..เหนื่อยค่อด..
หลังจากรับบัตรก่อนเวลาคอนเสิร์ตเริ่มแค่ 5 นาที
เรียกว่าไม่ได้ดูบูธใดๆ ทั้งสิ้น
รับบัตรเสร็จ เดินเข้าคอนเสิร์ตเลย

ซึ่งกว่าจะเริ่มเล่น
ก็อีกเกือบครึ่งชั่วโมงถัดมา
มีเวลา tweet ขำๆ
มี twitter-er อยู่ในคอนเสิร์ตนี้ด้วยหลายคน

คอนเสิร์ตเริ่มจาก Modern Dog
ที่ยังคงสไตล์ตัวเองไว้ไม่เคยเปลี่ยน
เพลงแฝงไว้ด้วยข้อคิดมากมาย
และแน่นอนว่าเพลงดังๆ มันๆ ก็ถูกหยิบมาเล่นในคอนเสิร์ตนี้เช่นกัน
แม้จะเป็น Unplugged Concert แต่ก็ยังมันกันได้

..Note..
เนื่องจากนั่งอยู่ค่อนข้างไกล
หากเป็นรูปเล็ก คงจะมองอะไรไม่ออก
ก็เลยทำรูปใหญ่
แต่ก็ติดด้วยความกว้างของคอลัมน์ใน naughtycat blog ไม่กว้างมาก
หากลงรูปกว้างมากๆ ก็จะเละเทะ
เลยใช้วิธีให้คลิ้กแล้วกันนะ
หากใครอยากดูรูปใหญ่ ก็เชิญคลิ้กกันตามลำบาก
(รูปอาจใหญ่สักนิด) 

จบเพลงแล้ว คนดูยังตบมือกันไม่เลิก มันมาก

หลังจากได้เวลาอันสมควร
เหล่า modern dog กับนักดนตรี ออกมาขอบคุณคนดู
โดยการไปโค้งตามมุมต่างๆ จนครบรอบ

สำหรับคอนเสิร์ตในครั้งนี้
ตามข้อมูลบอกว่าเวทีจะสามารถหมุนได้
ซึ่งจริงๆ หมุนได้เฉพาะตรงกลางนิดเดียว
ที่เห็นเป็น “เห็ดสีเขียว บนพื้นสีฟ้า”
หมุนแค่นั้นแหละ
ดังนั้น ทุกที่นั่งของคอนเสิร์ตนี้ อาจจะมองอะไรไม่เห็นเลย
เหอ..เหอ
ที่น่าสงสาร ก็คือพวกที่นั่งหน้าสุด
(บัตรแพงสุด)
เนื่องจาก นอกจะมองไม่เห็นแล้ว (หากศิลปินไปอยู่บนเวทีด้านตรงข้ามของตน)
ต้องอาศัยดูจากมอร์นิเตอร์เอา
ยังต้องอารมณ์เสียกับพี่ๆ สื่ออีก
ถ่ายรูปติดขอบเวทีกันแบบไม่มีใครขยับเลย
น่าสงสารจัง

ต่อจากนั้น
ก็ปล่อยมือเพอร์คัทชั่นของปาล์มมี่ออกมาวาดลวดลาย
ต้องทึ่งกับความสามารถของเค้าจริงๆ
รูปแบบในการเล่น รวมถึงการเล่นกับคนดู เป็นมืออาชีพมาก
เล่นไปสักพัก
ปาล์มมี่ก็ออกมา
ร้องยาวไปหลายเพลง
ก่อนจะมาทักทาย แล้วก็อายๆ กับชุดที่ใส่อยู่
..”เหมือนกับใครมาจ้องบั้นท้ายอยู่”..
ฮ่า..ฮ่า

เพลงของปาล์มมี่
มักจะเกี่ยวข้องกับความรักในรูปแบบต่างๆ
หลายเพลงกรีดอารมณ์ของคนฟังได้อย่างง่ายดาย
ทุกคนร้องเพลงของปาล์มมี่ด้วยเสียงสั่นเครือ
เพลงที่เล่นขึ้นมา เพลงแล้วเพลงเล่า
กระหน่ำซ้ำเติม บาดแผลในใจของหลายคน 

หลังจากเศร้ากันน้ำตาคลอไปแล้ว
ปาล์มมี่ก็กระชากอารมณ์ของทุกคน
ด้วยเพลงเต้นกระจาย
เล่นเอาเหล่าคนดูที่กำลังเศร้า ต่างเต้นกันด้วยความมัน
จนเวลาล่วงเลยไปมาก (จากที่ศิลปินคนนึงน่าจะใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง)
ปาล์มมี่เองก็ไม่อยากเลิก คนดูก็อยากเต้นไปกับปาล์มมี่อีก
จนทีมงานต้องส่งซิกแนลบอกปาล์มมี่
เป็นอันจบรอบ

ถึงเวลากับ Groove Rider
ที่รอมานาน
เริ่มแรกมีปัญหาเรื่องหูฟังของบุรินทร์นิดนึง
ที่เจ้าตัวก็ไม่ยอมปล่อยให้มันผ่านไป
เพราะจะมีผลกับการร้องของเค้าเป็นอย่างมาก
พอเข้าที่เข้าทางแล้ว
ก็เริ่มเต้นกันเลย สลับกับเพลงซึ้งๆ
ซึ่งช่วยแก้ง่วงได้เป็นอย่างดี

หลังจากได้เวลาอันสมควร
ก็เชิญศิลปินทั้งหมดมาร้องเพลงมาช
เอ้ย.. เพลงธีมของคอนเสิร์ตในครั้งนี้
..”ขอบคุณ”..
เพลงที่ฟังกี่ครั้ง ไม่ว่าจะเวอร์ชันไหน ก็รู้สึกดีๆ ได้อยู่ทุกครั้ง

จบคอนเสิร์ตไปแบบหนาวๆ
ก็อากาศหนาวแล้วนี่เนอะ
หากถามว่าดีไหม.. ก็คงบอกว่าดี
แต่คงไม่ประทับใจมาก เหมือนตอนคอนเสิร์ต 10 ปี เบเกอรี่

แถมตอนกลับ อารมณ์เสียสุดๆ
รถติด.. ไม่มีรถ ไม่มีแทกซี่
โอ้ว..แม่เจ้า
ดันอยู่ในตำแหน่งที่ไม่มีรถผ่านเข้ามาอีก
ดีเสียว่ายังมีรถตู้ (คันสุดท้าย) ที่พาพวกเรากลับออกไปยังอนุสาวรีย์ชัยฯ ได้
รอดตัวไป

ไปส่งหวานใจเสร็จ
กว่าจะกลับบ้าน
พรุ่งนี้มีงานแต่งงานจิ๊บ-พี่แมคต่อ
จะตายไหมเนี่ยเรา

:wink::wink: