Amphawa: 22 feb 2009

วันนี้ต้องตื่นตั้งแต่เช้ามืด
เดินทางไปยังอัมพวา
เพื่อไปร่วมงาน + ถ่ายรูป งานบวช

 :arrow::arrow:

~ ง่วงสุดๆ ~
เหอ..เหอ
แวะร้านสะดวกซื้อที่ปั้มระหว่างทาง
ได้กาแฟร้อนแบบสำเร็จรูปมาแก้วนึง
หอมดี เลยใช้วิธีสูดเอากลิ่นกาแฟเข้าไปก่อน
แล้วค่อยตามด้วยซดกาแฟจนหมด
(ประหนึ่งให้คาเฟอีนซึมเข้ากระแสเลือด ฮ่า..ฮ่า)
คาดว่า..กว่าจะได้กินอะไรจริงจังก็น่าจะเที่ยงโน่นแหละ

ตอนเช้าที่อัมพวา
อากาศดีเหมือนกัน
เดินเข้าสวน (ไปยังบ้านที่พ่อนาครออยู่)

 

ขบวนแห่นาค
ที่เหมือนจะมากันทั้งตำบล
ร้อง เล่น เต้น กันใหญ่

คึกครื้นกันดีเหมือนกัน
นานๆ จะมาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้เสียที
ใช้ชีวิตเมืองมาจนเคย
เวลามาสัมผัสบรรยากาศแบบนี้ ก็อดยิ้ม พลอยสนุกกับเค้าไม่ได้สักที 

 

ทางเข้าวัด
พร้อมป้ายบอกงานบุญ
อัมพวานั้นมีวัดต่างๆ มากมาย
วัดอลงกรณ์นั้นเป็นอีกวัดหนึ่งซึ่งเงียบสงบ
เส้นทางที่เข้าไปยังวัด ไม่มีไฟถนน
หากมาตอนกลางคืน นี่คงมืดสนิท
จะมีก็เพียงคบเพลิงเล็กๆ
ทำจากขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ปักอยู่ตามเสา แค่นั้น

 

งานบวชก็มีญาติๆ พร้อมด้วยเพื่อนๆ เจ้าภาพมาร่วมงานกันมากมาย
งานเล็กๆ แต่อบอุ่น
แต่แอบมีพิธีการเล็กน้อย ตามพุทธศาสนา
ไม่ว่าญาติ เด็กเล็กแดง จนถึงเพื่อนๆ
ต่างก็พากันถ่ายรูปเต็มไปหมด
อยู่ดีๆ เราก็อาจจะเห็นกล้องโผล่มาแบบสถานที่แปลกๆ
ดังเช่นนี้

 

บรรยากาศของวัด
ถึงแม้ว่าจะมีเสียงกระซิบจากญาติผู้ใหญ่ว่า
ภายในกุฎินั้นจะมีเครื่องอำนวยความสะดวกหลายสิ่ง
แต่ก็ต้องถือว่าปัจจุบันโลกเปลี่ยนไปแล้ว
บางสิ่ง บางอย่าง ก็อาจมีการปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย
แต่ภายนอก บริเวณวัด ก็ยังเป็นสถานที่อันสงบ

 

วิหารใหม่ ที่กำลังสร้าง
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรัตนมหาสิหิงค์ 

 

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีการ
ก็ได้เวลาพักผ่อนกันแล้ว
แต่แดดร้อนมาก
จะไปเดินเที่ยว ตลาดน้ำอัมพวาตอนเที่ยง ก็กระไรอยู่
ก็เลยไปนั่งเล่นในบ้านสวนก็แล้วกัน
นึกถึงตอนเด็กๆ เล่นซนในสวนแบบนี้เหมือนกัน
ปีนหลังคา เก็บผลไม้

 

วิ่งเล่นในสวน หรือทุ่งนา

 

หาอะไรเล่นไปเรื่อยเปื่อยตามประสาเด็กๆ
กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำ

 

เด็กสังคมเมืองสมัยนี้ คงเล่นคอมพิวเตอร์อยู่บ้านกันแทน
แต่ในต่างจังหวัด
ภาพที่เด็กเล่นกันในสวน ในทุ่งนา ก็ยังคงเห็นกันอยู่
กินผลไม้ ได้อย่างไม่ต้องกลัวสารพิษ (สักเท่าไหร่)
อาบน้ำคลองได้โดยไม่ต้องห่วงว่าน้ำประปาจะไหลหรือไม่
นี่แหละ.. ชีวิตพอเพียง..