Tuesday nerD
วันนี้หยิบ iPhone OS 4 sneak peak จากงาน
Apple Special Event, April 2010
ที่เพิ่งผ่านไปในสัปดาห์ที่แล้วมาแปะไว้สักหน่อย
API ใหม่ๆ ส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาใน SDK
เพื่อให้นักพัฒนานำไปใช้งานได้
คุณสมบัติใหม่ๆ ส่วนหนึ่ง
ที่ผู้ใช้งานจะได้ใช้ในเฟิร์มแวร์ใหม่
คุณสมบัติที่ Steve หยิบมานำเสนอในครั้งนี้ เรียกว่า
7 “Tentpole” features
ประมาณว่าคุณสมบัติทั้ง 7 นี้ มันต้องมีสักอย่างที่เข้าตาผู้ใช้งานกันบ้างแหละ
1.Multitasking
นี่คือสิ่งที่เหล่าบรรดา Geek ทั้งหลายต่างต้องการ
การทำงานหลายๆ อย่างพร้อมกันในเวลาเดียวกัน
ซึ่ง Steve แจ้งว่าสาเหตุที่ไม่ทำตั้งแต่แรก เพราะจะมีปัญหาเรื่องแบตเตอรี่ (เปลืองแบต)
แต่ตอนนี้ก็ได้พัฒนาจนทำออกมาแล้ว
Steve ได้แสดงให้ดูว่าขณะเปิดเว็บเพจอยู่นั้น พอกดปุ่ม Home สองครั้ง
ก็จะมีแถบด้านล่างปรากฏขึ้นมา
นั่นคือโปรแกรมที่เปิดการทำงานอยู่ และสามารถเลือกทำงานอีกโปรแกรมนึงได้ทันที
โดยที่พอกลับมายังโปรแกรมเดิม ก็จะยังคงสถานะเหมือนตอนก่อนจะเปลี่ยนโปรแกรม
หากมองในแง่การทำงานแบบนี้
อาจไม่เห็นความแตกต่างจากเดิมมากนัก
มันเหมือนการสวิชโปรแกรมตามปกติ
แค่จะมีการจำสถานะ (save running state) ไว้เพียงเท่านั้น
ซึ่งบางโปรแกรมหรือบางเกม ก็มีความสามารถในการจำสถานะไว้อยู่แล้ว
แต่หากมองอีกแง่การทำงานหนึ่ง
เช่นการฟังเพลง ร่วมกับการทำงานอย่างอื่น
อันนี้ก็น่าสนใจอยู่ไม่น้อย เพราะได้ก้าวข้ามข้อจำกัดที่มีอยู่เดิมพอสมควร
การทำงานอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ
ก็คือการเชื่อมต่อ ไม่ว่าจะเป็น Skype (VOIP), Turn-by-Turn apps หรือ Social Network apps
พวกนี้จะเป็นการทำงานอยู่ตลอดเวลา คราวนี้ผู้ใช้งานก็ไม่ต้องพึ่ง push notification เพียงอย่างเดียวแล้ว
ซึ่ง push ได้บ้าง ไม่ได้บ้าง แต่ถ้าเป็น multitasking ออนไลน์ตลอดเวลา น่าจะทำงานได้ดีกว่า
Scott สรุปการทำงานที่น่าสนใจของ Multitasking ออกมา ให้ได้เห็นภาพรวม
2.Folders
นี่คือคุณสมบัติของคนบ้าพลัง (แบบแมวดื้อ)
เคยสังเกตไหม บางคนลงโปรแกรมบนไอโฟนน้อยมากเลย
คือสองหน้ายังไม่เต็มเลย
แต่บางคน (เช่นแมวดื้อ) 11 หน้าก็ไม่เคยพอ
หากไม่รับโปรแกรมบน Dock จะพบว่ามีถึง 11 x 16 = 176 โปรแกรม
ซึ่งแน่นอนว่าในการทำงานประจำวันนั้น 176 โปรแกรมดังกล่าว ไม่ได้ใช้ “ทั้งหมด” หรอก
แต่ว่าบางเวลา หากต้องการก็จะมีใช้งานทันที
“เหลือ..ดีกว่าขาด”
(จริงไหม)
ด้วยคุณสมบัติ Folder ทำให้ผู้ใช้งานสามารถลากไอคอนโปรแกรมต่างๆ มาซ้อนๆ กัน
ทำให้เกิดเป็นโฟลเดอร์ขึ้นมา ซึ่งสามารถย้ายโฟลเดอร์ไปมาได้เช่นเดียวกับไอคอนโปรแกรมปกติ
นอกจากนี้ยังสามารถตั้งชื่อโฟลเดอร์ได้ตามต้องการ
โดยระบบจะทำการตั้งชื่อ (เป็นดีฟอลต์) ตามหมวดหมู่ (Category) ของโปรแกรมไว้ให้
ถือว่าค่อนข้างสะดวก
ด้วยคุณสมบัติ Folders นี้ จะทำให้ผู้ใช้สามารถติดตั้งโปรแกรมได้ถึง 2160 โปรแกรม!!
หากมองกันในแง่การทำงาน
ต่อให้แยกหมวดหมู่ หรือจัดอย่างเป็นระบบระเบียบสักเพียงใดก็ตาม
แต่การ “จดจำ” “ตำแหน่ง” ของโปรแกรมทั้งหมด (หรือเกือบทั้งหมด) 2160
ดูจะเป็นเรื่องไร้สาระอยู่สักหน่อย
ดังนั้น หากเป็นการใช้งานจริง ก็คงต้องพึ่ง spotlight เป็นหลักอยู่ดี
3.Mail
มีการเพิ่มเติมความสามารถของ Mail ให้มากขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจก็คงเป็น Unified inbox
ซึ่งจะสะดวกมาก สำหรับผู้ที่มีเมล์หลายแอคเคาท์
และ Threaded messages
ที่ยังไม่รู้ข้อจำกัดว่าจะต้อง Reply ด้วย Subject เดิมตลอดหรือไม่ จึงจะเข้าไปอยู่ใน Thread ได้
หรือในกรณีที่เป็น Mail Group ไม่รู้ว่าจะสามารถรวมเข้าไว้ด้วยกันได้หรือไม่
4.iBooks
สำหรับผู้ใช้งานไอโฟน และไม่ได้ต้องการ iPad
ก็มีโอกาสที่จะได้อ่าน ebook บ้าง ในบางโอกาส
5.Enterprise
สำหรับการใช้งานไอโฟน ในรูปแบบองค์กรหรือบริษัท
ก็เพิ่มความสามารถหลายส่วนด้วยกัน
Wireless app distribution
ดูจะน่าสนใจไม่น้อย ซึ่งจะสะดวกมากๆ สำหรับบริษัทที่มีการใช้ไอโฟนเยอะๆ
ไม่ต้องมาคอยจับไอโฟนมาเชื่อมต่อกับ iTunes แล้วซิงค์ทีละตัว
6.Game Center
อันนี้ดูเหมือนว่า Apple จะเข้ามาจับในส่วนนี้เสียเอง
หลังจากที่ผู้พัฒนาเกมให้ iPhone / iPad Touch หลายราย
ได้มี game networking มาได้สักระยะหนึ่งแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น Plus+ ซึ่งมีพันธมิตรเกมมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ
ซึ่งก็คงต้องจับตารอดูกันต่อไปว่าจะทำออกมาในรูปแบบใด
และแน่นอนว่าน่าจะมีการนำไปเรียบเทียบกับ Game Console Network อื่นๆ
ไม่ว่าจะเป็น Xbox Live หรือ Playstation Network
7.iAd (Mobile Advertising)
นับว่าเป็นการตลาดที่ไอเดียดีมาก
กับแอพพลิเคชันมากมาย
ทั้งที่เป็น free, $0.99, $1.99
มีแอพจำนวนไม่น้อยที่ถูกมองข้ามไป
เทคนิคการติดโฆษณาเข้าไปในแอพเลยทำได้อย่างน่าสนใจ
คือปัจจุบันแอพหลายตัวก็มีโฆษณาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น Admob หรือ Banner App ที่ทำขึ้นมาเอง
ซึ่ง Apple ก็เลือกที่จะทำให้มันดูน่าสนใจมากกว่านั้น
สามารถเปิดดูและดาวน์โหลดได้โดยไม่รบกวนการทำงานแอพที่เปิดอยู่
โดย Steve บอกเอาไว้ว่าจะมีโฆษณา
10 Ads per device each day
ในตรงนี้แมวดื้อเดาว่าอาจมีการตรวจสอบ Store ก่อนว่าอยู่ในประเทศใด
ซึ่งแอพบางตัวก็อาจจะไม่มีในทุกประเทศ
และไม่แน่ใจว่าจะเป็นการสุ่มหรือว่า staff pick มาโฆษณา
ผ่าน 7 Tentpole features ไปแล้ว
Apple ก็พร้อมที่จะปล่อย SDK 4 beta ให้นักพัฒนาได้ทดสอบกันทันที
สำหรับ iPhone OS 4 นี้
ต้องการความสามารถในส่วนของ Hardware ด้วย
ดังนั้น iPhone (รุ่นแรก) จึงถูกลอยแพเป็นที่เรียบร้อย ไม่สามารถติดตั้ง iPhone OS 4 ได้
ส่วน iPhone 3G สามารถติดตั้ง iPhone OS 4 ได้ แต่ว่าจะใช้คุณสมบัติ Multitasking ไม่ได้
ดังนั้นก็คงจะเหลือแค่ลูกรัก รุ่นล่าสุด iPhone 3GS เท่านั้น ที่จะใช้งานได้เต็มที่
หรือไม่ก็คงต้องรอไอโฟนตัวต่อไป