สำหรับชาวไซเบอร์นั้น การขาดการเชื่อมต่ออินเทอร์เนทเป็นระยะเวลานานๆ
เรียกว่าทำให้หงุดหงิดได้เหมือนกัน
ช่วงที่หวานใจไปอยู่สมุย ก็เคยเล่าให้ฟังว่า
ที่สมุยสามารถใช้ WiFi ที่ชายหาดได้เลย
ถือว่ากิ๊บเก๋เอามั่กๆ
จะดีไม่น้อย หากต่อโน้ตบุค ท่องเนทจากริมหาด
เหมือนโฆษณาเมื่อหลายปีก่อน
ล่าสุดข่าวจากกรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ข่าวนี้ น่าสนใจทีเดียว
กับเมืองพัทยา
พัทยา ผนึกทีโอที – กสท ยกระดับเมืองพัทยาขึ้นสู่เมืองท่องเที่ยวไอซีทีแห่งแรกในไทย ผลักดันภาพพจน์สู่สายตาโลก ดีเดย์เปิดบริการไวไฟฟรีตลอดแนวชายหาดและถนนคนเดิน 25 ธ.ค. นี้ ชูจุดขายดูดนักท่องเที่ยวกว่า 6 ล้านคนต่อปี
นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า พัทยาเตรียมยกระดับก้าวสู่ความเป็น “ไอซีที ซิตี้” โดยตั้งเป้าเป็นเมืองท่องเที่ยวแห่งแรกในประเทศไทย ที่นำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ โดยร่วมมือกับ บมจ.ทีโอที และ บมจ.กสท โทรคมนาคม นำเสนอบริการโทรคมนาคมที่ล้ำหน้าแก่นักท่องเที่ยว และรองรับการต่อยอดสู่การให้บริการด้านไอซีที เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในพื้นที่
เบื้องต้น เตรียมเปิดให้บริการฟรีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สาย (ไว-ไฟ) ของทีโอที ตลอดแนวชายหาดและท่าเทียบเรือ ด้วยความเร็ว 256 กิโลบิตต่อวินาที ที่รองรับได้ทั้งไฟล์ภาพ เสียง และข้อมูล
ทั้งนี้ ถือเป็นโครงการไว-ไฟบนชายหาดแห่งแรกของประเทศไทย เปิดให้นักท่องเที่ยว รับการ์ดฟรีตามจุดที่กำหนดไว้ ได้แก่ สำนักงานบริการของทีโอที และศาลาว่าการเมือง รวมถึงจุดประชาสัมพันธ์ของเมืองพัทยา เพื่อนำยูสเซอร์เนม และพาสเวิร์ด เพื่อไปล็อกอินเข้าใช้งานฟรีได้ 30 นาที
กำหนดประเดิมให้บริการฟรีกับชาวไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในงาน “พัทยา เคานท์ดาวน์ 2009” ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 25-31 ธ.ค.นี้ ที่แหลมบาลิฮาย ชลบุรี หลังจากนั้นจะขยายต่ออีก 3 เดือน ก่อนจะทยอยให้บริการฟรีตามโซน จนถึงสิ้นปี 2552
โครงการนี้ทีโอที ใช้งบลงทุนเบื้องต้น 10.8 ล้านบาท ติดตั้งฮอทสปอต 90 จุด ส่วนนักท่องเที่ยว หรือผู้ใช้งานที่ต้องการสื่อสารด้วยความเร็วที่สูงขึ้น สามารถซื้อการ์ดได้ ซึ่งจะมีระดับความเร็วตั้งแต่ 512 กิโลบิตต่อวินาที – 2 เมกะบิตต่อวินาที
นายจิรายุทธ รุ่งศรีทอง รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. กสท โทรคมนาคม กล่าวว่า กสท ได้เตรียมเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย คือ ไฟเบอร์ ทู เดอะ โฮม สนับสนุนให้พัทยากลายเมืองไอซีทีแห่งแรก
กสท คาดว่าจะใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท ติดตั้งโครงข่ายใยแก้วนำแสงที่รองรับมัลติมีเดียความเร็วสูง ทั้งเสียง ข้อมูล และวิดีโอ เข้าถึงจำนวนครัวเรือนทั่วเมืองพัทยาราว 2 หมื่นหลังคาเรือน โดยจะเดินหน้าโครงการได้ปีหน้า
พร้อมกันนี้ จะใช้วิธีการวางโครงข่ายใยแก้วนำแสงใต้ดิน เพื่อความงามทางภูมิทัศน์ โดยเมืองพัทยา จะประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น หน่วยงานด้านไฟฟ้า และอื่นๆ ที่ต้องเดินสายเคเบิลอยู่แล้ว
Link: www.bangkokbiznews.com