วันนี้หลังจากไปส่งติตี้แล้ว
แมวดื้อก็ขอลิ้มลองก๋วยเตี๋ยวร้านเจ๊จูเสียหน่อย
ติตี้บอกว่าก๋วยเตี๋ยวร้านนี้อร่อยใช้ได้เลย
ก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟเจ๊จู
เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวห้องแถว 2 ห้อง อยู่บนถนนเจริญนคร
โดยละแวกนี้จะมีร้านอาหารอยู่หลายร้านด้วยกัน
แมวดื้อผ่านร้านนี้เป็นประจำ แต่ไม่เคยไปลิ้มลองสักที
วันนี้ได้โอกาส ขอสั่งเมนูสุดโปรดมาลองก่อน

เส้นหมี่แห้ง

จริงๆ แมวดื้อควรจะสั่ง “เส้นเล็กต้มยำ” หรือ “เส้นเล็กแห้ง” ที่เรียกได้ว่าเป็นเมนูปลอดภัยมาลิ้มลองก่อน
แต่เชื่อติตี้สั่งเมนูโปรดจัดมาเลย
ถือว่ารสชาติดีเลยทีเดียว วัตถุดิบสดใหม่ เส้นที่แข็งหรือเละจนเกินไป ไม่มีน้ำมันเจียวท่วมเป็นทะเลให้เห็น
คราวหน้าลองเมนูอื่น
อ้อ… ร้านนี้มี “ไอติมเครื่อง” ขายด้วยนะ

:twisted::twisted:


หลังจากมื้อเที่ยงผ่านไป
ติตี้กับแมวดื้อก็ไปเดินย่อยในร้านหนังสือ
เดินเข้าร้านโน้น ออกร้านนี้
ได้หนังสือติดมือมา 2-3 เล่ม
เพิ่มอาหารให้สมองในส่วนที่เราไม่ถนัดบ้าง

เดินจนติตี้เริ่มเมื่อย
จุดนั่งพักสำหรับสีลมคอมเพล็กซ์ คงไม่พ้นร้านนี้
After You
บ่ายนี้แมวดื้อยังคงตึงๆ จากปลาทอดน้ำปลา ก็เลยทานไปได้นิดหน่อย

Sticky Toffee Toast (175 บาท)
เพิ่ม Banana (+15 บาท)
ขนาดท้องยังตึงๆ นะเนี่ย ยังสั่งเพิ่มกล้วยเลย

:goggle::goggle:


วันนี้ตอนแรกติตี้กับแมวดื้อตั้งใจจะเข้าเมืองกัน
แต่ว่ารถติดแถวๆ สีลม
ติตี้กับแมวดื้อก็เลยลงจากแท็กซี่ เปลี่ยนใจแวะสีลมคอมเพล็กซ์แทน

หลังจากเดินวนๆ เลือกร้านอาหาร อันเป็นวาระแห่งมื้อเที่ยง
สุดท้ายก็เลือกร้านแหลมเจริญ
ร้านชื่อดัง ในพื้นที่เล็กๆ ซอกชั้นล่างของสีลมคอมเพล็กซ์
คนเยอะทีเดียว พนักงานก็ดูจะมีจำนวนไม่น้อย

พอเริ่มสั่งอาหาร เมนู “กั้ง” ก็ได้รับคำปฏิเสธเมนูอาหาร พร้อมบอกว่า “ต้องสั่งล่วงหน้า”
เฮ้ย… มันจะต้องขนาดแบบที่จองโต๊ะล่วงหน้า สั่งอาหารล่วงหน้ากันเลยเหรอ นั่นมัน “ภัตตาคารชั้นหนึ่ง” แล้ว
หลังจากที่สั่งอาหารและเครื่องดื่มไป
กับการรอคอยที่เรียกว่านานพอสมควร ก่อนจะได้ปลาทอดน้ำปลามา

เมนูยอดนิยม ที่ใครๆ ต่างชื่นชอบ
แมวดื้อเรียกว่าเมนูปลอดภัยเสียมากกว่า คือถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด เมนูนี้น่าจะ “สอบผ่าน” ไม่ยากนัก
(แต่ติตี้ก็เคยบอกว่า เมนูนี้ที่สาขาระยอง “สอบตก” มาแล้ว)

:o:o

ความวัวยังไม่หาย ความควายเข้ามาแทรก
จี๊ดจากเรื่องต้องสั่งอาหารล่วงหน้ายังไม่ทันหาย ก็มีเรื่องให้จี๊ดต่อ
เมื่อติตี้บอกว่าน้ำสับปะรดปั่น ใส่วิปครีม!!
คือจริงๆ เมนู “น้ำสับปะรดปั่นใส่วิปครีม” มันเข้าใจได้นะ ร้านที่มีเมนู smoothies ก็อาจมีเมนูนี้
แต่การที่เขียนเมนูเอาไว้ว่า “น้ำสับปะรดปั่น” เวลาเราสั่งเราก็คาดหวังว่ามันคือ “น้ำผลไม้ปั่น” ไง ไม่ได้ต้องการออปชั่น

:???::???:

สุดท้ายกับเมนูนี้ ที่แมวดื้อคิดว่ามันออกจะ “แห้งมาก” ไปสักหน่อย
ส่วนติตี้รับรู้ถึง “ความไม่สด” ของปลาหมึก (แมวดื้อลิ้นจรเข้เลยไม่รู้สึก)

สรุปว่าคราวนี้ไม่ค่อยประทับใจแหลมเจริญเลย
อาจเป็นเพราะสาขานี้ คราวหน้ากลับใช้บริการที่ CTW หรือ Siam Paragon แล้วกัน
(โดยส่วนตัวแมวดื้อชอบที่ CTW มากกว่านะ คือคนเยอะ แต่ก็ดูวุ่นวายน้อยกว่าที่ Siam Paragon)

:evil::evil:


Saturday petdoC
สัปดาห์นี้ต้องขุดเอาเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ โดยอัพเดตข้อมูลบางส่วนที่เคยเขียนเอาไว้
กล่าวถึงในแนวถามตอบแล้วกันนะ

Question
ฉีดวัคซีนเข็มเดียวได้หรือไม่
Answer
ระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการทำวัคซีนเพียงเข็มเดียวจะขึ้นไม่สูงมากนัก และจะค่อยๆ ลดต่ำลง
ดังนั้นหากมองในแง่ของการป้องกันโรค อาจไม่เหมาะสมนัก

Question
ฉีดวัคซีน 3 เข็มมีอันตรายหรือไม่
Answer
หลักการของวัคซีนเป็นการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโดยไม่ได้ทำให้ป่วย
ดังนั้น การทำวัคซีนในขณะร่างกายแข็งแรง มักจะไม่มีอันตราย
นอกเสียว่าจะเกิดปฏิกิริยาการแพ้วัคซีน ซึ่งไม่มีวิธีทดสอบก่อนทำการฉีดวัคซีน
ข้อแนะนำคือให้บันทึกว่าสัตว์มีประวัติการแพ้วัคซีนยี่ห้อใดล็อตการผลิตใด เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้วัคซีนที่ทำให้เกิดปฏิกิริยาการแพ้ในครั้งต่อไป
และระยะห่างระหว่างการฉีดวัคซีนแต่ละเข็ม ไม่ควรต่ำกว่า 2 สัปดาห์

Image credit: www.eurocatfancy.de

 จากรูปแกนกราฟแนวตั้งคือระดับภูมิคุ้มกัน แกนกราฟแนวนอนคือระยะเวลา
จะเห็นว่าภายหลังจากการฉีดวัคซีนเข็มแรก ระดับภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นอย่างช้าๆ และระดับไม่สูงมากนัก
โดยระดับภูมิคุ้มกันนี้มีโอกาสจะสูงหรือต่ำกว่า “ระดับภูมิคุ้มกันที่สามารถป้องกันโรค” ก็ได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการตอบสนองต่อวัคซีนในสัตว์แต่ละตัว
หากสัตว์ที่มีการตอบสนองต่อวัคซีนดีมาก ก็อาจจะมีการสร้างภูมิคุ้มกันไปจนถึงระดับที่ “ป้องกันโรค” ได้
แต่อย่างไรก็ดี ระดับภูมิต้านทานที่เกิดขึ้นแบบนี้จะอยู่ในระดับที่ไม่สูงมาก และลดลงอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็จะไม่สามารถ “ป้องกันโรค” ได้
แต่หากได้รับการฉีดวัคซีนกระตุ้น ระดับภูมิคุ้มกันก็จะเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นนี้จะสูงกว่าระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีนในครั้งแรกมาก
ตามทฤษฏี ระดับภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นจากการทำวัคซีนกระตุ้นนั้นจะสามารถ “ป้องกันโรค” ได้ และระดับภูมิคุ้มกันดังกล่าวจะค่อยๆ ลดลง
ในบางโรค ระดับภูมิคุ้มกันอาจอยู่ได้นานหลายปี ในบางโรค ระดับภูมิคุ้มกันอาจลดต่ำลงในระยะเวลาประมาณ 1 ปี
ดังนั้น เพื่อให้เกิดการทำเป็นประจำ และไม่หลงลืม จึงแนะนำให้ทำการกระตุ้นวัคซีน “ทุกโรค” ทุกปี

สำหรับการทำวัคซีนเข็มที่ 3 นั้น สามารถนำรูปนี้มาใช้อธิบายได้เช่นเดียวกัน
คือหากการทำวัคซีน 2 ครั้งแรก ไม่มีปัญหาอะไร การทำวัคซีนครั้งที่ 3 อาจไม่ได้กระตุ้นให้มีการสร้างภูมิคุ้มกันสูงขึ้น (กว่าครั้งที่ 2)
และอาจไม่ได้ส่งผลให้ระดับภูมิคุ้มกันอยู่นานขึ้น แต่หากบังเอิญการทำวัคซีนครั้งแรก “ไม่ประสบความสำเร็จ” ก็ยังพอจะมั่นใจได้ว่าลูกสัตว์จะมีระดับภูมิคุ้มกันที่จะ “ป้องกันโรค” ได้
เหตุที่ทำให้การทำวัคซีน “ไม่ประสบความสำเร็จ” นั้นอาจเกิดขึ้นได้หลายประการ
อาทิเช่น
วัคซีนที่ไม่ได้คุณภาพ หรือการจัดส่งวัคซีน หรือการเก็บรักษาวัคซีน ไม่เหมาะสม
ควรเก็บวัคซีนในอุณหภูมิที่เหมาะสมตลอดเวลา (จำง่ายๆ ว่าให้แช่เย็น ห้ามแช่แข็ง)
หรือ
ลูกสัตว์อยู่ในภาวะที่ไม่เหมาะสมต่อการทำวัคซีน เช่นอยู่ในช่วงเจ็บป่วย อยู่ในสภาวะเครียด อายุน้อยเกินไป หรือมีพยาธิสภาพต่างๆ
ผู้เลี้ยงสัตว์บางราย นิยมที่จะพาลูกสัตว์ไปทำวัคซีน ในวันที่เพิ่งไปซื้อมาเลย ซึ่งลูกสัตว์อาจเกิดความเครียดจากการเปลี่ยนอาหาร เปลี่ยนคนเลี้ยง เปลี่ยนที่อยู่
ซึ่งอาจส่งผลให้การตอบสนองต่อวัคซีนไม่ดีเท่าใดนัก

Question
วัคซีนที่ควรฉีดในสุนัขมีอะไรบ้าง
Answer
วัคซีนที่ถือว่าจำเป็นเพราะเป็นโรคสัตว์ติดต่อสู่คนคือวัคซีนป้อนกันโรคพิษสุนัขบ้า สามารถให้วัคซีนครั้งแรกเมื่ออายุ 3 เดือน และให้วัคซีนกระตุ้นเมื่ออายุ 6 เดือน หลังจากนั้นให้วัคซีนกระตุ้นทุกปี
สำหรับวัคซีนป้องกันโรคอื่นๆ ในสุนัข มักจะรวมกันมาอยู่ในวัคซีน ซึ่งมีรวมหลายแบบ แล้วแต่บริษัทผลิตวัคซีน บางบริษัทก็มีวัคซีนรวมออกมาหลายสูตร
วัคซีนป้องกันโรคหลักๆ เลยก็จะมี
โรคไข้หัดสุนัข
โรคลำไส้อักเสบ ซึ่งอาจมีทั้งวัคซีนป้องกันโรคลำไส้อักเสบที่เกิดจากเชื้อ “พาร์โวไวรัส” และ “โคโรน่าไวรัส” (วัคซีนรวมบางสูตรก็ป้องกันได้เพียงตัวเดียว)
โรคตับอักเสบที่เกิดจากเชื้อไวรัส

โรคอื่นๆ ที่ให้ความสำคัญรองลงไป ได้แก่
กลุ่มอาการ “หวัดและหลอดลมอักเสบติดต่อ” ที่ต้องเรียกว่ากลุ่มอาการ เพราะมีเชื้อโรคหลายตัวที่ทำให้เกิดอาการนี้ และวัคซีนใหม่ๆ ก็พัฒนาให้ป้องกันเชื้อโรคหลายตัวในกลุ่มนี้
โรคเลปโตสไปโรซีส หรือที่เราคุ้นกันในชื่อ “โรคฉี่หนู”

หากจำแบบง่ายๆ ก็แค่ 2 ตัว ก็คือ
1.วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า 2.วัคซีนรวม
ที่เหลือก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของคุณหมอที่จะพิจารณาเลือกใช้วัคซีนที่เหมาะสม

เทรนด์การฉีดวัคซีนให้แก่ลูกสุนัขในปัจจุบัน (2013)
• ลูกสุนัขพันธุ์เล็ก ไม่แนะนำให้ฉีดวัคซีนที่มีส่วนประกอบป้องกันโรคฉี่หนู เพื่อลดปัญหาเรื่องการแพ้วัคซีน
• ลูกสุนัขพันธุ์เล็ก และลูกสุนัขพันธุ์ที่มีหน้าสั้น แนะนำให้ฉีดวัคซีนที่มีส่วนประกอบป้องกันกลุ่มอาการหวัดและหลอดลมอักเสบติดต่อ

Question
ทำไมควรกระตุ้นวัคซีนทุกปี ในเมื่อผลการศึกษาพบว่าระดับภูมิคุ้มกัน “บางโรค” สามารถอยู่ได้นานหลายปี
Answer
เนื่องด้วยวัคซีนในปัจจุบันโดยส่วนใหญ่จะเป็น “วัคซีนรวม” ดังนั้นจึงไม่สะดวกที่จะทำการเลือกวัคซีนแยกเป็นแต่ละโรค
อีกทั้งยังทำให้เกิดความสับสนแก่ผู้เลี้ยงว่าปีนี้ควรกระตุ้นวัคซีนชนิดใด
การให้วัคซีนรวมกระตุ้นทุกปี นอกจากจะลดโอกาสการหลงลืมแล้วยังเป็นการพาสัตว์เลี้ยงมาให้คุณหมอตรวจสุขภาพอีกด้วย

Question
“ไฮ-ไตเตอร์วัคซีน” (High-Titier vaccine) คืออะไร
Answer
คำเก่า (ตั้งแต่ช่วงกลางยุค ’90) ใช้เรียกวัคซีนที่มีการใส่เชื้อเข้าไปเยอะๆ เพื่อหวังผลในการสร้างภูมิคุ้มกัน
อธิบายเพิ่มเติม เอาแบบลูกทุ่งเลยนะ
สมมติว่าแม่สุนัขมีระดับภูมิคุ้มกันที่สูง ลูกสุนัขที่ได้รับนมแม่ในช่วง 72 ชั่วโมงแรกหลังคลอด ก็จะได้รับภูมิคุ้มกันที่ว่านี้ด้วย
คราวนี้ก็มีการศึกษาพบว่า หากเราไปฉีดวัคซีนให้แก่ลูกสุนัขตอนที่มีภูมิคุ้มกัน (จากแม่) ผลตอบสนองต่อวัคซีนจะไม่ดีนัก
เรียกว่าภูมิคุ้มกันที่ได้จากแม่มองวัคซีนว่าเป็นสิ่งแปลกปลอม และพยายามกำจัดมันออกไป
วิธีการแก้ไขก็คือพัฒนาวัคซีนที่ “แรง…แรง” แบบว่าภูมิคุ้มกันจากแม่กำจัดออกไป “บางส่วน” แล้วก็ยังทำงานได้
ซึ่งในปัจจุบันวัคซีนที่ใช้กันอยู่ ก็สามารถฉีดให้ลูกสุนัขได้ในอายุน้อยมาก (เมื่อเทียบกับสมัยก่อน) เหมารวมแบบคร่าวๆ ไปเลยว่าปัจจุบันใช้วัคซีนไฮ-ไตเตอร์กันหมดแล้ว
แต่ละบริษัทที่ผลิตวัคซีนก็โฆษณาชวนเชื่อแข่งกันว่า วัคซีนของตน “แรง” กว่าของบริษัทอื่น ดังนั้นไม่ต้องไปตามหาหรือรีเควสคุณหมอนะ

Question
วัคซีนที่ควรฉีดในแมวมีอะไรบ้าง
Answer
สำหรับแมวทุกตัวแนะนำให้ทำการฉีดวัคซีน
วัคซีนรวมป้องกันโรคกลุ่มอาการระบบทางเดินหายใจในแมว (ไข้หวัดแมว, ไข้หัดแมวและเชื้อคลามัยเดีย) และวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

Image credit: www.beckeranimalhospital.com

สำหรับแมวที่เลี้ยงปล่อย (อยู่นอกบ้าน)
แนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคลิวคีเมีย และวัคซีนป้องกันโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องในแมว (เอดส์แมว) เพิ่มเติม

นอกจากในส่วนของวัคซีนแล้ว เทคนิคในการฉีดวัคซีนก็ได้มีการอัพเดตอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าน้องแมวจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือเวลาคุณหมอฉีดวัคซีนสักเท่าไหร่ แต่ก็น่าฝึกฝนให้เกิดความชำนาญ
วัคซีนรวมป้องกันโรคกลุ่มอาการระบบทางเดินหายในในแมว แนะนำให้ฉีดที่ขาหน้าขวา ไม่แนะนำให้ฉีดบริเวณไหล่แบบสมัยก่อนแล้ว
วัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า แนะนำให้ฉีดที่ขาหลังขวา
วัคซีนป้องกันโรคลิวคีเมีย แนะนำให้ฉีดที่ขาหลังซ้าย
ซึ่งนอกจากจะลดความเจ็บปวดจากการฉีดวัคซีนในบริเวณเดียวหลายเข็มแล้ว ยังเป็นการลดปัจจัยที่อาจรบกวนการตอบสนองของวัคซีนได้อีกด้วย

:blink::blink:


Yummy fridaY
สัปดาห์นี้แมวดื้อไม่ได้หยิบร้านใหม่ๆ มาแนะนำ
พอดีติตี้ซื้อเบเกอรี่จากร้าน Au Bon Pain มาให้ชุดใหญ่
แมวดื้อก็เลยหยิบเอาเบเกอรี่จากร้าน Au Bon Pain มาแนะนำให้ลองกัน

Au Bon Pain
หลายคนอ่านออกเสียงต่างกันออกไป
อู – บอน – เพน
อะ – บอน – แพน
ออ – บอง – แปง
สำหรับร้านนี้แมวดื้อชอบออกเสียง เป็นคำพ้องเสียงแบบไทยๆ นะ
อุ – บล – พรรณ
อุบลพรรณ ชื่อฟังดูอาจคิดว่าเป็นร้านขายเสื้อผ้า ไม่ได้มีส่วนใดให้คิดถึงร้านกาแฟ/เบเกอรี่เลย
แต่แมวดื้อชอบอ่ะ

:o:o

กาแฟของที่นี่ ถือว่ารสชาติกลางๆ ไม่เข้มไม่อ่อนจนเกินไป
พวกแซนวิชสามารถเลือกขนมปังได้หลากหลายรูปแบบ น่าสนใจทีเดียว
บางครั้ง เราก็เลือกแบบธรรมดา หรือไม่ก็โฮลวีต
แต่ถ้าลองอย่างอื่นดูบ้าง อาจจะพบว่าอร่อยกว่าก็เป็นได้

วกกลับมาถึงเบเกอรี่ที่ติตี้ซื้อมาให้
มีหลายชิ้นด้วยกัน อยู่ในกล่องที่ใหญ่พอสมควร
หากทานไม่หมด เวลาเก็บในตู้เย็นขนาดเล็กจะค่อนข้างลำบากหน่อย

กล่องกระดาษทรงสูง ที่มีขนาดใหญ่พอสมควร

เปิดออกดูพบว่ามีการจัดเรียงเอาไว้อย่างดี
มีมีดมาให้ด้วย ซึ่งคิดดูแล้ว น่าจะให้มาเพื่อใช้กับแยมมากกว่าจะใช้เพื่อการตัด (เพราะไม่มีส้อมมาให้ด้วย)

ครัวซองท์ชิ้นใหญ่ หอมเนยมาก

ข้างในจะมีแฮมหรือไส้กรอก แล้วแต่ชิ้นที่เลือก
คุณภาพของแฮม/ไส้กรอก ถือว่าดีทีเดียว ไม่เป็นแฮม/ไส้กรอกแป้ง ที่ทานแล้วอารมณ์เสีย

หากนำไปอุ่นอีกรอบก่อนทาน ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มรสชาติของเบเกอรี่ได้เป็นอย่างดี

อันนี้เรียกว่า เดนิส ใช่ป่ะอร่อยใช้ได้เลย

อันนี้ติตี้บอกว่ามันคือคุ้กกี้
แต่ว่าแมวดื้อแช่ตู้เย็นเอาไว้ (ไม่ได้ทานทันที) พอเอาออกจากตู้เย็นแล้วเอาไปเวฟ มันกลายเป็นสโคนเลย!!
สโคนที่ทานพร้อมแยม
แมวดื้อไม่ได้เป็นแฟนสโคนที่จะแยกออกว่าแบบไหนอร่อย
จริงๆ แมวดื้อยังแยกสโคนออกจากขนมอื่นไม่ค่อยได้เลย คือไม่รู้ว่ามันคือขนมที่เป็นแบบไหนกันแน่
บางคนแยกออกมาจากเอแคลร์ บางคนแยกออกมาจากมัฟฟิน บางคนก็บอกว่ามันคือขนมอีกอย่างนึงเลย
แต่วัฒนธรรมอย่างนึงที่มักพบเห็นก็คือ สโคนทานคู่กับแยม
ซึ่งมันก็พอจะอธิบายได้นะ คือสโคนมันรสชาติกลางๆ ไม่มีอะไรโดดเด่น ถ้าทานคู่กับแยมก็ทำให้รสชาติดีขึ้น
เอ้ย…ตกลงมันคือคุ้กกี้ ไม่ใช่เรอะ

:twisted::twisted:

เซตนี้แมวดื้อใช้เวลาทานไปหลายวัน
เพราะชิ้นนึงก็ใหญ่พอที่จะอิ่มได้เลยสำหรับมื้อเช้า
ถ้าทานคู่กับกาแฟดำ ยิ่งได้อารมณ์มื้อเช้าดีๆ
ไม่ต้องไปนั่งที่ร้านก็ได้
ขอบคุณติตี้ที่น่ารัก สำหรับมื้อเช้านะจ้ะ

:winklove::winklove:


More Posts


Akiyoshi
March 28, 2013

Akiyoshi

Robynn N Kendy
March 27, 2013

Robynn N Kendy

Wimoweh
March 26, 2013

Wimoweh

After You
March 24, 2013

After You

Yumemiya
March 24, 2013

Yumemiya