Yummy fridaY
ถึงเทศกาลกินเจอีกแล้ว
ปีนี้แมวดื้อก็คงทานเจเหมือนปีก่อน
ท่านแม่ดูทำเลออฟฟิศใหม่แล้วคิดว่าหาอาหารเจลำบาก
ก็เลยซื้อเสบียงมาให้
เป็นสารพัดน้ำพริก ของแห้ง ซึ่งเป็นอาหารเจหมดเลย

น้ำพริกนิตยา
ตามที่อยู่บนถุงหิ้ว มีอยู่ด้วยกัน 4 สาขา
มีที่บางลำพู (2 สาขา), ปิ่นเกล้า และนนทบุรี

ปกติแมวดื้อทานอาหารง่ายมาก
คือมีแค่ข้าวสวยกับน้ำพริกก็ทานได้แล้ว
(บางทีแค่น้ำหมูสะเต๊ะกับข้าวสวยก็อิ่มอร่อยได้เลยนะ)
ดังนั้นน้ำพริกแห้งเหล่านี้จึงเป็นกับข้าวอย่างนึงเลย

 

ท่านแม่ซื้อเสบียงมาให้อลังการมาก

น้ำพริกหมูหยอง
อันนี้ออกหวานนิดๆ อัดมาแน่นเต็มกล่อง อาจมีจับตัวกันเป็นก้อนบ้าง
ตรงที่เป็นก้อนจะเหนียวๆ นิดนึง เดาว่าเกิดจากเครื่องปรุงจับตัวกัน

น้ำพริกนรกเจ
อันนี้เนื้อน้ำพริกจะเบาๆ ละเอียดเกือบเป็นผง รสชาติจัดจ้าน ทานแล้วร้อนคอ
ต้องระวังอย่ารีบทาน เพราะถ้ามันลงคอไปก่อนที่เราจะตั้งตัว มันจะแสบคอมาก

 

น้ำพริกกุ้งเสียบ
อันนี้มีเนื้อน้ำพริกมากที่สุด กรอบ เป็นชิ้นเลย
ทานตอนแรกจะออกเผ็ดนิดหน่อย เคี้ยวหนุบหนับจะค่อยๆ ออกหวาน รสชาติกลมกล่อม

 

น้ำพริกตาแดงเจ
อันนี้เนื้อน้ำพริกจะละเอียด แต่ไม่แน่นมาก ตามแบบฉบับของน้ำพริกตาแดง
รสชาติหวานซ่อนเผ็ด

 

น้ำพริกเผาเห็ดหอม ชนิดผัดแห้ง
อันนี้เนื้อน้ำพริกละเอียดเนียนแน่น เหมาะกับคลุมกับข้าวทานกับไข่เจียวที่สุด
(แต่ช่วงนี้ทานเจ เลยอด)
รสชาติเผ็ดปานกลาง ออกเค็มเล็กน้อย

 

โปรตีนเกษตรผัดพริกขิง
เมนูคลาสสิคที่รู้สึกว่ากำลังดี ไม่ต้องทำเลียนแบบเนื้อหมูเนื้อไก่ให้มัน “เยอะ”
โปรตีนเกษตรกรุบกรอบ รสชาติกลางๆ ไม่เผ็ดมาก

 

โปรตีนเกษตรผัดกะเพรา
(ที่ถูกต้องควรเขียน “กะเพรา” นะ)
เมนูนี้โปรตีนเกษตรออกจะแข็งและแห้งนิดหน่อย
รสชาติเหมือนทานผัดกะเพรา เมนูนี้ใช้ได้เลยทีเดียว

แมวดื้อหยิบมาถ่ายรูป
ฮะเก๋ามาสำรวจ
“ฮะเก๋าทานได้ไหมฮับป๊าแมว”

 

“ป๊าแมวบอกอร่อยจนฟิน… ฮะเก๋าก็ฟินด้วย”

“ป๊าแมวไม่ต้องเป็นห่วงนะฮับ เดี๋ยวฮะเก๋าเฝ้าน้ำพริกให้ป๊าแมวเอง ใครมายุ่งจะขู่ แบร่~ เลย!!”


ติตี้เป็นคนที่มีลมเยอะ
ควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงอาหารที่ทำให้เกิดลมก็แล้ว
ทานยาลดกรดก็แล้ว
แต่ก็ยังมีลมเยอะ
ช่วงนี้มีลมมากเป็นพิเศษ ลมเยอะจนทำให้ปวดหลังเลย
ก็เลยต้องไปตรวจเฉพาะทางเสียที

จากการซักประวัติและตรวจร่างกายเบื้องต้น
คุณหมอบอกว่าเคสอาการแบบนี้เจอบ่อยมาก
เหมือนเป็นโรคประจำของคนทำงานไปแล้ว
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากการทานอาหารไม่เป็นเวลา พักผ่อนไม่เพียงพอ
ขาดการออกกำลังกาย และความเครียด

ติตี้ทานอาหารตรงเวลามาก ไม่ทานอาหารรสจัด
แล้วก็เป็นคนถ้านอนน้อย อาการจะออกทันที
ดังนั้นประเด็นเหล่านี้จึงแทบจะเก็บไว้พิจารณาท้ายๆ
เรื่องความเครียดอันนี้คนวัยทำงานต้องประสบพบเจออยู่เป็นประจำอยู่แล้ว
แก้ไขลำบากอยู่สักหน่อย
แต่มีสถิติพบว่าคนวัยทำงานที่ขาดการออกกำลังกายอาจจะประสบอาการลมเยอะ
บางรายมีอาการปวดหลังตามมา (นอกเหนือไปจากออฟฟิศซินโดรม)
ซ้ำร้ายหลายคนไม่ค่อยจะขับถ่ายเป็นเวลา บางคน 2-3 วันถึงจะถ่ายสักครั้ง
อันนี้คุณหมออธิบายว่าเป็นสาเหตุให้เกิดลมได้เช่นเดียวกัน
สิ่งที่คุณหมออยากให้ติตี้แก้ไขคือ
1.ทานน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน เน้นในช่วงเวลาทำงาน
(ที่หลายคนมักจะไม่ดื่มน้ำเปล่าเลย มีเพียงจิบกาแฟเล็กน้อย)
2.พยายามขับถ่ายให้ได้ทุกวัน
(สำหรับติตี้ คุณหมอให้ยามาช่วยจัดการเลย)
3.ลดความเครียด ด้วยการให้ทำสมาธิ
ให้จิตไปอยู่กับการหายใจ อย่างน้อยก็ลดความกังวล ความคิดยุ่งเหยิงที่อยู่ในหัวได้ชั่วขณะ
4.ออกกำลังกายในท่าที่จะไปช่วยให้มีการเคลื่อนไหวของระบบทางเดินอาหาร
อันนี้นอกจากจะช่วยให้กระเพาะ ลำไส้ทำงานดีขึ้นแล้ว
ยังช่วยให้กล้ามเนื้อท้องและหลังแข็งแรงอีกด้วย หน้าท้องแบนราบ หุ่นดีขึ้นมาอีกนะ

ท่าออกกำลังกายที่คุณหมอแนะนำมาก็ประมาณนี้
แมวดื้อเอารูปมาจากเว็บไซต์ www.bodybuilding.com
ในเว็บไซต์มีทั้งรูปและวิดีโอการออกกำลังกายเยอะมาก ลองเข้าไปดูกันนะ

Sit-Up ที่เรารู้จักกันดี
จะทำแบบ full หรือแบบ 3/4 หรือจะไขว่ก็แล้วแต่ถนัด

Flat Bench Lying Leg Raise

Flat Bench Leg Pull-In

Middle Back Stretch
อันนี้คุณหมอบอกว่าบิดๆ แบบเต้นฮูลาฮูปไปเลย

Standing Front Barbell Raise Over Head
ท่านี้จริงๆ คุณหมอให้ใช้แค่มือเปล่านะ แต่แมวดื้อหารูปไม่ได้ คิดว่ารูปท่านี้ใกล้เคียงที่สุดแล้ว
โดยคุณหมอให้ทำ 2 ท่านะ
ท่าที่ 1 ให้นั่งอยู่บนเก้าอี้แล้วห้อยขา จากนั้นยกแขนขึ้นเหนือหัว แล้วปล่อยแขนลงมา
ท่าที่ 2 ให้ยืนอยูกับพื้น จากนั้นยกแขนขึ้นเหนือหัว แล้วปล่อยแขนลงมา

หากใครมีปัญหาคล้ายๆ กัน ลองออกกำลังกายดูก่อน
แมวดื้อคิดว่าสาเหตุนึงที่เรามักจะเจ็บป่วยกันบ่อยๆ เพราะขาดการออกกำลังกายนั่นเอง
ส่วนการทำงานบ้าน การออกกำลังกายจากการเดินทาง (โหนรถเมล์ รถไฟฟ้า) เดินขึ้นลงบันได
อันนั้นก็ถือว่ามีการออกแรงจริง แต่การออกกำลังกายที่ให้ได้ผลดีนั้น ควรทำเป็นเซต
อาจจะเริ่มจาก 10-15 ครั้งต่อเซต ทำสัก 3 เซต
พักไม่เกิน 45-60 วินาทีต่อเซต

วันนี้ คุณออกกำลังกายแล้วหรือยัง

:exercise::exercise:


Wednesday boX
สัปดาห์นี้มีซีรีส์ทางฝั่งอเมริกากลับมาฉายต่อหลายเรื่อง
แต่แมวดื้อขอรอเวลาว่างๆ สักหน่อย
เห็น The Conjuring ออกมาแล้ว ก็เลยไม่พลาดที่จะหามาดู

ถือเป็นหนังผี ต้อนรับฮาโลวีนของปีนี้สำหรับแมวดื้อเลย
หากใคร follow twitter ของแมวดื้อ ก็อาจจะเห็นผ่านตาโปรเจค Halloween Horror ในปีก่อนๆ มาบ้าง
ด้วยความที่แมวดื้อชอบดูหนังผี หนังสยองขวัญ รวมไปถึงหนังที่หลายคนเรียกว่า “หนังแหวะ”
ก็เลยมีหนังในดวงใจมากมาย
ในช่วงเดือนตุลาคม ก็จะงัดเอาหนังเหล่านั้นมาดูซ้ำ บางปีก็มีการจัดอันดับแทนที่หนังในดวงใจด้วยหนังใหม่ที่โดนจริตมากกว่า
บิ้วอารมณ์ไปจนถึงวันฮาโลวีนกันเลยทีเดียว

The Conjuring ถูกสร้างมาจากเรื่องจริง
แมวดื้อไม่ได้สนใจมากนักว่าจะสร้างจากเรื่องจริงหรือสร้างจากบทที่คิดขึ้นมา
คือเป็นเพียงข้อมูลที่ทำให้เรา “เชื่อ” ตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มดู
แต่ท้ายสุดแล้ว ความน่ากลัว ความตื่นเต้นของหนังอยู่ที่เนื้อเรื่อง (บทภาพยนตร์) มากกว่า
ส่วนปริศนาข้อมูลต่างๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง อาจทำให้เราอยากรู้เรื่องเพิ่มเติม  ก็เป็นส่วนที่เหลือ
ที่บางคนอาจจะย้อนกลับไปค้นข้อมูลติดตามว่าเกิดเหตุการณ์อย่างไรบ้าง

เรื่องนี้แมวดื้อจัดอยู่ในหนังสยองขวัญกลางๆ ที่ไม่เด่นไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง
คือไม่มีปมซับซ้อนซ่อนเงื่อนที่ต้องติดตามไปว่าใครเป็นฆาตกร แล้วผีต้องการอะไร
ไม่มีผีที่เอะอะก็ออกมาอาละวาดหลอกคนในบ้านตลอดเวลา
ไม่เน้นเรื่องศาสนา พิธีกรรม การขับไล่ภูติผีปีศาจมากนัก
แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ “ครบเครื่อง” ในส่วนความบันเทิงเท่าใด
ความน่ากลัวของผีถือว่าใช้ได้ แต่บางซีนหน้าตาผีออกจะตลกด้วยซ้ำ
(แมวดื้อก็ขำผีเกือบทุกเรื่องแหละ เอิ้ก..เอิ้ก)
ระบบเสียงดีทีเดียว หลายคนที่เป็นแฟนหนังผีจะพอรู้ว่า
หากดูหนังผีแล้วปิดเสียง ความน่ากลัวจะหายไปเกินครึ่ง
ในเรื่องนี้ถ้าใส่หูฟังหรือเปิดเสียงดังๆ ได้อรรถรสทีเดียว
แมวดื้อแนะนำเรื่องนี้ให้สำหรับแฟนหนังผีหนังสยองขวัญเป็นหลัก ส่วนคนที่ชอบแนวอื่นอาจผ่านเรื่องนี้ไปได้

:grin::grin:


Tuesday nerD
วันนี้เอาใจนักพัฒนาเว็บไซต์
ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หัดสร้าง หรือมือเก๋าแก้ไขโค้ดต่างๆ
กับเครื่องมือจาก Google ที่ชื่อว่า

Google Web Designer

ตอนนี้ยังคงเป็นเวอร์ชันเบต้าอยู่ แต่ก็สามารถทำงานได้ดีในระดับหนึ่ง
อินเทอร์เฟสหน้าตาละม้ายคล้ายกับโปรแกรมในกลุ่ม Adobe
คนที่คุ้นเคยกับโปรแกรมของ Adobe ก็น่าจะคลำหาวิธีทำงานได้อย่างไม่ยาก

การพัฒนาเว็บไซต์โดยใช้เครื่องมือต่างๆ ควรเริ่มที่การคิดและวางแผนเอาไว้ก่อน
ซึ่งไม่ต่างจากสมัยก่อน
แต่เครื่องมือในปัจจุบันนั้นทำให้ลดระยะเวลาในการพัฒนาลงไปได้มาก

การใช้งาน Google Web Designer สนับสนุนการทำงานในรูปแบบของการออกแบบ WYSIWYG (What You See It What You Get)
หรือการทำงานในรูปแบบการเขียนโค้ด
ซึ่งคงไม่พ้นมาตรฐานปัจจุบัน HTML5 และ CSS

นอกจากนี้ Google Web Designer ยังสนับสนุน Animation และ 3D อีกด้วย
เรียกได้ว่าครบเครื่องกันเลยทีเดียว
แมวดื้อมาคิดย้อนไปตอนใช้เครื่องมือช่วยพัฒนาเว็บไซต์ในช่วงแรกๆ
ถ้าไม่เขียนโค้ดเอง ก็ชอบที่จะใช้ GoLive
(ความรู้สึกส่วนตัว มันได้ดังใจมากกว่า Dreamweaver อีกนะ)
แต่สุดท้ายด้วยความรำคาญโค้ดขยะมากมาย ก็ไม่ค่อยชอบใช้โปรแกรมช่วยพัฒนาสักเท่าไหร่
จากที่ลองเล่น Google Web Designer ดู แมวดื้อพบว่าน่าสนใจทีเดียว
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำเว็บไซต์ข้อมูล แบบที่ไม่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบ่อยๆ
มีจำนวนเพจไม่มากนัก ต้องการพัฒนาด้วยตนเอง ไม่ต้องศึกษาเพิ่มเติมมากนัก
สนใจดาวน์โหลดไปลองใช้งานกันได้เลย

https://www.google.com/webdesigner/index.html

;-) ;-)


Saturday petdoC
ก่อนอื่นแมวดื้อขอไว้อาลัยแก่ “บุษบา” และขอแสดงความเสียใจต่อผู้เลี้ยง ไว้ ณ โอกาส นี้ด้วย

ภาพสุดท้ายของบุษบาที่มาเจาะเลือดตรวจ
หลังผลเลือดฟ้องสภาวะไตวาย บุษบาก็มีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานนัก
บุษบาจากไปอย่างสงบ เหมือนหลับไปเฉยๆ ก่อนถึงวันคล้ายวันเกิดของนิโคล เทริโอ้เพียง 2 วัน
บุษบาเป็นแมวพันธุ์ไทยที่ถูกตั้งชื่อตามชื่อเพลงของนิโคล เทริโอ้

“บุษบา” เป็นชื่อเพลงในอัลบั้ม “บุษบาหน้าเป็น”
อัลบั้มที่ 2 ของนักร้องสาวหน้าเด็กคนนี้
วางแผงเมื่อปี 2542
หากนับอายุของบุษบาก็น่าจะราวๆ 13-14 ปี
Saturday petdoC
สัปดาห์นี้เรามาคุยกันถึงเรื่องอายุของแมวกัน

อายุโดยเฉลี่ยของแมวอยู่ที่ 9-15 ปี
แมวที่เลี้ยงในบ้าน (indoor) และได้รับการดูแลเอาใจใส่สุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
มีแนวโน้มว่าจะมีอายุยืนยาวกว่าแมวที่เลี้ยงนอกบ้าน (outdoor)

แมวที่อายุยืนที่สุดตามสถิติได้แก่
Creme Puff (August 3, 1967 – August 6, 2005)
แมวเพศเมียตัวนี้อยู่ที่เมือง Austin รัฐ Texas ประเทศสหรัฐอเมริกา
เสียชีวิตด้วยวัย 38 ปี 3 วัน
นอกจากนี้ยังมี Puss ที่อายุถึง 36 ปี และ Granpa ที่มีอายุถึง 34 ปี ถูกบันทึกไว้อีกด้วย

ปัจจุบันแมวที่มีอายุมากที่สุด (ที่ยังคงมีชีวิตอยู่) ได้แก่
Pinky (October 31, 1898 – Present)
อยู่ที่เมือง Koyt รัฐ Kansas ประเทศสหรัฐอเมริกา
ตอนนี้อายุ 24 ปี
ซึ่งเป็นสถิติที่ถูกบันทึกไว้ใน Guiness World Records
โดยมีผู้แย้งว่าแมวของตนก็มีอายุ 24-26 ปี เช่นเดียวกัน
สถิติมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เราก็คงได้แต่ติดตามดูว่า (ทวด) เหมียวตัวไหนจะได้ครองตำแหน่งนั้นไป
อย่างไรก็ตามสิ่งหนึ่งที่ผู้เลี้ยงแมวควรเข้าใจก็คืออวัยวะต่างๆ ก็มีการเสื่อมไปตามการใช้งานและอายุของแมว
แมวอายุยืนได้ แต่คุณภาพชีวิตก็ควรจะต้องดีด้วยนะ

สำหรับการนำเอาอายุของแมวมาเปรียบเทียบกับคนนั้นก็มีหลายแนวคิด
ส่วนใหญ่ที่พบก็คือการคิดเปรียบเทียบ
คนอายุยืน 100 ปี ส่วนแมวอายุยืน 20.8 ปี
คนเจริญเติบโตเต็มที่เมื่ออายุ 25 ปี ส่วนแมวเจริญเติบโตเต็มที่เมื่ออายุ 2 ปี
จากนั้นก็คิดคำนวณเปรียบเทียบออกมาเป็นตาราง
ข้อมูลต่างๆ มีการเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัยอยู่เสมอ
ตารางข้างล่างนี้อัพเดตข้อมูลในปี 2011

source: http://catexpert.blogspot.com/2011/05/cat-age-to-human-age-comparison-part.html

ข้อมูลอีกอย่างที่น่าสนใจจากตารางนี้ก็คือการแบ่งช่วงอายุ
Kitten – Junior – Prime – Mature – Senior – Geriatric
การให้อาหารและการดูแลเป็นพิเศษเฉพาะด้านก็แตกต่างกันออกไปตามแต่ละช่วงอายุ
อันนี้ผู้เลี้ยงก็ควรทำความเข้าใจและปรับเปลี่ยนการดูแลให้เหมาะสมกับน้องเหมียวด้วย

:lol::lol:


More Posts


Cronut
June 14, 2013

Cronut

Canon EOS 101 Photography and Videography Basics
June 13, 2013

Canon EOS 101 Photography and Videography Basics

Bridesmaids
June 12, 2013

Bridesmaids

iOS7
June 11, 2013

iOS7

Wall mounted shoe rack from Pax door
June 10, 2013

Wall mounted shoe rack from Pax door

ทวีชัยเป็ดพะโล้
June 9, 2013

ทวีชัยเป็ดพะโล้