Chao Phraya Princess Cruise

สืบเนื่องจากวันเกิดในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
หวานใจก็เลยเตรียมเซอร์ไพรส์เอาไว้สำหรับวันนี้
โดยจะพาไป dinner ดื่มด่ำกับบรรยากาศ

เมื่อคืนนอนดึก ก็เลยเบี้ยวป๋าแมค ไม่ยอมไปสวนรถไฟซะงั้น
ตื่นขึ้นมา ก็นั่งพิมพ์คอม ก๊อกแก๊ก
กว่าจะได้ออกจากบ้านก็สาย
ไปหาหวานใจที่บ้าน
จัดแจงอัพเกรดไอโฟนให้หวานใจใหม่
ทั้งอัพเดตเฟิร์มแวร์ ทั้งปิดแผ่นกันหน้าจอใหม่
ใสปิ๊งขึ้นมาเลย

จากนั้นก็ได้เวลาบ่ายแก่ๆ แวะไปกิน secret recipe ที่พารากอนแป้บนึง
ที่จริง กะว่าจะไปลองไอติมร้าน Buono Gelato
แต่เนื่องจากร้านหรูเกิน ไม่กล้าเข้า
ขอไปลองที่สาขาอื่นแล้วกันนะ
จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ท่าเรือสี่พระยา จุดหมายในคืนนี้

โดยไปถึงท่าเรือทุ่มเศษๆ
ตามบัตรที่จองไว้ แนะนำให้ไปถึงประมาณ ทุ่มครึ่ง
หลังจากหวานใจลงทะเบียนเรียบร้อย ก็ไปเดินเล่นซื้อของ
แมวดื้อก็แอบลุ้นว่า “แขก” ที่ยืนกันเรียงรายที่ท่าเรือ จะไปร่วมก๊วนกับเราหรือไม่
เนื่องจาก “กลิ่นอันไม่พึงประสงค์” รุนแรงเหลือเกิน
ถ้าไม่กี่คน ยังพอรับได้
แต่นี่มากันทั้งตำบล
จะเอียนแค่ไหน.. คิดดู

ทุ่มสี่สิบห้านาที
เรือก็เข้ามาจอดเทียบท่า

“แขก” ลงไปที่ท่าเรือเดียวกับเรา
แต่ว่าข้ามเรือไปยังลำนอก
ค่อยยังชั่วหน่อย หุ..หุ

พวกเราได้นั่งกินที่ชั้นล่าง ที่จะแบ่งสัดส่วนเป็นโต๊ะเล็กๆ ประมาณโต๊ละ 4 คน
คือจะมาคนเดียว หรือมาสองคน หรือมา 4 คน เค้าก็จะให้นั่งโต๊ะแถวๆ นี้
แมวดื้อกับหวานใจ ได้โต๊ะริมหน้าต่าง บรรยากาศดีเลย
มานั่งปุ๊บ ก็มีพันช์รอไว้อยู่แล้ว

ตะเกียง (ข้างในเป็นเทียนจริงๆ) สร้างบรรยากาศได้ไม่น้อย
อุปกรณ์บนโต๊ะสะอาด เรียบร้อย

อาหารเป็นแบบบุฟเฟ่ต์
ซึ่งคุณภาพแปรผกผันกับบรรยากาศเลย
ลิสต์รายชื่ออาหารที่จำได้ก่อนนะ
สลัดผัก
ข้าวผัดปู
ขนมจีน
ผัดไท
แกงเขียวหวาน
ไส้กรอกและขาหมูยัดไส้
ต้มยำ
ซุปเห็ด
ไก่ผัดเม็ดมะม่วง
ทอดมัด
กุ้งอบ (ต้องมาแกะเอง)
หอยเชลล์ผัดเนย
กุ้งชุบแป้งทอด
แล้วก็น่าจะมีของคาวอีก 2-3 อย่าง
ส่วนของหวานก็มีเค้ก และขนมหวาน (ไทย)
แล้วก็ผลไม้
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์สั่งได้ (แต่คิดตังเพิ่มจากบัตร)

เรื่องอาหาร
ให้ติดลบเลย
ฮ่า..ฮ่า
(จะโดนหวานใจ งอนไหมเนี่ย)
เรื่องของเรื่องคือ ไม่ชอบกินอะไรที่ต้องแข่งกับเวลาอยู่แล้ว
ชอบกินเรื่อยๆ
ยิ่งเจอบรรยากาศแบบนี้ มันก็อยากนั่งเล่นชิวๆ ไปก่อน
แล้วค่อยไปกิน
…แต่ขอโทษ…
สมาชิกก๊วน เข้าไปตอมอาหารกันกระหน่ำ
ใจนึงก็เสียดายค่าบัตร อยากกินให้คุ้ม
แต่ด้วยความที่ไม่ชอบคนเยอะๆ
และอาหารที่ “ไม่ได้เรื่อง”
คือมัน “แห้ง” อ่ะ
ปริมาณอาหารไม่ใช่ตัวแปร
เพราะพอหมด พนักงานก็เอามาเติมทันที
แต่เป็นเรื่อง “คุณภาพ” มากกว่า
จากควันที่ลอยฉุยอยู่นั้น
ใครจะรู้บ้าง.. ว่ามันไม่ร้อน ไม่อุ่นเลย แม้แต่นิดเดียว
แม้จะเพิ่งยกมาวางก็ตามที

หวานใจตักจานแรกมาคืออันนี้
แมวดื้อไม่ได้ลองชิมหรอกนะ
เห็นหวานใจกินไปสองคำ แล้วก็เขี่ยให้เค้าเอาไปเก็บ เอิ้ก..เอิ้ก

ปกติ แมวดื้อจะโปรดปรานไส้กรอก หรืออาหารประเภทนี้มากๆ
แต่ตักมาจานนี้

ไม่ผ่าน

ไส้กรอก ไรฟร่ะ
– -”
จานแรก คิดว่าด้วยความที่หิว แล้วก็คาดหวังเอาไว้มาก
พอกินไป มันไม่ได้ดังใจ
ก็เลย ไปลองใหม่ จานสอง
สรุป.. อืม..เหมือนเดิม

เดินไปหยิบซุปเห็ดมากิน
นึกออกไหม เวลาเราไปกินซุปเห็ดดีๆ
ไม่ต้องหรูมาก แค่ pizzaria หรือ Sizzler
มันจะร้อน เนื้อครีมข้นกำลังดี มีเนื้อเห็ดให้เคี้ยวกรุบๆ บ้าง

แต่เจอที่นี่
ซุปเย็นสนิท เนื้อครีมข้นมาก (เพราะมันเย็น) แล้วก็เจอซากเห็ดให้เห็นเล็กน้อย
อารมณ์เหมือนกินครีมอะไรสักอย่างๆ เหนียวๆ
..อย่างแหวะ..

จากนั้นแมวดื้อก็ไม่แตะอะไรอีกเลย
แม้จะเห็นว่ามีเค้กหน้าเด้ง (เนื้อเค้กฟู เห็นเป็นรังผึ้ง กับหน้าครีมบางจ๋อย)
หรือผลไม้ ที่แมวดื้อมักจะปิดท้ายในแต่ละมื้อ
ก็ขอผ่าน
กลับไปกินมาม่าที่บ้านดีกว่า
เฮ่อ

จากนั้นก็ถ่ายรูปไปเรื่อย
ถ่ายรูปหวานใจมาเยอะเหมือนกัน
ISO 1600 noise กระจาย
เลนส์คิท ไม่มีขาตั้งกล้อง ไม่เปิดแฟลช ได้มาแค่นี้แหละ


พระปรางค์วัดอรุณฯ


โบสถ์กาลหว่าร์

และแล้วก็วนกลับลำมาที่ท่าเรือสี่พระยา

ตั๋วที่หวานใจทิ้งไปแล้ว
แอบจิ๊กเก็บมา

โต๊ะหมายเลข 34
ไม่รู้ว่าฟลุ๊คหรือจงใจ
อายุ 34 พอดีเลย
แก่แล้วฟร่ะ
เอิ้ก..เอิ้ก

To.. หวานใจ
ขอบคุณนะจ้ะ สำหรับเซอร์ไพรส์ดีๆ (ที่แอบเดาได้ ฮ่า..ฮ่า)
ขอบคุณที่อยากทำอะไรให้
ขอบคุณของขวัญที่ทำจากมือ (ไว้ค่อยเอารูปลงนะจ้ะ)
ขอบคุณที่รักกัน (วี้ดวิ้ว)