บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นน้องเหมียวแลบลิ้นค้างอยู่แบบนี้
ลิ้นในแมวนั้นถือเป็นอวัยวะสำคัญ
ซึ่งจริงๆ เราจะเห็นน้องแมวใช้ลิ้นเลียขนตัวเอง
เพื่อทำความสะอาด และกำจัดขนที่หลุดร่วงออกจากร่างกาย
บ่อยเสียกว่าใช้ลิ้นเลียน้ำหรือช่วยในการกินอาหารเสียอีก

สำหรับแมวที่มีหน้าหักหรือบุบเข้าไป รูจมูกเล็ก
อาจพบว่าบางตัวชอบที่จะเอาลิ้นออกมาข้างนอกแบบนี้
ซึ่งหากมองในแง่สรีรวิทยา น่าจะมีส่วนช่วยในเรื่องการหายใจ

แต่หลายครั้งเราอาจจะพบว่า “แมวลืม”
คือตอนแรกเลียตัวเองอยู่ แล้วก็ไปทำกิจกรรมอย่างอื่น
ทำให้ลืมแลบลิ้นอยู่แบบนั้น!!

:roll::roll:


เมื่อวันอาทิตย์
หลังจากเดินวนๆ อยู่ในพารากอนแล้ว
แมวดื้อก็เริ่มเมื่อย เพราะถือของหลายอย่าง
เห็นร้านนี้ คนน้อยดี เลยแวะนั่งสักหน่อย

Coffeol
อ่านว่า Coffee (for) All
โลโก้สวยดีนะ
เห็นแล้วนึกถึงอุปกรณ์วาดเขียนสมัยเด็กๆ
ที่เป็นพลาสติกใส มีรูให้เราเอาดินสอหรือปากกากดไว้
แล้วลากหมุนวงพลาสติก จนเกิดเป็นลวดลายต่างๆ
เด็กสมัยนี้คงไม่รู้จักกันแล้ว
(หารูปประกอบจากอินเทอร์เนทก็ไม่เจอ ถ้าหาเจอจะเขียนถึงอีกทีก็แล้วกัน)
หุหุ

ร้าน Coffeol
อยู่ชั้น 4 ตรง Food Passage Zone
ที่มีหลายร้านให้ลิ้มลอง และไม่ค่อยมีคนเดินมาตรงโซนนี้สักเท่าไหร่
ติตี้เห็นว่าบ่ายแก่แล้ว
เดี๋ยวก็กลับไปต่อมื้อเย็นที่บ้าน
ก็เลยสั่งของว่างเล็กๆ มาชิมกัน

กระดาษห่อมาในลวดลายหัวใจ
น่ารักเลยทีเดียว

ตอนแรกนึกว่าจะน้อย
แบ่งกับติตี้คนละครึ่ง
เรียกได้ว่าอิ่มเลยทีเดียว
ชีสละลายในปาก
หุหุ

ถ้าคนไม่เยอะ อยากหาสถานที่ที่นั่งได้ยาวๆ
นั่งเล่นโน้ตบุ๊คหรือไอแพด รอสาวๆ ช้อปปิ้ง
ก็เป็นตัวเลือกอีกร้านนึง
พนักงานใจดี ไม่ไล่ลูกค้า
(แต่ก็ควรอุดหนุนทางร้านนะ ไม่ใช่จิบกาแฟแก้วเดียวนั่งทั้งวัน)

:smile::smile:


สิ่งหนึ่งที่แมวดื้อวางแผนเซอร์ไพรส์ติตี้
สำหรับ
1st Anniversary
ก็คือ
“ดอกไม้”

แต่ไม่อยากแบบว่าเดินถือไปให้เลย
ชอบแบบแนวเซอร์ไพรส์มากกว่า
สงสัยดูหนังมากไปหน่อย
หรือยูทูเบะโปรเจคขอแต่งงานน่ารักๆ
ที่จู่ๆ ก็มีพนักงานส่งดอกไม้เดินเอามาส่ง
แบบที่ฝ่ายชายทำเนียนๆ ไม่รู้ไม่ชี้
อะไรทำนองนี้
ฮ่า..ฮ่า..ฮ่า

พอโจทย์เป็นแนวนี้
ก็เป็นเรื่องท้าทายของแมวดื้อล่ะ
เตรียมแผน A แผน B แผน C กันพลาด

คือรู้อยู่แล้วว่าติตี้จะไปต่อขนตาที่ตึก All Season
แต่ก็กลัวหลายอย่าง
เช่น ฝนตก ติดฝนอยู่ที่ไหนสักแห่ง ไปไม่ได้
หรือติตี้เกิดเปลี่ยนใจ
หากสั่งดอกไม้เอาไว้ล่วงหน้า แล้วไม่ไป
อันนี้มีจ๋อย
ถ้าจะไปเฉลยแผนเซอร์ไพรส์ก็ยิ่งกร่อย
เลยตัดสินใจ คิดสถานที่ก่อนว่าจะไปไหนบ้าง
ถ้าไม่ไปที่นี่ ไปที่ไหนบ้าง
แล้วมีร้านดอกไม้ตรงไหนบ้าง

แมวดื้อใช้เวลาในการหาข้อมูลเกี่ยวกับร้านดอกไม้อยู่หลายวัน
ต้องเช็คว่ามีดอกไม้ไหม
ร้านเปิดกี่โมง
ถ้าไม่ได้สั่งล่วงหน้า ไปที่ร้านเลยได้ไหม
ใช้เวลาจัดดอกไม้นานแค่ไหน

ก็สนุกดีนะ
คือนอกจากจะเซอร์ไพรส์คนพิเศษแล้ว
เราก็ยังได้ข้อมูล ได้ลุ้น ได้แก้ปัญหาเฉพาะหน้า
ตื่นเต้นดี

พอทานมื้อเที่ยงที่
The Garage Burger & Grill
ได้ตึงๆ
ติตี้ก็ไปต่อขนตา
ปล่อยให้แมวดื้อนั่งทานต่อ

ซึ่งพอติตี้เดินออกไปแล้ว
แมวดื้อก็รีบเช็คบิลทันที
ด้วยปัญหาแรกคือ ยังไม่เห็นว่าร้านอยู่ตรงไหน
ต้องเดินหาอีก
แล้วไม่รู้ว่าจะจัดดอกไม้ให้ทัน ก่อนติตี้จะต่อขนตาเสร็จหรือเปล่า

หลังจากวิ่งเลี้ยวเอี๊ยดจนหาร้านเจอ
Flower by Melrose
พอเดินเข้าไป พนักงานต่างก็จัดดอกไม้ตามออร์เดอร์ (ของคนอื่น) อยู่
แมวดื้อก็ลุ้น
เดินไปหาพนักงานคนที่ (ดู) ว่างที่สุด
แล้วบอกไปว่าช่วยจัดดอกไม้ให้หน่อย
อยากได้เป็นช่อ ไม่ต้องใหญ่มาก
(เพราะเดี๋ยวติตี้คงไปเดินในห้างต่อ)
แมวดื้ออยากได้ดอกไม้สีขาว
จะเป็นกุหลาบหรือลิลลี่ก็ได้
รู้ว่าติตี้ชอบสีม่วง
ก็เลยบอกไปว่ามิกซ์กับดอกไม้อะไรสักอย่างที่มีสีม่วงได้ไหม
พนักงานก็ไปเปิดห่อดอกไม้ในตู้จนได้มา
แมวดื้อปิ๊งตุ๊กตาหมีหน้าร้าน
(วางโชว์อยู่)
ก็เลยขอให้จัดมาด้วย
พอจัดเสร็จ ใส่ถุงกระดาษ
ติตี้ก็โทรมาพอดี
ต้องขอขอบคุณพนักงานทางร้านที่รีบจัดดอกไม้ให้จนทันเวลา

:exercise::exercise:

เดินยิ้มๆ ทำเนียนๆ ถือไปให้ติตี้
ติตี้ดีใจจนน้ำตาซึม
ถือว่าเซอร์ไพรส์นี้ประสบความสำเร็จนะนี่

แค่รู้ว่าติตี้ชอบก็ดีใจแล้ว
XOXO

:blink::blink:


จากเอนทรีที่แล้ว
ที่เล่าค้างไว้
ติตี้มีนัดต่อขนตาที่ร้านในตึก All Season
คือตั้งใจมาเพื่อการนั้นโดยเฉพาะ
ก็เลยไม่ได้เอะใจว่าแมวดื้อจะแอบหาข้อมูลเอาไว้

หลังจากเดินไปคุยกับที่ร้าน (ต่อขนตา)
ก็มีเวลาสำหรับมื้อเที่ยงนิดหน่อย
แมวดื้อก็พาติตี้ไปเดินๆ หน้าร้าน Patio
ซึ่งจริงๆ แมวดื้อไม่เคยมาใช้บริการหรอก
อาศัยข้อมูลทางอินเทอร์เนทล้วนๆ
แต่ติตี้ไม่ปิ๊งร้าน Patio
แปลว่าข้อมูลนี้ตกไป
ผ่านไปยังร้านติดกัน

The Garage Burger & Grill
ร้านสไตล์อเมริกันคันทรี่
ตกแต่งบางส่วนดิบๆ แต่บางส่วนก็ดูร่วมสมัย
โต๊ะเก้าอี้ส่วนใหญ่จะเป็นไม้
จะมีแปลกตาก็มีเก้าอี้เรียงกันคล้ายบนเครื่องบิน
(เอ๊ะ..หรือว่าโรงหนัง ฮ่าๆๆ)
แมวดื้อกวาดตาไปรอบๆ รู้สึกว่าการตกแต่งที่นี่ เป็นแนวมุมใครมุมมัน
คือมันมีความหลากหลาย จนบางทีคิดว่าร้านเดียวกันแน่หรือเปล่า
จริงๆ ถ้าดูจากชื่อร้าน ก็พอจะเข้าใจคอนเซปต์นะ

สำรวจสภาพภูมิประเทศนานไม่ได้
เพราะว่ามีเวลาไม่นาน
เดี๋ยวติตี้ต้องไปนั่งต่อขนตาอีกเป็นชั่วโมง
รีบสั่งอาหารง่ายๆ มาเลย

ปลาหมึกชุบแป้งทอด

สปาเก็ตตี้

มันทอด มาเป็นแบบนี้เลย
(ที่ตอนแรกคิดว่าจะมาเป็นเฟรนซ์ฟรายด์)

แอบสั่งรูทเบียร์โฟล้ท
ลดอุณหภูมิและเพิ่มความหวาน

ถือว่าร้านที่ติตี้เลือกนี้ก็ใช้ได้ทีเดียว
อาหารรอนานไปหน่อย แทบไม่มีลูกค้าเลย แต่รอนานจนต้องถามว่าลืมหรือเปล่า
รสชาติใช้ได้ ราคาไม่โหดมากนัก
(ทั้งที่เดาว่าทุกร้านในตึกนี้ ราคาน่าจะหนักพอสมควรทีเดียว)

:idea::idea:


เมื่อวานนี้
จากที่ได้รู้ว่าติตี้จะไปต่อขนตาที่ตึก All Season
แมวดื้อก็วางแผนจะเซอร์ไพรส์ติตี้
เนื่องในโอกาส
1st Anniversary
ซึ่งก็ดูเหมือนว่าติตี้จะไม่ได้รู้ตัว และไม่ได้ให้ความสำคัญกับวันครบรอบสักเท่าไหร่

หนึ่งในร้านที่ตึก All Season
ที่แมวดื้อไปเจอข้อมูลมา
น่าสนใจทีเดียว
แพลนเอาไว้ว่าจะพาติตี้ไปทานมื้อเที่ยงที่นี่
(แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไปลิ้มลองร้านนี้… ไปร้านข้างๆ กันแทน.. เดี๋ยวจะเขียนถึงอีกเอนทรีนึง)

แปะข้อมูลเอาไว้เผื่อมีโอกาสไปลิ้มลอง
ภาพและข้อมูลจากเว็บไซต์ www.ilovetogo.com

== เริ่มต้นการคัดลอก ==

เฟรสพายแอปเปิ้ล พีน่าโคโลด้า(85 บาท)
เป็นน้ำสับปะรดปั่น หอมกลิ่นสับปะรด เสิร์ฟมาในแก้วทรงสูง แถมตกแต่งด้วยชิ้นสับปะรสสด สำหรับแก้วนี้ความประทับใจระดับกลางค่ะ

แตงโมและสตรอเบอรี่ปั่น (85 บาท)
แก้วนี้เป็นน้ำแตงโมปั่นรวมกับสตรอเบอรี่ค่ะ ดูแล้วหน้าตาธรรมดาๆเหมือนน้ำสตรอเบอรี่ปั่นทั่วไป
แต่พอชิมแล้ว ได้รสชาติออกเปรี้ยวหวานกำลังดีของสตรอเบอรี่และหอมกลิ่นแตงโมไปพร้อมๆกัน เข้ากันได้ดีเลยละค่ะ ชอบมากๆ

ซิตรอง เลมอนเนท (85 บาท)
แก้วนี้เรียกความสนใจได้ไม่น้อยเลยค่ะ เพราะยกมาเสิร์ฟก็เป็นแก้วใสๆ decorate ด้วยเลม่อนแผ่นฝานบางๆ และมะกอกดอง
เป็นน้ำมะนาวเปรี้ยวจี๊ดอมหวาน และรสออกซ่าๆ ค่ะ หอมกลิ่นเลม่อน ถูกใจผู้ชื่นชอบความเปรี้ยวแน่นอนค่ะ

แครนเบอรี่กุหลาบ คูลเลอร์ (95 บาท)
สีหวานมากๆ รสชาติเปรี้ยวๆ หวานนิดหน่อย โรยหน้าด้วยผลราสเบอรี่และแครนเบอรี่ หอมดีค่ะ

ซุปเห็ดพอร์ชินี่กับทรัฟเฟิลออยล์ (165 บาท)
เมนูนี้เป็นซุปเห็ดข้น ตอนที่เค้ายกมาเสิร์ฟก็ได้กลิ่นหอมกรุ่นมาเลย ความพิเศษของเมนูนี้ก็คือเค้าใช้เห็ดพอร์ชินี่ซึ่งจะมีกลิ่นหอมเฉพาะของเค้าเลยค่ะ
รสชาติของซุปเข้มข้น กลมกล่อมกว่าซุปเห็ดทั่วๆ ไป เวลาทานก็ตักซุปทานคู่กับขนมปังกระเทียมอบกรอบ ต้องทานตอนร้อนๆ จะดีมาก เมนูนี้แนะนำให้ลองเลยค่ะ

สลัดร็อคเก็ตและขาเป็ดอบกรอบ (280 บาท)
เป็นสลัดผักร็อกเก็ตและมะเขือเทศอบแห้ง ทานคู่กับขาเป็ดอบกรอบ ราดด้วยน้ำซอสเปรี้ยวๆหวานๆ
ซึ่งในน้ำซอสจะผสมเม็ดพริกไทยสดไว้ด้วย ทำให้เวลาทานได้กลิ่นหอมของพริกไทยด้วยค่ะ

ตอนที่พวกเราเริ่มถ่ายรูป คุณน้ำก็เชิญเชฟใหญ่ของทางร้านมาสาธิตการราดน้ำซอสให้ด้วยหล่ะค่ะ
เชฟก็ราดน้ำซอสอย่างคล่องแคล่ว อิอิ ^^

แท่นแท๊นนน…… ราดน้ำซอสเรียบร้อย เชฟก็เอาส้มซันควิสฝานบางๆ มาโรยเพื่อตกแต่งให้น่าทานมากขึ้น แถมยังเพิ่มกลิ่นส้มหอมๆ ให้กับเมนูนี้ด้วยค่ะ
สำหรับเมนูนี้หนังเป็ดกรอบ เนี้อข้างในนุ่มใช้ได้เลยค่ะ เวลาทานก็ทานคู่กับผักร็อกเก็ต มีกลิ่นออกแนวสมุนไพร(หอมมาก)
ซึ่งมาเบรคความเข้มของซอส ทำให้รสชาติออกมากำลังดีเลยค่ะ ระหว่างที่ทาน คุณน้ำก็ยังเล่าถึงผักร็อกเก็ตว่าเป็นผักเพื่อสุขภาพโดยแท้เพราะว่ามีไฟเบอร์สูงค่ะ

สปาเก้ตตี้ไส้กรอกซูริค (195 บาท)
เป็นสปาเก้ตตี้เส้นเล็ก ผัดกับไส้กรอกซูริค มะกอกดำ และเห็ดหอม
สำหรับจานนี้เค้าลวกเส้นสปาเก้ตตี้ได้กำลังดี เส้นไม่แข็งเกินไป และปรุงรสชาติได้กลมกล่อม และได้กลิ่นหอมเครื่องเทศจางๆ

พิซซ่าอิตาเลียน (485 บาท)
ใครเป็นคอพิซซ่าห้ามพลาดเลยค่ะสำหรับเมนูนี้ เป็นพิซซ่าอิตาเลี่ยนมีทั้งหมด 8 ชิ้น ทำจากแป้งโดพิซซ่าสด
ความพิเศษของเมนูนี้อยู่ที่หน้าพาร์มาแฮม ซึ่งเป็นแฮมสไลด์บางเฉียบ รสชาติออกเค็มมันกำลังดี
ส่วนแป้งพิซซ่าเป็นแบบแป้งบาง กรอบๆ หอมกลิ่นเนย แต่ทานแล้วไม่รู้สึกเลี่ยนเลย น่าจะถูกปากคนไทย
ทีม iLoveToGo ทุกคนลงความเห็นว่าเมนูนี้ ห้ามพลาด!!

แซลม่อนย่างคาเฟ่เดอปารีส (395 บาท)
จานนี้เป็นเนื้อปลาแซลมอนชิ้นโต ราดด้วยซอสคาเฟ่เดอปารีส (Cafe de Paris) ทานคู่กับเฟรนช์ฟรายด์ และสลัดผัก
ความลับของจานนี้จะอยู่ที่ซอสคาเฟ่เดอปารีสนี่ละค่ะ ซึ่งเป็นสูตรพิเศษของทาง Patio ซอสรสชาติออกรสเค็ม เข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องเทศ เนื้อซอสซึมเข้าไปทั่วเนื้อปลา
ได้รสชาติมากๆ ทำให้จานนี้หมดลงอย่างรวดเร็วค่ะ

เบรดแอนด์บัตเตอร์พุดดิ้ง และวนิลลาซอส (95 บาท)
มาถึงของหวานกันบ้าง เมนูนี้ออกแนวคล้ายๆ เค้กกรอบนอกนุ่มใน เป็นเนื้อเค้กหวานหอมเนย ผสมกับลูกเกดและโรยหน้าด้านบนด้วยน้ำตาล
ไส้ข้างในเป็นแอปเปิ้ลเขียว รสชาติหวานอมเปรี้ยว

ก่อนทาน เราก็ต้องราดวนิลลาซอสที่เค้าให้มาด้วยนะคะ ถึงจะครบสูตรความหอม
รสชาติหวานกลมกล่อมของเนื้อขนมผสมกับรสเปรี้ยวอมหวานของไส้แอปเปิ้ล เข้ากันได้ดีเลยค่ะ

อิ่มมากๆ เลยค่ะสำหรับมื้อนี้ โดยรวมแล้วรู้สึกประทับใจกับรสชาติอาหารค่ะ
เป็นอาหารสไตล์ Inter รสชาติถูกปากคนไทย และที่สำคัญการบริการที่นี่ก็เป็นกันเองมากๆ ค่ะ
พนักงานจะคอยเข้ามาดูแลตลอด หรือว่าเพราะเรามารีวิว อิอิ ไม่ใช่ค่ะ แอบเห็น แอบมองอยู่ตลอด บริการทั่วถึงทุกโต๊ะค่ะ

== สิ้นสุดการคัดลอก ==

Link: www.ilovetogo.com


More Posts


Working
October 13, 2011

Working

BKK flood
October 11, 2011

BKK flood

Flood App
October 8, 2011

Flood App

Bangkok flood
October 8, 2011

Bangkok flood