Tuesday nerD
วันนี้ขอแนะนำเว็บสำหรับค้นหาที่ชื่อ fnd

http://fnd.io/

URL จำง่าย สามารถใช้ได้ทั้งบนเครื่องคอมพิวเตอร์และบน iOS device

 

ผลลัพธ์ที่แสดงออกมานั้นจะมีทั้ง iOS app, Music, Movie, TV, Book, Podcast
และที่มากไปกว่านั้นก็คือ OSX app
ดังนั้นคนที่ใช้แมคร่วมกับ iOS device อันนี้จะสะดวกมาก
เพราะค้นหาแล้วขึ้นมาทั้งหมดเลย ไม่ต้องคอยเปิด iTunes และ App Store

นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ใช้งาน Alfred บนแมค (http://www.alfredapp.com/)
ก็มี Alfred workflow ให้ได้ใช้งานกันสะดวกมากยิ่งขึ้น
หรือหากใช้งาน Launch Center Pro บน iOS (http://contrast.co/launch-center-pro/
ก็สามารถสร้างปุ่ม search fnd ขึ้นมาบนแอพได้ทันที

การใช้งานในเบื้องต้นยังไม่สามารถเลือก Store ได้
(ข้อมูลมาจาก US Store ทั้งหมด)
ดังนั้นผู้ที่ใช้งาน Store อื่นๆ อาจต้องคอยตรวจสอบอีกรอบ
ราคาอาจไม่เท่ากันในช่วง (บาง Store อาจแจกคอนเทนต์ฟรี)

Official Web: http://fnd.io/ 


เดือนเมษายนมาถึงแล้ว
ทิ้งการเขียนบล็อกแบบจริงจังมา 2.5 ปีเลยทีเดียว
จริงๆ ก็มีเขียนบ้างประปราย
(ถือว่าน้อยมาก)
ด้วยเหตุเป็นคนที่ไม่ค่อยเอาแต่บ่น..บ่น
แบบเขียน (พิมพ์) บรรยาย (ระบาย) สิ่งที่อยู่ในหัวแล้วเสร็จ
แต่มักใช้เวลาไปกับการคิดหัวข้อ ทำรูป เรียบเรียงข้อความ
ที่กว่าจะได้สักเอนทรีนึง หมดเวลาไปมากมาย

บางครั้งมีเรื่องที่อยากจะเล่าแบบเทคเดียวจบ
ไม่ต้องมีการสั่งคัทหรือตัดต่อแก้ไขข้อความใดๆ
แต่ก็ขัดกับจริตที่ดูเหมือนทำงานส่งเดชไปงั้นๆ
พอเริ่มอ่านซ้ำและตรวจทาน มันก็จะยาวทุกที

พอมานั่งพิจารณาว่าตัวเองเลือกใช้คำว่า
DiaryBlog
ที่ดูเป็นเคมีส่วนผสมของ Diary ที่จะแอบบ่นๆ บ้าง ออกมาจากความรู้สึกได้โดยตรง
กับ Blog ที่จะผ่านการกลั่นกรองความคิด
มันก็ “ไม่น่า” จะต้องมากังวลอะไรหรือเปล่า
ยิ่งเป็น DiaryBlog ส่วนตัว ไม่ได้ไปอยู่ใน social network หรือ community ที่ไหน
แค่รับผิดชอบในสิ่งที่เขียนไป และอยู่ในกรอบแห่งสิ่งดี น่าจะโอเคแล้ว
เลยตั้งใจกับตัวเองจะพยายามหาเวลามาเขียน DiaryBlog ไม่ให้มันร้างอีกต่อไป

:shock::shock:

สำหรับคนที่หลงเข้ามา NaughtyCat DiaryBlog
ก็อาจจะเลือกเสพข้อมูลได้ตามต้องการ
คือหากต้องการสาระ (นิด) หน่อย ก็ให้เลือกคอลัมน์จาก NaughtyCat days ได้เลย
Living mondaY – สาระเรื่องที่อยู่อาศัย
Tuesday nerD – สาระเรื่องไอที (เน้นไปทางเครื่องแมคและ iOS)
Wednesday boX – สาระความบันเทิง ดูหนัง ฟังเพลง หนังสือ
Yummy fridaY – สาระเรื่องปากท้อง
Saturday petdoC – สาระเรื่องสุขภาพสัตว์เลี้ยง

เรื่องอื่นๆ ถ้าเขียนเยอะๆ อาจจะจัดเป็นคอลัมน์ขึ้นมาภายหลัง

พอล่ะ เห็นไหม จะเขียนสั้นๆ ลากยาวมาจนได้
ไปทำงานก่อนนะ

;-);-)


Living mondaY
เว็บไซต์ www.apartmenttherapy.com พาเยี่ยมบ้าน
Jessica & Scott’s East Coast Nest
ไอเดียในการตกแต่งบ้านน่าสนใจทีเดียว

ส่วนรับแขกที่ดูเรียบง่ายแต่คลาสสิค 

 

ช่องหน้าต่างรับแสงธรรมชาติ

การใช้โคมไฟหลายแบบหลายดวง ซึ่งนอกจากจะเพิ่มความสว่างแล้วยังเป็นการตกแต่งที่ดีอีกด้วย
แถมการเปิดดวงเล็กๆ ไม่กี่ดวง ดีกว่าเปิดทั้งหมดนะ (เปลืองไฟ) 

เบาะเก้าอี้ยาวริมหน้าต่างพร้อมหมอน 

ภาชนะต่างๆ ใช้เป็นหวาย (หรือวัสดุใกล้เคียง) 

ในห้องน้ำทำเป็นชั้นวางใกล้อ่างล้างมือ เวลาใช้งานก็สะดวกดี 

รูปอื่นๆ รวมถึงรายละเอียดเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมด อยู่ในบทความนี้เลย
http://www.apartmenttherapy.com/jessica-davis-house-tour-197997

 


วันนี้ได้ไปดู “คิดถึงวิทยา” เสียที
หลังจากที่ได้มีกระแสออกมาตั้งแต่ต้นปี
จนหนังเข้าฉายไปสิบวัน
แมวดื้อกับติตี้ไม่ได้ดูหนังโรงนานมากแล้ว
เลยเป็นโอกาสเหมาะที่เลือกจะไปดู “คิดถึงวิทยา” ในโรง
ตอนแรกจะไปเมเจอร์รัชโยธิน แล้วก็เปลี่ยนใจจะไปเซนทรัลลาดพร้าว
สุดท้ายเปลี่ยนใจกระทันหัน มุ่งหน้าสู่เอสพลานาด

ร้านโปรดของแมวดื้อที่เอสพลานาดก็มี
Coco Ichibanya กับ Morgen by EZ’s
โดยวันนี้ก็ไปลงที่ Morgen by EZ’s
ถ้ามีเวลาก็อยากจะซัดโฮกบุฟเฟ่ต์เสียนี่กระไร
แต่เดี๋ยวต้องดูหนัง แล้วรีบกลับไปทำงานต่อ ก็เลยแปะเอาไว้ก่อน

ชุดเมนู ที่ทานสองคน ท้องตึงกำลังดี
เหมาะสำหรับคนที่ทานอะไรมาบ้างแล้ว
ไม่ใช่ประเภทล้างท้องมาข้ามวัน แบบนั้นแค่นี้ไม่พอหรอก
หลังจากนั่งซัดโฮกจนหมดได้เวลาหนังฉายพอดี

ติตี้กับแมวดื้อเดินเข้าโรงหนังตอนที่เริ่มฉายหนังตัวอย่างพอดี
มีหลายเรื่องกระตุ้นความอยากดูได้เหมือนกัน
แต่บางเรื่องก็คงรอเวอร์ชัน DVD ดีกว่า
หุ..หุ

ตอนแรกที่นั่งลง
รู้สึกว่าหน้าจอมันสว่าง เหมือนหนังกลางแปลง
(หรือว่าปกติดูหนังจากจอคอมมาตลอด เลยรู้สึกแปลกๆ)
ตรงจอสีขาวก็ลอยๆ หลอกตา
(ดูเหมือนจะห่างหายจากการดูหนังในโรงมานานนนนนมาก)

คิดถึงวิทยา
เรื่องนี้แมวดื้อเสพข้อมูลมาเยอะทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็น Trailer, MV.OST หรือการโปรโมตจากคลื่นวิทยุต่างๆ
(แมวดื้อไม่ดูทีวี อย่างน้อยก็ตัดสื่อนี้ไปได้อย่างนึงแหละ)
เลยมีการเดาบทภาพยนตร์เอาไว้ในใจพอสมควร

สิ่งหนึ่งที่โปรยเอาไว้จาก Trailer หรือ MV.OST หรือคลิปโปรโมตต่างๆ
ก็คือเรื่องการใช้ชีวิตใน “ช่วงเวลาที่แตกต่างกัน” ของทั้งสองคน
แต่มันก็ไม่เชิงสื่อออกไปในทางที่ซ้อนทับกันแบบ Il Mare
แต่มันเหมือนการ์ตูนญี่ปุ่น ที่เชื่อถึงเรื่องการทำสิ่งเดียวกันจะนำไปสู่ความใกล้ชิด
เช่นการใช้โต๊ะเรียนตัวเดียวกับคนที่แอบชอบอยู่
มีหลายฉากในคิดถึงวิทยาที่ใช้วิธีการเล่าเรื่องแบบนั้น
อาทิเช่นการนอนไกวเปล, การตากผ้า, การใช้ไฟตะเกียง
ไปจนถึงวิธีเล่าเรื่องแบบตอกย้ำความรู้สึกทั้งสองด้าน
อย่างตอนที่ครูสองขี่มอเตอร์ไซต์ลงน้ำ แล้วบอกว่าทำตามครูแอนที่กระโดดน้ำ
ถ.ท.ว…….. ถูกทิ้งวิทยา!!
หรือฉากที่ครูแอนเดินลงมาจากตึกแล้วขับรถร้องไห้
ในทำนองเดียวกับที่ครูสองขี่มอเตอร์ไซต์ร้องไห้เพราะผิดหวังกับความรัก
ทั้งสองคน เหงา เศร้าพร้อมกับสนุกกับนักเรียนเหมือนกัน
หรือแม้แต่การที่ครูสองใช้ปากกาเขียนข้อความในไดอารี่ทับที่ครูแอนเขียนเอาไว้หลังไดอารี่ลอยตามน้ำไป

การเล่าเรื่องแบบนี้ ดูน่ารักกุ๊กกิ๊ก คล้ายสูตรสำเร็จ
แต่ไม่ได้โบราณแบบทื่อๆ มีการใส่ชีวิตในยุคปัจจุบันเข้าไป
เช่นเราคงจะหงุดหงิดถ้าต้องไปอยู่ในสถานที่ที่ไม่มีอินเตอร์เนทหรือสัญญาณโทรศัพท์เข้าถึง
หากขาด social network ก็คงไม่พ้นที่จะหาทางระบายอย่างการเขียนลงกระดาษ
การอ่านไดอารี่ของคนแปลกหน้า มันก็คล้ายกับการที่เราไปอ่าน facebook/twitter คนอื่นที่เราไม่รู้จัก
บางครั้งอาจจะทำให้เรารู้สึกว่าใกล้ชิดเขาเหล่านั้น
(แม้ว่าความจริงอาจไม่ใกล้เคียงเลยก็เป็นได้)

แมวดื้อชอบข้อคิดหลายอย่างเรื่องการสอนเด็กนักเรียนของคิดถึงวิทยา
การเปรียบเทียบนำไปสู่ความเข้าใจ มากกว่าการท่องจำ

ถือเป็นหนังอีกเรื่องนึงที่ชอบมาก
รอ DVD ออกมาแล้วคงจะดูอีก (หลาย) รอบ

ออกจากโรงหนังติตี้กับแมวดื้อก็ไปลิ้มลองไอติมมะม่วงซะหน่อย
ไหนๆ ก็มีโอกาสแล้ว กินเสร็จแล้วแมวดื้อก็เด้งกลับไปทำงานด่วนๆ

รสชาติก็โอเคเหมือนเดิม
แต่ทำไมรู้สึกว่ามันละลายเร็วมาก
หรือว่าแอร์ห้างนี้มันไม่เย็น

:cry::cry:


หนีเที่ยวภูเก็ต ตอนที่ 1
สืบเนื่องจากคุณป๊าของติตี้ไปธุระที่ภูเก็ต
แมวดื้อก็เลยไปช่วย (กวน) ติตี้ ดูแลคุณป๊า

สิ่งที่กังวลกับการไม่อยู่ออฟฟิศก็คือลูกๆ ทั้งสาม
เพราะว่าน้องลูกพรุนและท่านแม่ไม่ค่อยสบาย
แมวดื้อก็คงปล่อยลูกๆ อยู่ออฟฟิศ น่าจะเป็นการดีที่สุด
แถมวันอาทิตย์ดันจะมีการตัดไฟอีกด้วย
การไฟฟ้าแจ้งมาว่าจะมีการตัดไฟตั้งแต่ 09.30 – 16.00 น.
ลำพังเรื่องอาหาร/น้ำ อันนี้ทิ้งไว้หลายๆ จุด ไม่ค่อยมีปัญหา
แต่ไม่มีไฟเนี่ย ร้อนตาย
ไหนจะยา/วัคซีนที่ต้องแช่เย็นอีก
แมวดื้อเลยต้องวางแผนล่วงหน้าเอาไว้หลายทาง
สุดท้ายก็แอบยุ่งวุ่นวายในเช้าวันเดินทางจนได้

:o:o

หลังจากกอดลูกๆ ร่ำลาเรียบร้อย ก็ต้องเด้งเอายา/วัคซีนจากออฟฟิศไปเก็บไว้ที่บ้าน
จากนั้นก็เด้งไปดอนเมืองทันที
การเดินทางครั้งนี้ไปด้วย “นกแอร์”
แมวดื้อไม่ถูกจริตกับเครื่องบินสักเท่าไหร่นะ
ด้วยความที่กลัวความสูง
แม้ว่าอาจจะได้นั่งริมทางเดิน สติก็ไม่อยู่กับร่องกับรอยอยู่ดี
มีเวลานั่งรอก็เลยถ่ายรูปกันเบาๆ

ช่วงแรกพอเครื่องไต่ระดับได้เท่านั้นแหละ
มวลมหาเมฆดำรออยู่เบื้องหน้า
เดาได้ทันทีว่าวันนี้ชาวกทม.ก็คงจะได้ชุ่มฉ่ำกัน
แต่การคิดนั่นโน่นนี่ไม่ได้ช่วยให้แมวดื้อหายใจได้ทั่วท้องเลย
เมื่อเครื่องบินเซิร์ฟไปบนมวลเมฆดำอย่างกะสกู๊ตเตอร์ไต่ยอดคลื่นไม่มีผิด
ติตี้กับแมวดื้อจับมือกันแน่น เมื่อเครื่องบินกระแทกหลุมอากาศเป็นระยะ
แต่นั่นไม่ใช่สิ่งเดียว ยังมีอีกเงื่อนไขนึงเพิ่มเข้ามาอีก
นั่นคือเก้าอี้ที่นั่งของแมวดื้อ ปุ่มกดเอนพนักพิงมันจม
ผลก็คือถ้าแมวดื้อพิงเก้าอี้ มันจะเอนหงายเงิบไปเลย
แล้วมันอยู่ในภาวะที่เครื่องบินกำลังไต่ระดับ เข้าใจป่ะ
ที่ถูกต้องคือปรับระดับพนักพิงให้ตั้งขึ้น
แมวดื้อก็ต้องอยู่ในสภาพลิงพยายามโหนเกาะเก้าอี้เอาไว้
มือนึงจับติตี้ไว้ อีกมือจับที่พักแขน พยายามประคองตัวเอาไว้
กว่าที่เครื่องบินจะได้ระดับตามต้องการ ก็ทำเอาแมวดื้อปวดแขน เมื่อยคอกันเลยทีเดียว

:cry::cry:

หลังจากนั้นก็ได้เวลาแจกจ่ายของว่าง
ซึ่งพอแมวดื้อได้รับมา ก็เก็บไว้ก่อนตามความเคยชิน
คือไม่เคยคิดว่าช่วงเวลาที่มีการแจกของว่าง ไม่ว่าจะเป็นรถทัวร์ หรือเครื่องบิน
เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการทานของว่าง
ยกตัวอย่างเช่นบนรถทัวร์ สมมติว่าออกเดินทางตอนค่ำ
เพิ่งทานมื้อเย็นก่อนขึ้นรถ บางสายรถออกเดินทางแป้บเดียวก็แจกกันแล้ว
(ก็เพิ่งอิ่มมาไง)
บางสายอาจไปให้ตอนเช้ามืด โดยการปลุกผู้โดยสารแล้วให้ของว่างปิดปากซะ
(คือเดี๋ยวก็ลงรถแล้ว เดี๋ยวค่อยไปหามื้อเช้าดีกว่าไหม)
จะว่าไปเรื่องของว่างเนี่ย เขียนได้เป็นอีกเอนทรีนึงเลย
ว่าด้วยเรื่องของ “ของว่าง” ที่ไม่แน่ใจว่าทำให้ “อิ่มหรือหิว” กว่าเดิม
หรือในประเด็นที่ว่า “สะดวกหรือลำบาก” ในการกิน
บางอย่างมันทานลำบากจริงๆ นะ เลอะเทอะไปหมด!!

นั่งหลับตาแป้บเดียว ลืมตามาก็เห็นทะเลแล้ว
เห็นแผ่นดินแว่บนึง ก่อนที่วิวทั้งหมดกลายเป็นทะเลอีกรอบ
เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจยังดังไม่ขาดสาย ประหนึ่งอยู่บนรถทัวร์
เสียงเตือนให้ปรับระดับเก้าอี้อีกครา แมวดื้อก็เริ่มเป็นลิงอีกรอบ
แต่ว่าคราวนี้ดีหน่อยที่เป็นขาลง ไม่ต้องเกร็งตัวมากนัก
เครื่องบินแตะรันเวย์แบบนักวิ่งโอลิมปิคที่วิ่งมาแบบสุดแรง พอถึงเส้นชัยปุ๊บ หยุดวิ่งเลย
ไม่รุนแรงแบบน่ากลัวนะ ออกแนวงงๆ เสียมากกว่า
อ๊ะ.. จอดแล้ว

หลังจากเดินออกมาจากเครื่องบินแล้ว ก็ไปรับสัมภาระ
คุณป๊าก็โทรหาอาจารย์นัทที่จะมารับ
และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มุ่งหน้าสู่ร้านอาหารสำหรับมื้อเที่ยงกันเลย

แมวดื้อเองไปภูเก็ตครั้งสุดท้ายเมื่อสิบกว่าปีแล้ว
ตอนนั้นไปกับทัวร์ ความทรงจำเกี่ยวกับภูเก็ตประมาณเมืองท่าสำหรับท่องเที่ยว
คือเน้นที่การท่องเที่ยว (แบบธรรมชาติ) เป็นหลัก ไม่เหมือนปัจจุบัน
(ถ้าไม่นับภูเก็ตแฟนตาซีนะ)
แต่พอมารอบนี้ เห็นรถยนต์ ถนน ห้างใหญ่ ผู้คน นี่มันเมืองใหญ่ชัดๆ

ป้ายจราจรเก๋ๆ “เลี้ยวซ้ายเมื่อปลอดภัย (LEFT WHEN SAFE)”
แล้วเมื่อไหร่จะปลอดภัย?
นั่นเป็นคำถามที่คิดในใจ พอผ่านแยกต่างๆ ไปได้สักพัก ก็เห็นเลนซ้ายมักจะชะลอตัวหรือบางทีหยุดรอ
(แม้จะไม่มีรถในทางอื่น)
ณ จุดนี้แตกต่างจากเมืองกรุง ที่หากมีช่องให้ไป นิดเดียวก็จะขอแซะไป

ปากน้ำซีฟู้ด อ.ถลาง
(http://4sq.com/19mRRNI)
เป็นจุดหมายสำหรับมื้อเที่ยง มื้อแรกที่ภูเก็ตคราวนี้
สิ่งหนึ่งที่อาจต้องระมัดระวังสำหรับการท่องเที่ยวในจังหวัดภาคใต้
ก็คือเรื่อง “ความเผ็ด” ของอาหารปักษ์ใต้
หากเป็นคนที่ชอบทานอาหารรสจัดอยู่แล้ว ก็คงไม่เป็นปัญหาอะไร
แต่หากเป็นคนไม่ชอบอาหารรสจัด อันนี้ควรบอกตั้งแต่ตอนสั่งเลย
บางร้านเนี่ย ขนาดแมวดื้อชอบทานเผ็ด ยังซี้ดปากเลย
มื้อแรกนี้ก็จัดกันไปเบา..เบา

อาหารรสชาติใช้ได้เลย
ถ้ามาทานมื้อเย็น สั่งพวกทะเลเผาน่าจะดี
ราคาปานกลาง
พนักงานแอบมึนเล็กน้อย ตอนแรกก็บริการดี
พอมีลูกค้าใหม่เข้ามาก็หายตัวไปเลยทีเดียว

:???::???:


More Posts


Exercise for abdomen
October 3, 2013

Exercise for abdomen

The Conjuring
October 2, 2013

The Conjuring

Cat age
June 23, 2013

Cat age

Cronut
June 14, 2013

Cronut