Yamagoya

Friday 13th
ศุกร์ 13 ฝันสยอง
ตื่นมาก็ท้องเสียเลย
จำได้ว่าเมื่อวานก็ไม่ได้กินอะไรประหลาดๆ นะ
ตื่นมาเข้าห้องน้ำตั้งแต่ตี 4
จากนั้นก็นอนไม่หลับเลย
รู้สึกร่างกายเพลียๆ แต่ก็อยากทำงาน
ทำเว็บไปได้หน่อยนึง ก็แอบเอาหัวโขกคีย์บอร์ดไปหลายรอบ
ไข้ขึ้นเล็กน้อย
สงสัย ท่าจะไม่สบายซะแล้ว

มาถึงวันศุกร์ ก็ต้องเป็นคราวของคอลัมน์ yummy
คราวนี้หยิบเอารีวิวร้าน yamagoya ของป้าแมว
จากเว็บ annefriday.com มาแปะไว้
ปกติแล้ว รู้สึกธรรมดากับราเมงมากๆ
แต่เห็นรูปของป้าแมวแล้ว ก็อยากไปลองทันทีเลย

 

กินราเมงตอนเที่ยง 
ร้านที่เราไปกินคือร้าน ยามาโกหย่ะ Yamagoya สาขาทองหล่อ 13 
เข้าในซอยทองหล่อ 13 ที่มีร้านต้นเครื่องแล้ว 
วิ่งไปจนถึงสี่แยกหมู่บ้านญี่ปุ่น (ศูนย์ร้านอาหารญี่ปุ่น) 
แล้วเลี้ยวซ้ายนิดเดียวก็จะเห็นร้านยามาโกหยะอยู่ขวามือ 
เราไปก่อนเที่ยงเลยมีที่จอดรถหน้าร้านที่จอดได้ 5-6 คัน 
ร้านนี้มีสองสาขาคือที่ถนนสุรวงศ์ติดๆกับโรงแรมตะวันนาและทองหล่อ 

ร้านนี้ทำราเมงสไตล์กิวชิวคือใช้น้ำกระดูกหมูต้มแบบน้ำข้น 
เมนูก็มีแต่ราเมง มีเกียวสะ หรือที่เราเรียกว่า เกี๊ยวซ่า 
ไก่ทอด กับหมูชุบแป้งทอดเท่านั้น 
ถ้าสั่งยามาโกหยะราเมงซึ่งเป็น signature ของร้านก็จะมีใข่ยางมะตูมใส่มาด้วย 1 ลูก 
แต่ถ้าสั่งราเมงแบบอื่นแต่อยากกินไข่ต้มก็ต้องสั่งมาต่างหาก 
ที่นี่ใส่หมูชาชิวหรือหมูมัดต้มเพียงสองชิ้น 
ถ้าอยากกินเขาก็มีให้สั่งเป็นจานมีห้าหกชิ้นมาเพิ่มได้ 
ซึ่งรวมถึงเครื่องอื่นๆเช่นสาหร่ายวะกาเหมะ wagame กิมจิ ฯลฯก็สั่งมาใส่ต่างหากได้
เพื่อนสั่งยามาโกหยะราเมงค่ะ


ยามาโกหยะราเมง

ป้าแมวสั่งโคยุราเมงซึ่งบอกว่าใส่น้ำมันกระเทียมเพื่อสุขภาพ 
แต่ไม่มีไข่เลยต้องสั่งมาเอง 1 ลูก


โคยุราเมง

ไข่ต้มที่สั่งมาเพิ่ม รู้สึกจะ 20 บาท 
ไข่น่าจะเป็นยางมะตูมกว่านี้หน่อย 
ชอบกินแบบเยิ้มๆน่ะค่ะ

ราเมงที่นี่ชามไม่ค่อยใหญ่นัก 
ป้าแมวเลยต้องสั่งวังตังเมง wontonmen 
หรือเกี๊ยวผสมบะหมี่มาอีกชาม 
ผิดหวังที่เกี๊ยวเป็นญี่ป่นมาก 
ในแง่ที่ว่าใส่หมูนิดเดียว 
ออกแป้งเยอะ


วังตังเมง

เพื่อนสั่งหมูชาชิวมากินอีก 1 จาน


ชาชิว

แล้วเราก็สั่งเกียวสะมากินด้วย 
6 ชิ้น 100 บาท

ขออภัยที่รูปเละไปหน่อย 
เพราะไม่ทันห้ามเพื่อนว่าขอถ่ายก่อน


เกียวสะ

เราสั่งวะกาเหมะกับกิมจิมาเพิ่งด้วย 
แล้วก็สั่งเครื่องดื่มนิดหน่อย 
น้ำชาที่เสิร์ฟอร่อยหอมดีอยู่ค่ะ 
เป็นชาเขียวสีน้ำตาล 
แต่ไม่ได้ถ่ายรูป

สำหรับราเมงนั้นราคา 160-180 บาทต่อชาม

เราก็กินอย่างพอใจพอสมควร 
เพราะซุปนั้นปรุงมาพอดีไม่ต้องเติมอะไรเลย 
และอร่อยใช้ได้ทีเดียว 
แต่สำหรับป้าแมวแล้วไม่ถึงกับจับใจเป็นพิเศษแต่อย่างใด 
เพื่อนก็เห็นด้วยกับป้าแมว 
คือออกจะรู้สึกว่าถ้ามีธุระผ่านไปก็จะแวะกินได้อีก 
แต่จะให้ตั้งใจดั้นด้นไปอย่างวันนี้ก็คงไม่ไป 
แต่แน่นอนว่าอร่อยกว่าฮะจิบังราเมงที่เป็นราเมงแบบคาบเส้นเท่านั้น 
เราจ่ายค่ากินราเมงซึ่งรวมจานเล็กจานน้อยและเครื่องดื่มไป 760 บาท

เมื่อเทียบมิเตอร์ความพอใจในรสชาติกับราคาอาหารแล้ว 
ป้าแมวรู้สึกว่ามันแพงไปหน่อย

แล้วอีกอย่างป้าแมวไม่ชอบกินขิง 
ต้องตักออกบ้าง 
แต่ก็เห็นด้วยกับคุณไวท์ว่ามันช่วยชูรสราเมงอยู่เหมือนกัน

แต่บริการดีมากค่ะ ขอชมเชยพนักงาน

 
Link: www.AnneFriday.com